เปิดนโยบาย ‘ศราวุธ’ vs ‘คณิศร’ ชิงแต้ม ‘สวิงโหวต’ ศึกนายก อบจ.อุดรฯ

เปิดนโยบาย ‘ศราวุธ’ vs ‘คณิศร’ ชิงแต้ม ‘สวิงโหวต’ ศึกนายก อบจ.อุดรฯ

ทั้งหมดคือ 2 นโยบายจาก “ค่ายแดง-ค่ายส้ม” ที่หยิบยกมาประชันกันในสมรภูมิรบท้องถิ่นสำคัญของภาคอีสาน สุดท้ายใครจะเข้าวิน และ “เปลี่ยนสีเมืองหลวง” 24 พ.ย.วันกาบัตร ต้องติดตาม

KEY

POINTS

  • การหาเสียงโค้งสุดท้ายศึกชิงนายก อบจ.อุดรธานี กำลังดุเดือด
  • สาเหตุประการสำคัญคือคะแนน “สวิงโหวต” ยังมีมากกว่าครึ่ง ใครจะช่วงชิงไปได้
  • “เพื่อไทย” ส่ง “สส.ป๊อป ศราวุธ” ออกหน้ารบ ชูสานต่อนโยบายเดิม ริเริ่มนโยบายใหม่
  • “ปชน.” ส่ง “ทนายป๊อก คณิศร” ตะลุยเก็บแต้ม ดัน “น้ำประปาดื่มได้” ที่เคยสำเร็จมาแล้วก่อนหน้านี้
  • ใครจะเข้าวินคว้าชัย “เปลี่ยนสีเมืองหลวง” 24 พ.ย.ต้องติดตาม

โค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้ง “นายก อบจ.อุดรธานี” ชิงจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งภาคอีสาน กลายเป็นอีกสมรภูมิสำคัญ และมีความคึกคักเป็นอย่างยิ่ง หลังจาก “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ปะทะคารมกับ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” 2 แกนนำ “ค่ายส้ม” ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน (ปชน.)

วิวาทะระหว่าง “ทักษิณ” และ “ธนาธร-พิธา” เปรียบเสมือนการส่งสัญญาณดัง ๆ ไปยังการเมืองภาพใหญ่ว่า สงครามระหว่าง “ค่ายแดง” กับ “ค่ายส้ม” กลับมาปะทุกันอีกคำรบ หลังจาก “พักรบชั่วคราว” เพื่อผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา และการตราร่างกฎหมาย “นิรโทษกรรม” ทว่าทั้ง 2 ดีลดังกล่าว “ถูกล่ม” จนหมด

สำหรับศึกเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี “พรรคเพื่อไทย” ส่ง “ศราวุธ เพชรพนมพร” อดีต สส.เจ้าถิ่น เป็นผู้สมัคร ส่วน “ปชน.” ส่ง “คณิศร ขุริรัง” ทนายความชื่อดังในพื้นที่ เป็นผู้สมัคร ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างชูนโยบายเพื่อเรียกร้องคะแนนเสียง พุ่งเป้าไปที่ “กลุ่มสวิงโหวต” ที่คาดว่าน่าจะมีเป็นจำนวนมาก

ในวันนี้พื้นที่ “อุดรธานี” มิใช่ “เมืองหลวงคนเสื้อแดง” อย่างเดิม แต่เป็นพื้นที่สำหรับพรรคฝ่ายอ้างตัวอยู่ข้างประชาธิปไตย ซึ่งพรรค ปชน.พยายามปลุกเร้าคนในพื้นที่เปลี่ยนจาก “เมืองหลวงสีแดง” เป็น “อุดรธานีสีส้ม” ขณะที่ “เพื่อไทย” พยายามใช้ความเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ผลักดันนโยบาย “ประชานิยม” เข้าสู่พื้นที่

