‘สนธิ’ บุก ทำเนียบฯ จี้ ‘แพทองธาร’ ฉีกMOU44 ขายชาติ เมิน พระบรมราชโองการ

‘สนธิ’ บุก ทำเนียบฯ จี้ ‘แพทองธาร’ ฉีกMOU44 ขายชาติ เมิน พระบรมราชโองการ

“สนธิ” บุก ทำเนียบฯ ยื่น 6ข้อเรียกร้อง ถึง “แพทองธาร” ฉีก MOU44 ฉบับขายชาติ เมิน พระบรมราชโองการ กม. เด็ดขาดกำหนดg-9ไหล่ทวีป ซัด “สุรเกียรติ์” มือร่าง หวังแลก “ทักษิณ” ดัน นั่งเลขาฯUN จ่อยื่นปธ.สภา-สส.-สว.-กต. ลั่น สู้ครั้งนี้ต้องชนะลูกเดียว ถ้าถึงเวลาลงถนน มากกว่านี้พันเท่า

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยนายปานเทพ และคณะ รวมถึงกลุ่มมวลชนผู้สนับสนุน เข้ายื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิก MOU44 ผ่านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เพื่อขอให้นายกฯ หยุดดำเนินการตาม MOU44 และแถลงการณ์ร่วมระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับนายฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา (JC 2544) เพราะมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญฝ่าฝืนต่อพระบรมราชโองการในการประกาศทะเลอาณาเขตและเขตทะเลต่อเนื่อง 

โดยเนื้อหาในข้อเรียกร้องของนายสนธิ มี 6 ข้อ ประกอบด้วย

1.ขอให้นายกฯและครม.รักษาไว้ซึ่งเอกราชและอธิปไตยของไทย และแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีป ซึ่งเป็นหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของรัฐบาล 

2. ขอให้นายกฯเสนอเรื่องต่อครม.พิจารณามีมติให้ส่งMOU44 และJC 2544 ต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติ มาตรา1และมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญไทยหรือไม่

3. หากศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าMOU44 และJC 2544 ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญให้ยกเลิกการเจรจา ตามMOU44 และ JC 2544 เพื่อปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาทันที 

4.หากศาลวินิจฉัยแล้วว่าไม่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ขอให้ครม. จัดให้มีการเจรจากับกัมพูชา เพื่อยกเลิกMOU44 และJC 2544 ทันที โดยให้เจรจากันใหม่ภายใต้การกำหนดขอบเขตเฉพาะพื้นที่พัฒนาร่วมบนพื้นฐานโดยใช้หลักการของ เส้นมัธยะ 

5. ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค หรือ JTC ไทย-กัมพูชา ไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและมีการดำเนินการให้ถูกต้อง 

และ6. ให้จัดเวทีสาธารณะแก่ประชาชนเรื่องMOU44 และJC 2544 โดยให้ความรู้ความเข้าใจที่เป็นกลาง เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศ ทั้งนี้ ขอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณากลับภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ครม.ได้พิจารณา

ทั้งนี้ นายสนธิ กล่าวว่า วันนี้ได้มอบเอกสารหนังสือร้องเรียนรัฐบาลชุดนี้ กำลังทำผิด เพราะว่า MOU44 นั้น มันเป็น MOUขายชาติ อย่างไรก็ตาม มีการถามตนว่าจะลงถนนเมื่อไหร่ คำถามทุกคนมีอยู่แล้วในใจอยากจะรู้ใช่หรือไม่ เดี๋ยวตนจะอธิบายให้ฟัง ก่อนจะระบุถึงรายละเอียดพระบรมราชโองการ ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประกาศ กำหนดไหล่ทวีปในด้านอ่าวไทย มีพระบรมราชโองการประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า เพื่อความมุ่งประสงค์ในการใช้สิทธิอธิปไตยของประเทศไทยในการสำรวจและแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย จึงกำหนดให้เขตไหล่ทวีปตามแผนที่พิกัดและภูมิศาสตร์ ประกอบเป็นเขตไหล่ทวีปของไทย โดยยึดถือมูลฐานแห่งสิทธิตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศ อันเป็นที่ยอมรับ และอนุสัญญาว่าด้วยไหล่ทวีป ทำขึ้นที่กรุงเจนีวา เมื่อ29 เม.ย. ปี คศ.1958 และประเทศไทยได้ให้สัตยาบันเอาไว้แล้ว เมื่อ2ก.ค.พ.ศ.2511 แผนที่และจุดต่อเนื่องที่กำหนดพิกัดภูมิศาสตร์ตามประกาศ มีเพื่อแสดงเส้นกำหนดทั่วไปของไหล่ทวีป สำหรับสิทธิอธิปไตยในส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขต อันจะถือเป็นจุดเริ่มของเส้นแบ่งเขตไหล่ทวีป จะเป็นไปตามที่ได้ตกลงกัน โดยยึดถือมูลฐานแห่งบทบัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยทะเลอาณาเขตต่อเนื่อง ประกาศเมื่อ 18พ.ค. พ.ศ.2516 

