ศาลสั่งคุก 2 ปี 'อานนท์' ผิด ม.112-พ.ร.บ.คอมพ์ รวมโทษ 5 คดี 16 ปี 2 เดือน 20 วัน

ศาลสั่งคุก 2 ปี 'อานนท์' ผิด ม.112-พ.ร.บ.คอมพ์ รวมโทษ 5 คดี 16 ปี 2 เดือน 20 วัน

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก ‘อานนท์’ 2 ปี ผิด ม.112-พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คดีโพสต์จดหมายราษฎรสาส์น รวมโทษจำคุก 5 คดี 16 ปี 2 เดือน 20 วัน

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2567 ห้องพิจารณาคดี 905 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.1395/2565 ที่อัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายอานนท์ นำภา ทนายความ และแกนนำม็อบราษฎร ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และพระราชินีฯ มาตรา 112 และข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14

คำฟ้องโจทก์สรุปว่าเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2563 เวลากลางวัน นายอานนท์ นำภา จําเลย โพสต์รูปภาพพร้อมด้วยตัวหนังสือ เป็นข้อความภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ( หรือราษฎรสาส์น) ลงในเฟซบุ๊ก ชื่อ“อานนท์ นําภา” ซึ่งเป็นบัญชีเฟซบุ๊กของจําเลย ที่กําหนดค่าการโพสต์ข้อความเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้ประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่พบเห็นโพสต์ดังกล่าวเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้อำนาจทางการเมือง อันเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งไม่เป็นความจริง และ จาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย และเป็นการใส่ร้าย รัชกาล ที่ 10 โดยประการที่น่าจะทําให้เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยมีเจตนาอาฆาตมาดร้าย ทําลายสถาบันพระมหากษัตริย์ และทําให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะต่อพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
โดยวันนี้ศาลอาญาเบิกตัวนายอานนท์ จากเรือนจำเพื่อมาฟังคำพิพากษา ขณะที่ทนายความจำเลย และมวลชนจำนวนหนึ่งมาติดตามฟังคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (3) (5) การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมาย ให้ลงโทษฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 3 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี ให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอื่นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ศาลได้พิพากษาจำคุก นายอานนท์แล้ว 4 คดี ประกอบด้วย คดีหมายเลขดำ อ.2495/2564 ของศาลอาญา หมายเลขดำ อ.2804/2564 ของศาลอาญา หมายเลขดำ อ.1676/2564 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ และหมายเลขดำ อ.735/2564 ของศาลอาญา รวมโทษจำคุก 14 ปี 2 เดือน 20 วัน เมื่อรวมกับคดีนี้คือหมายเลขดำ อ.1395/2565 ของศาลอาญา รวมโทษจำคุกถึงขณะนี้ 16 ปี 2 เดือน 20 วัน

โดยนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความแกนนำม็อบราษฎร กล่าวว่า ศาลอาญาพิพากษาจำคุก นายอานนท์ นำพา เป็นเวลา 3 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้ 1ใน 3 คงจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา และให้นับโทษต่อจากคดีอื่นด้วย จากการปรึกษากับนายอานนท์ เขาบอกให้ยื่นอุทธรณ์สู้คดีต่อไป เพราะยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด ทั้งนี้เนื่องจากศาลมีคำพิพากษาจำคุก ทีมทนายความจึงยังไม่มีแนวทางที่จะยื่นประกันนายอานนท์ เพราะก่อนหน้านี้ได้ยื่นประกัน แต่ศาลยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว

อย่างไรก็ตามสำหรับความเป็นมาคดีนี้ อานนท์ นำภา ถูก ว่าที่ ร.ต.นรินทร์ ศักดิ์เจริญชัยกุล หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม “ไทยภักดี” เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) หลังเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2563 กลุ่ม “ประชาชนปลดแอก” ได้จัดการชุมนุม #ราษฎรสาส์น ให้ประชาชนร่วมกันเขียนจดหมายถึงกษัตริย์ และมีการเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปใกล้พระบรมมหาราชวัง