ปชน.ย้ำจุดยืนแก้ พ.ร.บ.กลาโหม คีย์สำคัญสกัดรัฐประหาร หนุน พท.เต็มที่

ปชน.ย้ำจุดยืนแก้ พ.ร.บ.กลาโหม คีย์สำคัญสกัดรัฐประหาร หนุน พท.เต็มที่

ปชน.ประกาศย้ำจุดยืนแก้ไข พ.ร.บ.กลาโหมฯ เปิดประตู 'ปฏิรูปกองทัพ' ชี้เป็นกุญแจสำคัญสกัดรัฐประหาร พร้อมหนุนร่างแก้ไขกฎหมาย 'เพื่อไทย' 

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2567 พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พรรคประชาชน - People's Party เน้นย้ำจุดยืนการแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกลาโหม เพื่อปฏิรูปกองทัพ และสกัดการรัฐประหาร โดยพร้อมสนับสนุนร่างแก้ไขกฎหมายของพรรคเพื่อไทย และของ ปชน.เอง โดยระบุว่า เปิดประตูปฏิรูปกองทัพ ต้องแก้ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกลาโหม ตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล มาถึงพรรคประชาชน เรายืนยันความจำเป็นในการปฏิรูปกองทัพให้มีความโปร่งใส ทันสมัย เป็นมืออาชีพ เป็นกองทัพที่ไม่แทรกแซงการเมือง ตามหลักการประชาธิปไตยและมาตรฐานสากล 

กุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้เราทำทั้งหมดนี้ได้ คือการแก้ไข “พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม” ซึ่งพรรคประชาชนได้ยื่นเข้าสู่สภาฯ และเริ่มการพิจารณาในวาระที่ 1 ไปแล้วเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่สภาฯ กลับมีมติส่งร่างดังกล่าวไปให้คณะรัฐมนตรี “พิจารณาก่อน” และกำลังจะกลับเข้าสู่สภาฯ อีกครั้งในสมัยประชุมนี้ ภายในปลายเดือนธันวาคม 2567 ถึงต้นเดือนมกราคม 2568

สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมฉบับพรรคประชาชน คือการปรับลดอำนาจสภากลาโหม ให้พลเรือนอยู่เหนือกองทัพ เช่น กำหนดให้สภากลาโหมมีอำนาจหน้าที่เพียงให้คำปรึกษาหรือเสนอความเห็นแก่ รมว.กลาโหม, ปรับที่มาของสภากลาโหมโดยลดสัดส่วนข้าราชการทหาร, ยกเลิกบอร์ดแต่งตั้งนายพล ให้การแต่งตั้งนายพลเป็นไปตามกลไกที่ รมว.กลาโหม (ซึ่งมาจากรัฐบาลพลเรือน) กำหนดและคำนึงถึงระบบคุณธรรม หรือการเลื่อนขั้นตามความสามารถและผลงาน (merit system)

โดยขณะนี้มีร่างแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม อย่างน้อย 3 ฉบับที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ได้แก่ ร่างพรรคประชาชน, ร่างพรรคเพื่อไทยซึ่งมีสาระสำคัญสอดคล้องกับร่างพรรคประชาชน และอีกฉบับคือร่างของคณะรัฐมนตรี ยกร่างโดยกระทรวงกลาโหม 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีบางคนบางฝ่ายให้ความเห็นในลักษณะว่าการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้คือการ “แทรกแซงกองทัพ” นักการเมืองต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้กองทัพปฏิวัติรัฐประหาร

ปชน.ย้ำจุดยืนแก้ พ.ร.บ.กลาโหม คีย์สำคัญสกัดรัฐประหาร หนุน พท.เต็มที่

พรรคประชาชนเชื่อว่าปฏิกิริยาของประชาชนต่อความเห็นดังกล่าว คือสิ่งที่สะท้อนได้ดีที่สุดว่าวันนี้สังคมไทยไม่เหมือนเดิม ประชาชนเดินทางทางความคิดมาไกลเกินกว่าจะกลับไปยอมรับการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าไม่สามารถแก้วิกฤตของประเทศได้ แต่กลับซ้ำเติมวิกฤตให้เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม

ดังนั้นทิศทางที่สังคมไทยต้องร่วมกันยืนยันในวันนี้ คือเราต้องไม่ยอมให้ใครก็ตาม ทำให้ “เรื่องผิดปกติกลายเป็นความปกติ” 

การแก้ไขกฎหมายเพื่อปฏิรูปกองทัพ เป็น “เรื่องปกติ” ที่สามารถทำได้ในประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน หากประชาชนแสดงเจตจำนงแล้วว่ากองทัพจำเป็นต้องถูกปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎรในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติย่อมเสนอร่างกฎหมายและผ่านกฎหมายได้

ในทางตรงข้าม การปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ว่าด้วยเงื่อนไขข้ออ้างใดต่างหาก คือ “เรื่องผิดปกติ” ที่สังคมไทยต้องไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก และนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนควรมีความกล้าหาญพอที่จะยืนยันหลักการพื้นฐานนี้ 

แม้การแก้ไขกฎหมายเพียงฉบับเดียวจะไม่สามารถป้องกันรัฐประหารได้ทั้งหมด เพราะการป้องกันรัฐประหารต้องขับเคลื่อนกลไกอื่นควบคู่กัน แต่นั่นยิ่งเป็นเหตุผลที่ควรรับร่างกฎหมายฉบับนี้เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปกองทัพและป้องกันรัฐประหาร ไม่ใช่อ้างเป็นเหตุผลที่จะปฏิเสธตั้งแต่ต้นและปล่อยให้ประชาชนไม่มีเครื่องมือต่อต้านรัฐประหารเลย

ดังนั้น พรรคประชาชนพร้อมสนับสนุนร่างแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ฉบับพรรคประชาชนและร่างของพรรคเพื่อไทย เพื่อยืนยันหลักการพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ และขอเชิญชวน สส. ทุกพรรคการเมืองร่วมสนับสนุนเช่นกัน เพื่อเปิดประตูสู่การปฏิรูปกองทัพ ปิดประตูไม่เอาปฏิวัติรัฐประหารทุกกรณี