เปิดนโยบาย ‘ศราวุธ’ vs ‘คณิศร’ ชิงแต้ม ‘สวิงโหวต’ ศึกนายก อบจ.อุดรฯ

สำหรับนโยบายของ “ทนายป๊อก คณิศร” แห่ง ปชน. มี 8 นโยบายหลักในแคมเปญ “เปลี่ยนอุดร” โดยเอานโยบายหลักที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่สมัย “คณะก้าวหน้า” ดูแลภารกิจเลือกตั้งท้องถิ่น นั่นคือ “น้ำประปาดื่มได้” ที่ทำจนประสบความสำเร็จ พร้อมกับชูเศรษฐกิจอุดร เพื่อปากท้องที่มั่นคง พุ่งเป้าไปที่ศูนย์บริการเครื่องจักรทางการเกษตร 

พร้อมกับชูเรื่องสาธารณสุขเพื่อทุกคน ทั้งการตั้ง รพ.สต.ก้าวหน้า การเสริมบริการ รพ.สต.ให้ครบคุณภาพ นโยบายผู้สูงอายุสุขใจดูแลผู้ป่วยติดเตียงถึงบ้าน และศูนย์ไตเทียมใกล้บ้านให้ประชาชน ชูสวัสดิการครอบคลุม เช่น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ใส่ใจส่งถึงบ้าน หรือการเสริมทักษะให้กลุ่มเปราะบาง 

ขณะเดียวกันยังชูเรื่อง อบจ.โปร่งใส ให้ชาวอุดรธานี มีส่วนร่วมให้ประชาชนตรวจสอบได้ เน้นย้ำไปด้านการศึกษา ทั้งการจัดพื้นที่ Co-working Space การพัฒนางานครู สร้างจุดศูนย์กลางวิทย์อีสาน ปลูกสร้างพัฒนาการเด็ก ทั้งเบบี้บ็อกซ์ ให้ของขวัญเด็กแรกเกิดทุกคน ตรวจเยี่ยมคุณแม่ ให้คำแนะนำการเลี้ยงเด็ก และตั้งศูนย์เด็กอุ่นใจ เปิด 7 วันต่อสัปดาห์ เป็นต้น

เปิดนโยบาย ‘ศราวุธ’ vs ‘คณิศร’ ชิงแต้ม ‘สวิงโหวต’ ศึกนายก อบจ.อุดรฯ

ตัดภาพมาที่ “สส.ป๊อป ศราวุธ” ที่ใช้แคมเปญ “สานต่อนโยบายเดิม ริเริ่มนโยบายใหม่ ยกระดับคุณภาพชีวิตคนอุดร” โดยสานต่อนโยบายเดิมคือ ร่วมมือกับทุกหน่วยงานผลักดันมหกรรมพืชสวนโลกให้สำเร็จ ประสานงานผลักดัน ถนนวงแหวนรอบ 2 ให้สำเร็จ ประสานงานการจัดตั้ง ม.อุดรธานี ให้สำเร็จ สนามกีฬาที่ได้มาตรฐานทุกตำบล พัฒนาแหล่งน้ำให้อุดมสมบูรณ์ เช่น โครงการปล่อยพันธ์สัตว์น้ำจืด พัฒนา ซ่อมแซม ถนนหนทางให้ดียิ่งขึ้น

ส่วนนโยบายใหม่ เช่น การวางแผนป้องกันน้ำท่วมอย่างยั่งยืน พัฒนาระบบประปาหมู่บ้านให้มีคุณภาพทันสมัย ส่งเสริมการใช้โดรน เพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึงทั้งจังหวัด พัฒนาระบบการดูแลสุขภาพด้วยเครื่องมือแพทย์ทันสมัย ทำให้ รพ.สต. ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างมีคุณภาพ

รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน โรงเรียนสังกัด อบจ.ให้มีคุณภาพ เพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้มีโรงเรียนกีฬาใน จ.อุดรธานี ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ จ.อุดรธานี เป็นเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เชิงธรรมะ และวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้ชาวอุดรครอบคลุมทุกพื้นที่

ทั้งหมดคือ 2 นโยบายจาก “ค่ายแดง-ค่ายส้ม” ที่หยิบยกมาประชันกันในสมรภูมิรบท้องถิ่นสำคัญของภาคอีสาน สุดท้ายใครจะเข้าวิน และ “เปลี่ยนสีเมืองหลวง” 24 พ.ย.วันกาบัตร ต้องติดตาม