'ศิริกัญญา' ชี้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล ผ่าน 2 เดือนยังไร้ความชัดเจน

'ศิริกัญญา' ชี้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล ผ่าน 2 เดือนยังไร้ความชัดเจน

'ศิริกัญญา' ลั่นยิ่งตามยิ่งงง กับนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาล เผยรอมา 2 เดือนเต็ม แต่ยังไม่มีความชัดเจนอะไรสักอย่าง เหน็บเปลี่ยนนายกฯ แค่คนเดียว เหมือนตั้งรัฐบาลใหม่

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2567 น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า อุตส่าห์รอมา 2 เดือนเต็ม วันนี้คณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชุมนัดแรก เราได้ความชัดเจนอะไรกันบ้าง ลองมาดูกัน

1. แจกเงินหมื่นรอบที่ 2 (ยังไม่เป็น Digital Wallet) กับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป 3-4 ล้านคน โดยจะแจกประมาณต้นปีหน้า ช่วงตรุษจีน ยังไม่ชัดว่าแจกวันที่เท่าไร ลงทะเบียนเพิ่มเมื่อไหร่

2. ปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มบ้าน กลุ่มรถยนต์ และกลุ่มหนี้บริโภค ที่เป็น NPL ไม่เกิน 1 ปี วงเงินหนี้ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท จะได้รับพักชำระดอกเบี้ยค้างจ่าย รายละเอียดยังไม่ชัดต้องรอหลังวันที่ 20 พ.ย.67

3. โครงการไร่ละพันก็มา (ปกติต้องเป็นคณะกรรมการนโยบายข้าว หรือ นบข.ต้องเป็นคนเคาะ) แต่จะมีการปรับรายละเอียดอีกเพื่อไม่ให้เป็นภาระงบประมาณในระยะยาว ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะปรับอะไร ได้ข่าวว่าน่าจะปรับจากแจกไม่เกิน 20 ไร่ เหลือไม่เกิน 12 ไร่ เท่ากับจะได้บ้านละไม่เกิน 12,000 บาท จากเดิม 20,000 บาท

"สรุปว่ายังไม่มีอะไรชัดเจนสักอย่าง จริงๆ นะ… แค่เปลี่ยนนายกฯคนเดียวนี่เหมือนอย่างกับตั้งรัฐบาลใหม่ เหมือนไม่เคยคิดเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจกันมาก่อนหน้านี้เลย ต้องเริ่มต้นใหม่ต้องใช้เวลาถึง 2 เดือน หรือว่า… เศรษฐกิจไตรมาส 3 ที่สภาพัฒน์เพิ่งออกมาประกาศว่าโต 3% ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ อาจจะทำให้รัฐบาลรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วก็ได้หรือไม่ ถึงได้ดูลังเล ไม่รีบร้อน" น.ส.ศิริกัญญา ระบุ

น.ส.ศิริกัญญา ระบุอีกว่า แต่ถ้าเราเจาะไส้ในของ GDP จะพบว่า ที่เศรษฐกิจโตดีมาจากงบปี 67 ที่ออกมาไตรมาส 2 และเร่งเบิกจ่ายกันในไตรมาส 3 ทั้งส่วนของรายจ่ายลงทุน และรายจ่ายประจำ บวกกับการส่งออกที่กลับมาดี และแน่นอนการท่องเที่ยวยังคงเติบโตได้ดี แต่ส่วนที่ยังเป็นปัญหาคือ การลงทุนภาคเอกชนที่ยังหดตัวมา 2 ไตรมาสติดแล้วจากหมวดยานยนต์ และหมวดก่อสร้าง  สอดคล้องกับยอดขายรถกระบะที่หดตัวลง (รถกระบะเชิงพาณิชย์นับเป็นการลงทุน) และยอดขายบ้านที่ลดลง ที่ทั้ง 2 เรื่องเป็นเรื่องของการไม่ปล่อยสินเชื่อของแบงก์

"แน่นอนว่าทั้ง 2 เรื่องโยงกลับไปที่ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งรัฐบาลเองก็มีมาตรการแก้ปัญหาเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน คือ การปรับโครงสร้างหนี้ให้คนที่เป็น NPL ก็ดูเหมือนจะมาถูกทาง รึเปล่า" น.ส.ศิริกัญญา ระบุ

รองหัวหน้าพรรค ปชน. ระบุว่า มาดูกันว่าการปรับโครงสร้างหนี้รอบนี้จะช่วยอะไรบ้าง ช่วยให้ยอด NPL ลดลง ทำให้แบงก์ตั้งทุนสำรองลดลง แบงก์มีกำไรเพิ่ม แต่แบงก์จะปล่อยกู้เพิ่มมั้ย อันนี้บอกเลยว่าไม่แน่เสมอไป เพราะสาเหตุที่แบงก์ไม่ปล่อยกู้คือ ความเสี่ยงของลูกหนี้เอง ที่มีรายได้ไม่พอจ่ายหนี้ (credit risk) แปลว่าถึงแบงก์มีเงินเพิ่มก็ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยกู้บ้าน กู้รถเพิ่มในปริมาณเท่ากัน เหตุการณ์คล้ายๆ กันกับการที่แม้ดอกเบี้ยลด ก็ไม่ได้หมายความว่าแบงก์จะปล่อยกู้เพิ่ม

วิธีที่จะแก้ปัญหานี้ คือ ต้องทำให้รายได้ประชาชน รายได้ผู้ประกอบการดีขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงฝั่งลูกหนี้ จะหวังแค่ว่าให้ GDP โตอย่างเดียวไม่ได้ ประชาชนต้องมีเงินมากขึ้นด้วย

วิธีแก้ => รัฐบาลก็เลยแจกเงินหมื่นให้คนอายุเกิน 60  3 ล้านคน แบบนี้เหรอ มันจะช่วยอะไรได้จริงๆ เหรอ 2 เดือนที่รอคอย ยิ่งตามก็ยิ่งงง กับรัฐบาลนี้จริงๆ

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์