สัมพันธ์ลึก 3 เสือ - สจ.โต้ง หนุน สจ.จอย ล้มบ้านใหญ่โกทร

สัมพันธ์ลึก 3 เสือ - สจ.โต้ง   หนุน สจ.จอย ล้มบ้านใหญ่โกทร

“ธรรมนัส-ชาดา-สุชาติ” ต่างเป็น “เสือ” ในนามการเมือง แม้ตอนนี้จะอยู่กับคนละค่าย แต่มีภารกิจร่วมกัน คือการเป็น “กองหนุน” ส่งให้ “สจ.จอย” นั่งเก้าอี้ นายก อบจ. ปราจีนบุรี โค่นเครือข่ายของ “โกทร” ก่อนต่อยอดการเมืองสนามใหญ่

พิธีสวดพระอภิธรรม วางดินหน้าศพของ “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ ที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพัก “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา เต็มไปด้วย “เจ้ายุทธการเมือง” มาร่วมพิธี

แม้ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเลือกเก็บตัว ซ่อนไพ่เอาไว้ แต่ “เงานายใหญ่” ปรากฏตัวข้างกาย “สจ.จอย” ณภาภัช อัญชสาณิชมน ภรรยา สจ.โต้ง แต่ละคนต่างมีบทเด่นทางการเมือง

ไล่ตั้งแต่ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เจ้าของ “พรรคกล้าธรรม” ตัวจริง “ธรรมนัส” ยอมรับว่า สจ.โต้งเป็นน้องรักที่รู้จักกันมานาน เมื่อไม่นานมานี้ ได้พาทั้ง สจ.โต้ง และ สจ.จอย ไปกราบ “ทักษิณ” เพื่อพูดคุยเรื่องการเมืองท้องถิ่นที่ปราจีนบุรี

ว่ากันว่าก่อน สจ.โต้ง เสียชีวิต มีการยื่นดีลให้ สจ.จอย ลงชิงเก้าอี้ นายก อบจ. ปราจีนบุรี ในนามพรรคเพื่อไทย โดยคาดหมายกันว่าหาก สจ.จอย คว้าชัย “ทีม สจ.โต้ง” จะรุกพื้นที่อิทธิพลของ “โกทร” โดยการส่งผู้สมัคร สส. ในนามพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งปี 2570

แต่เมื่อแผนแตก “โกทร” ไม่ยอมให้ “ลูกน้องคนรัก” มาคิดล้มล้างพื้นที่ของตัวเอง เลยมีปฏิบัติการพิเศษเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามก่อนหน้า “สจ.จอย” ถอดใจจะไม่ลงชิงเก้าอี้ นายก อบจ. ปราจีนบุรี แต่เป็น “ธรรมนัส” ที่ช่วยกล่อมให้ “สจ.จอย” ใช้จังหวะได้เปรียบทางการเมือง ล้ม “ทีมโกทร” ก่อนจะต่อยอดไปสู่การเลือกตั้ง สส.

ปฏิบัติการยึดเมืองปราจีนฯเที่ยวนี้ “นายใหญ่” เลือกใช้บริการของ “ธรรมนัส” เพราะรู้เส้นสนกลในของการเมือง “สีเทา” ในพื้นที่อย่างดี แม้ตัวของผู้กองจะไม่ใช่คนของ “พรรคเพื่อไทย” ก็ตาม

ทว่าต้องยอมรับว่า “ขุนพลเพื่อไทย” ในยุคนี้ ไม่มีใครมือถึงพอที่จะเรียกตัวมาใช้งานในปฏิบัติการพิเศษแบบนี้ “นายใหญ่” จึงต้องพึ่งบริการของ “ธรรมนัส”

บริบททางการเมืองในการเลือกตั้งปี 2570 บทบาทของ “ธรรมนัส” จึงน่าสนใจ แม้จะเลือกสร้างอาณาจักรของตัวเองในนาม “พรรคกล้าธรรม” แต่หากจะจิ้มพื้นที่ขอให้ “นายใหญ่” หลบเขตให้กันคงไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง

อีกคนที่ปรากฏตัวข้างกาย “สจ.จอย” คือ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย แม้จะอยู่ค่ายสีน้ำเงิน สังกัดพรรคภูมิใจไทย เหมือนกับ “โกทร” แต่สนิทสนมกับ “สจ.โต้ง” นับถือกับเป็นพี่เป็นน้อง

“สจ.โต้ง-ชาดา” รู้จักกันผ่านคอนเนกชั่นวงการมวยไทย สมัยที่ สจ.โต้ง อยู่ในเมืองปราจีนฯ ก็แค่นักการเมืองท้องถิ่น แต่เมื่อเขาก้าวเข้าสู่วงการมวยในฐานะเจ้าของค่ายมวย “สจ.โต้งปราจีน” และมีนักมวยดังหลายคน

“สจ.โต้ง” รู้จักมักคุ้นกับหัวหน้าค่ายมวยทุกคน ไม่เว้นแต่ ปภาวิชญ์ บุษวะดี หัวหน้าค่ายมวย “สจ.เปี๊ยกอุทัย” ซึ่งคนดังลุ่มน้ำสะแกกรัง เป็น ส.อบจ.อุทัยฯ เขต อ.เมือง มาหลายสมัย และปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งประธานสภา อบจ.อุทัยฯ

ความสัมพันธ์ “สจ.เปี๊ยก-ชาดา” ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2538 ด้วยคอนเนกชั่นมวย จึงทำให้ “ชาดา-สจ.เปี๊ยก” มารู้จัก สจ.โต้ง และมีความผูกพันเป็นพี่เป็นน้องกันมา

ด้าน “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และ “สส.ต้อย” ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็รู้จัก “สจ.โต้ง” เพราะวงการมวยไทย

“ชัยวัฒน์” ในแวดวงมวยไทยรู้จักกันในนาม “สจ.ต้อยแปดริ้ว” ลูกชายสุดรักของ “นายกฯไก่” กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา 5 สมัย

20 กว่าปีมาแล้ว “ชัยวัฒน์” นักการเมืองท้องถิ่นจากแปดริ้ว มาโลดแล่นอยู่ในวงการมวยไทย ในฐานะหัวหน้าค่ายมวย สจ.ต้อยแปดริ้ว และโปรโมเตอร์มวยไทย “ศึก ต.ชัยวัฒน์” แห่งเวทีราชดำเนิน เมื่อได้เป็น สส.สมัยแรก “ชัยวัฒน์” ลาออกจากการเป็นโปรโมเตอร์มวยเวทีมวยราชดำเนินเมื่อปี 2562

ว่ากันว่า “สุชาติ” เคยตามจีบ “สจ.โต้ง” ให้มาทำการเมืองซุ้มเดียวกัน เนื่องจากมีพื้นที่ติดกันทั้ง จ.ชลบุรี จ.ฉะเชิงเทรา และจ.ปราจีนบุรี โดย “สุชาติ” ตั้งเป้ายึดพื้นที่ภาคตะวันออก

ทั้ง “ธรรมนัส-ชาดา-สุชาติ” ต่างเป็น “เสือ” ในนามการเมือง แม้ตอนนี้จะอยู่กับคนละค่าย แต่มีภารกิจร่วมกัน คือการเป็น “กองหนุน” ส่งให้ “สจ.จอย” นั่งเก้าอี้ นายก อบจ. ปราจีนบุรี โค่นเครือข่ายของ “โกทร” ก่อนต่อยอดการเมืองสนามใหญ่