กกต.ตอบปมพรรครับบริจาคสลากฯ-ถูกรางวัลต้องแจงตามขั้นตอน

กกต.ตอบปมพรรครับบริจาคสลากฯ-ถูกรางวัลต้องแจงตามขั้นตอน

กกต. ตอบปมพรรคการเมืองรับบริจาค ‘สลากกินแบ่งรัฐบาล’ สามารถทำได้ ถูกรางวัลแล้วขึ้นเงิน ต้องแจงตามขั้นตอนถึงแหล่งที่มา

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตอบข้อสอบถามของพรรคประชาชน ประเด็นเกี่ยวกับการปฏิบัติของพรรคการเมืองให้ถูกต้องตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือข้อกำหนด ระเบียบ หรือประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กรณีพรรคการเมืองรับบริจาคสลากกินแบ่งรัฐบาล 5 ประเด็น

โดยในกรณีที่มีบุคคลนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังไม่ถึงกำหนดวันออกผลรางวัลมาบริจาคให้พรรคการเมือง พรรคการเมืองสามารถรับสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวไว้ได้หรือไม่ กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า พรรคการเมืองสามารถรับสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังไม่ถึงกำหนดวันออกผลรางวัลได้

สำหรับกรณีที่พรรคการเมืองสามารถรับมอบสลากกินแบ่งรัฐบาลไว้เป็นทรัพย์สินที่พรรคการเมืองได้จากการรับบริจาค ตามมาตรา 62 วรรคหนึ่ง (5) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และพรรคการเมืองต้องออกหลักฐานการบันทึกการรับบริจาค ตามแบบ พ.ก. 11 และออกใบเสร็จรับบริจาคทรัพย์สินและประโยชน์อื่นใด ตามแบบ พ.ก. 13 ให้แก่ผู้บริจาคตามข้อ 45 แห่งระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2563 พรรคการเมืองจะต้องระบุการคำนวณมูลค่าเท่าใด
 

กรณีที่สลากกินแบ่งรัฐบาล มีราคาขายตามกฎหมาย คือ 80 บาท กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลที่ได้รับบริจาค ถือเป็นรายได้หนึ่งของพรรคการเมือง ตามมาตรา 62 วรรคหนึ่ง (5) แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 โดยต้องออกหลักฐาน ของแหล่งรายได้และระบุมูลค่าตามที่ปรากฏไว้ในสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น ตามข้อ 44 และข้อ 45 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยพรรคการเมือง ตามแบบ พ.ก. 11 และแบบ พ.ก. 13

กรณีที่ต่อมาหากสลากกินแบ่งรัฐบาลที่พรรคการเมืองได้รับบริจาคดังกล่าวถูกรางวัล พรรคการเมืองสามารถนำสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขึ้นรางวัลในนามพรรคการเมืองได้หรือไม่ กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อพรรคการเมืองได้รับบริจาคทรัพย์สินเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยสุจริต และหากสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกรางวัล พรรคการเมืองย่อมมีสิทธิได้รับรางวัลดังกล่าว และสามารถนำสลากกินแบ่งรัฐบาลไปขึ้นรางวัลในนามของพรรคการเมืองได้ 
 

และการที่พรรคการเมืองนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลไปขึ้นรางวัลได้ พรรคการเมืองจะต้องลงบันทึกเป็นรายได้ของพรรคการเมือง ตามมาตรา 62 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ประเภทใด กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า เงินรางวัลจากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล ถือเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองของพรรคการเมือง จึงต้องลงบันทึกเป็นรายได้ของพรรคการเมือง ตามมาตรา 62 วรรคหนึ่ง (7) แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566

กรณีที่พรรคการเมืองนำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลไปขึ้นรางวัลได้ โดยเงินที่ได้รับจากการขึ้นรางวัลถือเป็นรายได้จากการบริจาค พรรคการเมืองจะต้องลงบันทึกว่าบุคคลใดเป็นผู้บริจาค กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า เงินที่ได้รับจากการขึ้นรางวัลนั้น ถือเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากสลากกินแบ่งรัฐบาลที่พรรคการเมืองได้รับบริจาคและได้ออกหลักฐานของแหล่งรายได้ตามแบบ พ.ก. 11 และแบบ พ.ก. 13 ไว้ก่อนหน้านี้ และถือเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินดังกล่าว อยู่ก่อนแล้ว มิใช่เป็นกรณีที่มีการให้เงินหรือทรัพย์สินรายการใหม่ให้แก่พรรคการเมืองแต่อย่างใด 

ทั้งนี้จึงไม่มีกรณีที่ต้องระบุชื่อบุคคลหรือนิติบุคคลใดเป็นผู้บริจาคอีก โดยเงินที่ได้รับจากการขึ้นรางวัลนั้น พรรคการเมืองจะต้องบันทึกเป็นรายได้ของพรรคการเมือง ตามมาตรา 62 วรรคหนึ่ง (7) แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566