“พระบรมราชโองการ ชัดเจน มาจากประมุขของประเทศ บอกว่าให้ทำอย่างนี้ ซึ่งก็เปรียบเสมือนเป็นกฎหมายเด็ดขาด ในการที่จะกำหนดเขตไหล่ทวีป และพื้นที่ทางอ่าวไทยของประเทศไทย ต้องทำตามพระบรมราชโองการ” นายสนธิ กล่าว 

นายสนธิ กล่าวอีกว่า MOU44 เกิดขึ้นมาได้อย่างไรโดยไม่คำนึงถึงพระบรมราชโองการ ก็เกิดขึ้นมาได้เพราะนายทักษิณ ตอนนั้น จับมือกับฮุนเซน เพื่อร่างMOU44 เปิดโอกาสให้ยอมรับแผนที่กัมพูชา ที่ลากเส้นกินพื้นที่ของไทย ทำไมนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรมว.ต่างประเทศ ถึงกล้าร่างMOU44 โดยไม่ได้สนใจพระบรมราชโองการ เหตุผลเพราะว่านายสุรเกียรติ์ ต้องการให้นายทักษิณ ส่งเสริมให้ตัวเองเข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการสหประชาชาติ ตอนนั้น นั่นคือเบื้องหลัง 

นายสนธิ กล่าวว่า ตนให้เวลารัฐบาลชุดนี้ 15 วัน หลังจากนั้นจะมาติดตามผล โดยหลังจากนี้ตนจะร้องเรียนต่อประธานรัฐสภา จะส่งเอกสารให้สส. และ สว.ทุกคนยืนยันสิทธิ์ของประเทศไทย หากสส. และ สว. คนไหนลงมติเห็นชอบMOU44 จะถือว่าอยู่ในขบวนการร่วมกันขายชาติเช่นเดียวกัน และตนจะยื่นหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ ถ้าไม่ปกป้องอาณาเขตไทย ท่านก็คือข้าราชการขายชาติเช่นกัน

นายสนธิ กล่าวว่า การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องชนะลูกเดียว ถ้าถึงเวลาที่จะต้องลงถนนกันก็จะมามากกว่านี้เป็นพันเท่า ถ้าอะไรที่เป็นของเรา แล้วมาเอาไปก็ต้องเจอกัน บางคนพูดถึงเรื่องเก่าว่าประเทศไม่เดินหน้าเพราะการประท้วง ตนเป็นสารตั้งต้นความวุ่นวาย ถามว่าที่ประท้วงในปี48 เราประท้วงใคร และเรื่องอะไร ใช้เวลา 18 ปี เพื่อพิสูจน์ว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ให้นายทักษิณสารภาพผิด และบรรจุลงในราชกิจจานุเบกษาว่าได้คดโกงประเทศชาติอย่างไร ความจริงและประวัติศาสตร์รอมาตั้ง 18 ปี และขอถามถึงน.ส.แพทองธาร และพรรคเพื่อไทย ตนและพวกทำผิดตรงไหนที่ไม่ยอมส่งดินแดนของเราให้กับกัมพูชา เพียงเพราะนายกฯทับซ้อนบางคนมีข้อตกลงกัน จะแบ่งผลประโยชน์กัน 50:50 

 

ภาพปกจากเพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