‘ทักษิณ’ ชงเปิดมหาวิทยาลัยพัฒนาคนอีสาน – ใช้เทคโนโลยีทำเกษตรสมัยใหม่

ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อ “อนาคตอีสาน โอกาสประเทศไทย” ตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่ตั้งพรรคไทยรักไทย จนถึงวันนี้พี่น้องภาคอีสาน ยังไว้วางใจตนตลอดเวลา ตนคิดตลอดเวลาว่าจะทำอย่างไรจะพลิกฟื้นได้ หลังจากวางแนวทางแล้วต้องมีเจ้าภาพ มีผู้ปฏิบัติ ประเทศไทยไม่ค่อยมีเจ้าภาพ ต่างคนต่างทำหน้าที่ตัวเอง ไม่มีเจ้าภาพรวมพลังแต่ละภาคส่วน

“ผมขอเริ่มต้นว่าภาคอีสานมีความกันดารมาก่อน ก่อนจะพัฒนามาถึงวันนี้ ความกันดาร ความยากจน ทำให้คนอีสานมีความแข็งแรง เพราะต้องดิ้นรนช่วยตัวเองมาตลอด คนอีสานสู้ชีวิตด้วยความอดทน และสร้างภูมิปัญญาใหม่ๆมาตลอด วันนี้ถึงเวลาเราตั้งใจให้คนอีสานพ้นจากความกันดาร”
 

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนอยากจะบอกว่าสิ่งที่คนอีสานมีคือพื้นที่กว้างขวาง และมีประชากรมากที่สุด มีวัฒนธรรมเก่าแก่ แล้วเราจะทำอะไรกับสิ่งที่มี เราต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับคน ตนมองว่าเรื่องสร้างความแข็งแกร่งให้คนอีสาน ต้องเริ่มจากสิ่งที่เขามีอยู่แล้ว คือซอฟพาวเวอร์ คนอีสานมีความสามารถ ซึ่งคนอีสานต้องเริ่มจากการฝึก เช่น ครัวไทยสู่ครัวโลก ด้านกีฬา เป็นต้น

“เราต้องเริ่มพัฒนาคนอีสาน คนไทยอยากจะเห็นลูกได้รับปริญญา แต่จริงๆต้องได้ทั้งความรู้ และปัญญา บางคนจบมาไม่ได้ความรู้ แต่ได้ประกาศนียบัตร แต่ต้องถามว่าจบแล้วมีความรู้หรือไม่ เพราะบางโครงการจ่ายจบครบแน่ เราทิ้งสาระสำคัญคือความรู้ นี่คือสิ่งที่สังคมไทยขาด โลกปัจจุบันเขาสนใจทักษะคนมากกว่าปริญญา วันนี้เรามีเทคโนโลยีทำงานแทนเราได้มากมาย ต่อไปนี้คนอีสานจะต้องได้รับการผสมผสานเทคโนโลยีเข้าไปในชีวิตประจำวัน วันนี้เราต้องใช้มหาวิทยาลัยเป็นแกนหลักในการพัฒนาคนอีสาน”
 

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้คนอีสานจนลงเพราะการผูกชาด จนลงเพราะระบบนายหน้า วันนี้ภาครัฐต้องยกเลิกการผูกขาดให้มากที่สุด โดยเราใช้เทคโนโลยีให้มากที่สุด เช่น เรื่องข้าว เราส่งออกผ่านนายหน้า แต่หลังจากนี้ระบบอีคอมเมอร์ส จะทำให้เราขายสินค้าไปยังต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตการส่งออก ท่านนายกฯได้ให้รัฐมนตรีไปดูรายละเอียดต่างๆ เพื่อทำให้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดกลไกต่างๆ

“การเกษตรของภาคอีสาน ต้องการความแม่นยำมากที่สุด เนื่องจากฝนตกไม่ตรงฤดูกาล น้ำท่วมเกิดขึ้นบ่อย การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจึงจำเป็น”

