คอนเน็กชัน วปอ. สำแดงเดช ชิงเก้าอี้‘ปธ.โอลิมปิคฯ’เดือด
“บิ๊กป้อม” จะแก้เกมนี้อย่างไร หลังเพลี้ยงพล้ำแพ้เลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯ ท่ามกลางถูกฝ่ายการเมือง ทั้งมิตร-ศัตรูรุมกินโต๊ะ “บ้านอัมพวัน” ที่ตั้งคณะกรรมการโอลิมปิคฯ เตรียมหลุดมือ
KEY
POINTS
- จับตา บิ๊กป้อม ยื้อประธานบอร์ดโอลิมปิคฯด้วยวิธีการใด หลังแพ้เลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯ ให้รุ่นน้องเตรียมทหารคะแนนขาดลอย
- ใครจะมานั่งรักษาการเก้าอี้ ประธานบอร์ดโอลิมปิคฯ ยังเหลือเวลาอีก 4 เดือนเศษ ก่อนเลือกตั้งใหม่
- มีการปล่อยข่าว ก๊วน บิ๊กป้อม กดดัน ว่าที่นายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯ ให้ลาออก และ กกท. ไม่ให้รับรองผลการเลือกตั้ง
- แต่คณะกรรมการนั่ง บอร์ด กกท.มีสัดสวนคนเพื่อไทยมากกว่า บิ๊กป้อม
ทันทีที่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)รับรองผลการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย(สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ชื่อเดิม)เป็นไปด้วยความบริสุทธ์ ยุติธรรม
ส่งผลให้ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่เพียงหลุดเก้าอี้นายกฯสมาคมกีฬาทางน้ำฯ เท่านั้น แต่จะสิ้นสภาพ “ประธานบอร์ด”คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปโดยปริยาย
เนื่องจากไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาใดๆ ตามข้อบังคับที่คณะกรรมการโอลิมปิคฯ กำหนดไว้ หลังบิ๊กป้อมพลาดท่าพ่ายแพ้เลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาทางน้ำให้ “บิ๊กสุ่น”พล.ท.บุญชัย เกษตรตระการ ขาดลอย 22 ต่อ 231 เสียง
เดิมที “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ในฐานะเลขาธิการ เตรียมนัดประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคฯ วันที่ 12 พ.ย.หาทางออกในเรื่องนี้ โดยจะหาช่องทางให้ “บิ๊กป้อม” นั่งเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการโอลิมปิคฯ รักษาการตำแหน่ง ประธานบอร์ดไปจนกว่าจะเลือกตั้งใหม่ มี.ค. 2568
แต่ “บิ๊กน้อย” ตัดสินใจยกเลิก รอให้ กกท.ประกาศรับรองผลเลือกตั้งก่อน พร้อมประเมินท่าที่ “บิ๊กสุ่น” นายกสมาคมกีฬาทางน้ำคนใหม่ หากส่ง บิ๊กป้อมเป็นตัวแทนของสมาคมกีฬาทางน้ำ ก็สามารถนั่งประธานบอร์ดโอลิมปิคฯได้ต่อ จนกว่าถึงวันเลือกตั้งใหม่
ท่ามกลางกระแสข่าว บิ๊กสุ่น-กกท.ถูกกดดันอย่างหนักให้ลาออกจากตำแหน่ง และไม่ให้รับการรับรองการเลือกตั้งดังกล่าว เพื่อให้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯใหม่
ทว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่แน่ชัดว่า เป็นเรื่องจริงหรือแค่ปล่อยข่าวดักทางบิ๊กป้อม ไม่ให้ใช้สายสัมพันธ์ความเป็นทหารเจรจา“บิ๊กสุ่น”ขอเป็นตัวแทนว่าที่นายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯ ยืดอายุประธานบอร์ดโอลิมปิคฯหรือไม่
เพราะหากพิจารณาคณะกรรมการ กกท.ส่วนใหญ่มีสัดส่วนคนซีกรัฐบาลเพื่อไทย มากกว่าสัดส่วน พล.อ.ประวิตร ดังต่อไปนี้
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม เป็นประธานกรรมการ สรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรองประธานกรรมการ ส่วนกรรมการมาจากปลัดกระทรวงต่างๆ เช่น นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อัครุตม์ สนธยานนท์ ผู้แทนปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการ
พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พรพจน์ เพ็ญพาส ผู้แทนปลัดกระทรวงมหาดไทย สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้แทนประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ร้อยโท ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ชาญชัย สุขสุวรรณ์ ผู้แทนสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่าแห่งประเทศไทย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข สาธิต บุญทอง ผู้แทนสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการและเลขานุการ
