‘ปานเทพ’ ชี้ MOU44 ‘กัมพูชา’ อ้างสิทธิ์เกิน อันตราย หวั่นซ้ำรอยเขาพระวิหาร

‘ปานเทพ’ ชี้ MOU44 ‘กัมพูชา’ อ้างสิทธิ์เกิน อันตราย หวั่นซ้ำรอยเขาพระวิหาร

“ปานเทพ” เผย “สนธิ” ประกาศจุดยืนทางการเมือง เย็นนี้ จ่อเคลื่อนไหวต่อไป ชี้ MOU44 เปิดทางเจรจาพื้นที่ทับซ้อน อันตรายมาก กัมพูชา ขีดเส้นอ้างสิทธิ์เกิน หวั่น ซ้ำรอยเขาพระวิหาร ชี้ แถลงการณ์ร่วมลงนามระหว่าง ทักษิณ-อุนเซน หายจากสารระบบ จี้ อดีตนายกฯ พิสูจน์ตัวเอง

ที่ม.ธรรมศาสตร์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงแนวทางการเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า เวทีความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเพื่อชาติ ครั้งที่ 4 ในวันนี้ เป็นเวทีทดสอบกำลัง และอุ่นเครื่องมวลชนที่เคยอยู่กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล มาก่อน โดยยังไม่มีการเคลื่อนไหวมวลชน เพราะยังอยู่ภายในมหาวิทยาลัย เพื่อปราศรัย และให้ความรู้ประชาชน ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ MOU44 รวมถึงประเด็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งหมดถือเป็นเรื่องการเมือง วันนี้จึงเป็นการแบ่งปันความรู้ และแชร์ประสบการณ์ เพื่อให้ประชาชนที่ยังเข้มแข็ง ซื้อบัตรมาเข้าฟังอย่างเต็มหอประชุม สะท้อนว่ามวลชนยังเหนียวแน่น จึงต้องทำหน้าที่ในการสื่อสารความรู้ความเข้าใจให้ตรงกัน พร้อมยังระบุว่า การปราศรัยในช่วงเย็นวันนี้นายสนธิ จะประกาศจุดยืน และการเคลื่อนไหวในลำดับถัดไป 

นายปานเทพ กล่าวปัญหาในกระบวนการยุติธรรม ประเด็นทางการเมือง MOU44 รวมถึง เขากระโดง และนายทักษิณ จะเป็นเหตุให้มีการประกาศจุดยืน นัดรวมพลมวลชนหรือไม่นั้น สถานการณ์ขณะนี้ ประชาชนรับทราบอยู่แล้ว และไม่เชื่อว่า นายทักษิณ ป่วยจริงในการรักษาตัว และกรณีเขากระโดง ก็มีคำพิพากษาศาลฎีกาแล้ว แต่ที่ดินยังไม่กลับคืนสู่การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือกรณี MOU44 ที่การจะไปเจรจาผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อน ประเทศไทยก่อนปี 2544 ไม่เคยยอมรับเส้นอ้างสิทธิ์ของกัมพูชา ซึ่งอันตรายมาก เพราะลักษณะการขีดเส้นจะไปซ้ำรอยกับประสาทเขาพระวิหาร ที่แม้ประเทศไทยไม่ได้ปฏิเสธ ก็เสียประสาทเขาพระวิหารแล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่า จะเป็นการเดินซ้ำรอยประวัติศาสตร์หรือไม่ และมั่นใจว่า MOU44 ไม่ใช่ปัญหาพื้นที่อ้างสิทธิ์ แต่เป็นการอ้างสิทธิ์เกินจริงคร่อมเกาะกูด จึงไม่ใช่พื้นที่อ้างสิทธิที่ถูกต้องในการเจรจา ยกเว้นว่า นายทักษิณ จะมีผลประโยชน์ฝ่ายกัมพูชา เพราะย้อนไปในปี 2551 มีข่าวจากกัมพูชาว่า นายทักษิณ มีการลงทุนในเกาะกง 

นายปานเทพ กล่าวว่า ปัจจุบัน MOU44 ที่ลงนามระหว่างอดีตรมว.ต่างประเทศไทย และอดีตรมว.ต่างประเทศกัมพูชา ยังมีอีกฉบับหนึ่งซึ่งลงนามในวันเดียวกัน เอกสารดังกล่าวกลับหายไปจากสารระบบ ได้แก่ แถลงการณ์ร่วมที่ลงนามระหว่างนายทักษิณ และสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จึงเท่ากับเป็นการใช้ผู้นำอำนาจฝ่ายบริหารไปตกลงกัน โดยไม่มีพระบรมราชโอการ แตกต่างจากพระบรมราชโองการ 2516 ที่ได้ขีดเส้นไหล่ทวีปเพียงเส้นเดียว และพระบรมราชโองการได้กำหนดให้ใช้กฎหมายทะเลสากลในการเจรจาเท่านั้น ไม่สามารถขีดเส้นตามอำเภอใจได้ พร้อมเรียกร้องให้นายทักษิณ พิสูจน์ตัวเองด้วย รวมถึงกรณีที่นายสนธิ จะไปทวงถามคดีการลอบยิงจากนายทักษิณ ที่ยังไม่คืบหน้าด้วย 

นายปานเทพ กล่าวอีกว่า ยังไม่มีการคิดเรื่องการปลุกม็อบครั้งนี้จะจุดติดหรือไม่ เพราะยังไม่ถึงเวลา เป็นเพียงมาประชุมกันในหอประชุมเท่านั้น และยังไม่ถึงจุดที่จะมีการประเมินสถานการณ์ว่าสุกงอมแล้วหรือไม่ เพราะเป็นเพียงการให้ความรู้ประชาชนในฐานะสื่อมวลชนเท่านั้น และมั่นใจว่า ประชาชนมีความตื่นตัว เพราะมีประชาชนมาร่วมกิจกรรมมากกว่าที่ประเมินไว้ แต่ปีหน้ายืนยันได้ว่า จะมีการยื่นหนังสือจากนายสนธิ ถึงนายกรัฐมนตรีแน่นอน ส่วนจะมีประชาชนไปร่วมยื่นด้วยหรือไม่นั้น ก็ขอให้ติดตาม ทั้งนี้ การเคลื่อนไหววันนี้ เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีใครนำกฎหมู่ อยู่เหนือกฎหมายได้ และอยู่ที่ว่า ประชาชนจะรู้สึกอย่างไร โดย เป็นการทดสอบมวลชนของนายสนธิ และขอให้รอติดตามเซอร์ไพร์สจากนายสนธิด้วย