‘ทักษิณ’คนเดิมเพิ่มเติมพลังอนุรักษ์ หมดเวลาเกรงใจ ‘พรรคร่วมฯสีน้ำเงิน’

อาการที่ "ทักษิณ" กร้าวใส่ "พรรคร่วมฯสีน้ำเงิน" เพราะรู้ว่ายามนี้ฝ่ายตัวเองได้เปรียบ มี "ขั้วอนุรักษ์" คอยเป็นพลังหนุน แต่การเขี่ย "ภท."ออกระวังเสถียรภาพรัฐบาล"อิ๊งค์"
KEY
POINTS
- อาการ "ทักษิณ ชินวัตร" ที่ออกมากร้าวใส่ "พรรคภูมิใจไทย" เพราะต้องก
“นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาคำรามใส่ “พรรคร่วมรัฐบาล” กลางงานสัมมนาพรรคเพื่อไทย โชว์พาวให้ “ลูกน้อง-ลูกพรรค” ฟังกันเต็มหู เวลานี้ไม่ต้องเกรงกลัวใครทั้งสิ้น เนื่องจาก “เพื่อไทย-ขุมพลังสีแดง” มีเครือข่าย “อนุรักษ์” มาเป็นแบ็กอัพชั้นดี
รัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร มีความแตกต่างจากรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่มาก เพราะทั้ง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” อยู่ในสถานะคู่ขัดแย้งกับ “กลุ่มอนุรักษ์” แต่ “แพทองธาร” คือพันธมิตรที่ “กลุ่มอนุรักษ์” ต้องใช้บริการ หากขาดหายไปเกรงจะเปิดช่องให้ “กระแสสีส้ม” ซัดถล่มจนราบคาบ
จึงไม่แปลกที่ “ทักษิณ” จะส่งสัญญาณท้ารบ “พรรคร่วมรัฐบาล” โดยเฉพาะ “ค่ายน้ำเงิน” ที่มีมักจะเล่นเกมสองแง่สองง่าม ไม่ค่อยเกรงกลัว “นายใหญ่-เพื่อไทย”
ทางหนึ่ง “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” อ่านใจ “ทักษิณ-แพทองธาร” ไม่กล้า “ยุบสภา” เพราะต้องรักษาอำนาจเอาไว้ให้นานที่สุด เพื่อสร้างผลงานด้านเศรษฐกิจให้กับมาดีขึ้น เพิ่มความนิยมให้ “ตระกูลชินวัตร-พรรคเพื่อไทย”
ทำให้ “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” บัญชาการให้ “ลูกพรรค” เรียงหน้า-เรียงคิว ออกมาวางงานทางการเมือง ทั้งงานรัฐบาล-งานรัฐสภา ไม่ให้ “เพื่อไทย” ขยับได้สะดวก
ล่าสุดการประชุมครม.วันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีวาระการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.ก. เกี่ยวกับภาษีต่างประเทศ ซึ่งเข้าไปวาระด่วน แจ้งก่อนการประชุมไม่กี่ชั่วโมง ผลปรากฏว่ามี “รัฐมนตรีสีน้ำเงิน” ลาประชุมหลายคน รวมถึง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลาประชุมในช่วงเช้าอีกด้วย
หลังจากประชุมครม.แล้วเสร็จไม่กี่ชั่วโมง มีรายงานจาก “ตึกไทยคู่ฟ้า” ส่งตรง “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ความรู้ถึงหู “นายใหญ่” ถึงกับไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากปลายสายวิเคราะห์ว่า “รัฐมนตรีสีน้ำเงิน” เกรงว่า พ.ร.ก. ดังกล่าว ซึ่งเป็นกฎหมายการเงิน อาจจะสุ่มเสี่ยงจะถูกตีความเป็นอย่างอื่น จนเปิดช่องให้ “นักร้อง” หยิบไปเล่นงานหรือไม่
“ทักษิณ” จึงต้องคำรามเสียงดังฟังชัดว่า “วันก่อนมีการเอากฎหมายเข้า ปรากฏว่ามีพรรคร่วมบางพรรคหลบ ป่วย อย่างนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณนี่หว่า ถ้าอยู่ด้วยกันก็ต้องด้วยกันสิ วันหลังไม่อยากอยู่ต้องบอกให้ชัดเจน เราเป็นคนพูดรู้เรื่อง ห้ามหนี ต่อไปใครหนีก็บอกว่าถ้าหนีก็ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี”
“ผมเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ ตรงไปตรงมาง่ายๆ อยู่ก็อยู่ไม่อยู่ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่ก็ต้องสู้ด้วยกัน ในเมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลร่วมกัน แถลงนโยบายคุณยกมือเห็นด้วย พอได้เก้าอี้ รัฐมนตรีค่อยๆ หลบออกไม่ได้ ต้องตรงไปตรงมา”
แม้ใจของ “ทักษิณ-แพทองธาร” ยังไม่ต้องการ “ยุบสภา” แต่หากปล่อยให้ “พรรคร่วมฯสีน้ำเงิน” เล่นเกมขย่มทุกดอก การคอนโทรลงานรัฐบาล-งานสภาฯ จะทำได้ยาก จึงต้องออกโรงมาขู่ไปถึง “ครูใหญ่สีน้ำเงิน”
ขณะเดียวกันมีเสียงเชียร์จาก “ลูกหาบ-ลูกพรรค” ให้ปฏิบัติการขับ “สีน้ำเงิน” ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากเสียงขั้วรัฐบาลมีเพียงพออยู่แล้ว แม้เสียงจะปริ่มน้ำ แต่สามารถคอนโทรลเสียงได้
เช็คลิสต์เสียง “ขั้วรัฐบาล” มี 318 เสียง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 142 เสียง พรรคภูมิใจไทย 69 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 21 เสียง (อีก 4 เสียงไม่โหวต น.ส.แพทองธาร) พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง
พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง และพรรคกล้าธรรม 24 เสียง (มาจากพรรคเล็ก 4 เสียง และพรรคพลังประชารัฐ 20 เสียง)
หาก “นายใหญ่” เอาจริงอย่างคำขู่ ตัดเสียงจาก “พรรคภูมิใจไทย” 69 เสียง ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้ขั้วรัฐบาลเหลือ 249 เสียง ซึ่งจะเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สส. ทั้งหมดในสภา ซึ่งเวลานี้มี 493 เสียง (กึ่งหนึ่ง 246 เสียง)
อย่างไรก็ตามถือว่าเสียงปริ่มน้ำมากๆ จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการเสียงอย่างดี เพื่อไม่ให้กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล หากจำเป็นต้องเอา “ภูมิใจไทย” ออกจากพรรคร่วม
ทว่าต้องไม่ลืมว่า “ขุมกำลังสีน้ำเงิน” ไม่ได้มีเพียง สส. แต่แฝงตัวอยู่ในคราบ “สว.สีน้ำเงิน” หาก “ทักษิณ” จะคิดแตกหักกับ “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” ต้องคำนวณทิศทางลมให้ดี
“ทักษิณ” เวลานี้คือ “ทักษิณ” คนเดิม ที่เดินเกมการเมืองอย่างมั่นใจ แถมยังมี “พลังอนุรักษ์” มาเป็นแบ็กอัพ จึงไม่หวั่น “มือที่มองไม่เห็น” จะเขี่ยทิ้ง สัญญาณท้ารบ “ค่ายสีน้ำเงิน” บ่งบอกชัดเจนว่าหมดเวลาเกรงใจกันแล้ว.