ส่วนบิ๊กสุ่นเก็บตัวเงียบ ภายหลังผลการเลือกตั้ง ท่ามกลางการจับตามองสื่อแวดวงกีฬา การเมือง หลังถูกยกให้เป็นม้ามืดที่สามารถล้มบิ๊กป้อม ผู้คร่ำหวอดแวดวงทหาร การเมืองและกีฬา ไปพร้อมๆ กันสองเก้าอี้ เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
บิ๊กสุ่น อดีตทหารเพิ่งเกษียณฯ ปี 2566 ประวัติรับราชการในกองทัพไม่ได้หวือหวา เคยเป็นผู้บังคับกองพันพัฒนาที่ 1 จังหวัดราชบุรี รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 สำนักงานปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก รองจเร กอ.รมน.ไม่เคยคุมกำลังรบ
สำหรับประวัติด้านกีฬา เคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ เป็นเตรียมทหารรุ่น 23 รุ่นเดียว “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ อดีต ผบ.ทบ. “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธ์เอี่ยม อดีต ผบ.ทร.
บิ๊กสุ่น ถูกมองเป็นสายการเมือง เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ปี 2561 “อนุทิน ชาญวีรกุล” รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และกำลังถูกมองข้ามช็อตว่าจะมีชื่อลงชิงเก้าอี้ประธานบอร์ดโอลิมปิคฯอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหรือไม่
หากเป็นเช่นนั้น เก้าอี้ประธานบอร์ดโอลิมปิคฯ อาจไม่หมูเหมือนเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯ เพราะอาจเจอคู่ต่อสู้อย่าง “พิมล ศรีวิกรม์” นายกสมาคมกีฬาเทควันโดฯ ประธานอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา ในรัฐบาลแพทองธาร
ประวัติคร่าวๆ “พิมล ศรีวิกรม์” ลูกหม้อเก่าไทยรักไทย สส.กทม.เขต 18 มีประสบการณ์เป็นอดีตรองโฆษกพรรค และอดีตกรรมการบริหารพรรค แต่ต้องเว้นวรรคการเมือง 5 ปี หลังรัฐประหาร 2549
สำหรับกระบวนการคัดเลือก “ประธานบอร์ดโอลิมปิคฯ” ใช้วิธี ให้ 38 สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่อยู่ในสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (Olympic Council of Asia : OCA) คัดให้เหลือ 23 สมาคม
เพื่อมาคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิ สมาคมละ 10 คน รวมเป็น 33 คน และมาจากตัวแทน OCA แห่งประเทศไทย 1 คน คือ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และนักกีฬาที่ได้เหรียญ 1 คน รวม 35 คน มาโหวตเลือกประธานบอร์ดโอลิมปิคฯ
สำหรับ“บิ๊กป้อม” คงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน หากไม่ได้เป็นผู้แทนของนายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯคนใหม่ เพื่อต่ออายุประธานบอร์ดโอลิมปิคฯ ก็คงต้องไปกางข้อบังคับของคณะกรรมการโอลิมปิคฯ หาช่องทางไปนั่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ทำหน้าที่รักษาการ
ซึ่งยังไม่รู้ว่าในทางปฏิบัติสามารถทำได้หรือไม่ เพราะปัจจุบัน “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีต รมว.กลาโหมและอดีตนายกสมาคมกีฬาทางน้ำฯ และประธานบอร์ดโอลิมปิคฯ 4 สมัย ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่งเป็น ประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ อาจทำหน้าที่รักษาการ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งบิ๊กป้อมเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ขัดตาทัพก็เป็นได้
ก็เป็นเรื่องน่าคิด “บิ๊กป้อม”จะแก้เกมนี้อย่างไร ท่ามกลางถูกฝ่ายการเมือง ทั้งมิตร-ศัตรูรุมกินโต๊ะ จะปกป้อง “บ้านอัมพวัน” ที่ตั้งคณะกรรมการโอลิมปิคฯ อย่างไร ไม่ให้หลุดมือ