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด ตนเป็นห่วงเรื่องคุณภาพของคน เนื่องจากเยาวชนถูกมอมเมาด้วยยาเสพติด โดยนายกฯเป็นห่วงมาก และสั่งให้ทุกภาคส่วนดำเนินการ เพราะจะทำให้เยาวชนอ่อนแอ เห็นนายกฯสั่งให้ทำแอพพริเคชั่น เพื่อรายงานพื้นที่ที่มีคนติดยาเสพติด ก่อนจะเข้าไปดำเนินการ

นายทักษิณ กล่าวว่า การพัฒนาโอท็อปสมัยใหม่ เรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ตนขาดว่าจะเริ่มต้นได้ในปีหน้า ขณะเดียวกันคนอีสานควรจะเรียนรู้เรื่องเอไอ ไม่ใช่รู้เรื่องโปรแกรม แต่ต้องรู้วิธีสั่งการ ตนจะขอให้มหาวิทยลัยเป็นศูนย์กลางในการฝึกคนอีสาน

“ตอนผมเป็นนายกฯ เราใช้มหาวิทยาลัยเยอะ ตอนตั้งกองทุนหมู่บ้าน เราใช้นักศึกษาช่วยทำบัญชี คราวนี้เชื่อว่ามหาวิทยาลัยต่างๆจะถูกขอความร่วมมือช่วยแก้ปัญหา โดยมีผู้ว่าฯ นายก อบจ. ที่จะช่วยกันทำให้คนอีสานมีความชำนาญ มีความรู้ เพื่อเข้าหากลุ่มผู้บริโภคโดยตรง”

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยเราเป็นหนี้เยอะมากกว่าร้อยละ 60 ของจีดีพี เราจึงกู้เงินมาลงทุนไม่ไหว รัฐบาลจึงหาทางลดหนี้ด้วยการเพิ่มจีดีพี มันพูดง่ายทำยาก แต่ต้องทำ เราต้องเพิ่มจีดีพี โดยเราจะเติมเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ เม็ดเงินเรามีน้อย เราจึงโตน้อยกว่าประเทศอื่น ตนมองว่าที่ผ่านมารัฐบาลออกพันธบัตรขายให้สถาบันทางการเงินเป็นส่วนใหญ่ สถาบันฯเก็บพันธบัตรเอาไว้ แล้วเอาดอกเบี้ยไป ไม่ได้ช่วยเศรษฐกิจอะไรเลย

“ผมจึงคิดออกพันธบัตรเป็นเหรียญคลิปโต โดยขายให้ประชาชน เพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ ไม่เช่นนั้นจีดีพีเราไม่มีทางโต ฟังทีไรก็ได้จีดีพีร้อยละ 2 ผมจะทำให้จีดีพีถึงร้อยละ 4 ให้ได้ ดูแล้วไม่ใช่เรื่องยาก พื้นที่อีสานเป็นภาคที่ถูกดูดเงินออกจากพื้นที่มากที่สุด ร้านค้าส่วนใหญ่มีสำนักงานใหญ่อยู่ กทม. เมื่อขายก็เก็บเงินสู่ กทม. เงินจึงไม่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจในภาคอีสาน ไปหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ กทม. เราจะเอาพันธบัตรมาหล่อเลี้ยงในภาคอีสาน เราจึงเอาหนี้ที่รัฐบาลต้องเป็นหนี้ ให้มาเป็นหนี้กับประชาชน”

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า คนอีสานต้องออกจากบ้าน เพราะที่บ้านไม่มีงานทำ คนไปทำงานที่ กทม. หมด คนเก่ง คนฉลาด หายตามเงินไปหมด ตนจึงจะดึงคนกลับภาคอีสาน เพื่อให้สังคมมีความเข้มแข็งขึ้น แต่แน่นอนเราต้องสร้างความแข็งแกร่งในเรื่องการศึกษา เราได้เงินจากล็อตเตอร์รี่มา ตรงนี้เราจะส่งเด็กไปเรียนต่างประเทศ หรือสร้างครูต่างชาติมาทำซัมเมอร์แคมป์ เพื่อให้เด็กเรียนรู้วัฒนธรรมสากล ก่อนหน้านี้เราเคยทำโรงเรียนต้นแบบ วันนี้ขอทำอีกครั้ง โดยจ้างครูฝรั่งมาช่วย