น้ำเงินแพรวพราว ลีลาต่อรอง ‘หนู’พลิ้ว ลดระแวง ‘นายใหญ่’

น้ำเงินแพรวพราว ลีลาต่อรอง ‘หนู’พลิ้ว ลดระแวง ‘นายใหญ่’

สไตล์การเมืองค่ายน้ำเงิน เขี้ยวเกมต่อรองก็จริง แต่ไม่ถึงขั้นแตกหักเอาตาย ทุกอย่างคุยกันได้ เรื่องคิดสั้นทุบหม้อข้าวตัวเอง สร้างเงื่อนไขยุบสภาแทบไม่อยู่ในความคิดครูใหญ่ เกมครบเทอม 4 ปี ลากให้นานสุด เป็นดีที่สุด

KEY

POINTS

  • เกมต่อรองในรัฐบาลนี้ที่ดูเหมือนจะทำให้ทักษิณ หัวเสีย ไม่ต้องบอกก็รู้คือ พรรคไหน
  • ลีลาความพลิ้วของอนุทิน ที่สวนทางท่าทีพรรค
  • พยายามโชว์ความใกล้ชิด ทักษิณ เหมือนต้องการลดความหวาดระแวงต่อยี่ห้อน้ำเงิน
  • ทักษิณ รู้ดีว่าตัวจริงค่ายภูมิฯ ที่วางยุทธศาสตร์การเดินให้พรรคเป็นใคร 

จับอาการ เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล ที่หลายคนจับตามองว่า บันไดสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในอนาคตอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่ว่าจะด้วยเหตุปัจจัยทางการเมือง หรือความพยายามปักหลักเป็นตัวแทนฝ่ายอนุรักษนิยมก็ตาม 

ชื่อชั้นค่ายน้ำเงิน มีขุมกำลังพร้อมที่สุดพรรคหนึ่งในการต่อกรกับเพื่อไทย

ในความเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำ โดยมีภูมิใจไทย เป็นแกนเสริมสำคัญ แม้จะไม่แฮปปี้กับโควตารัฐมนตรีที่ได้รับจัดสรรตั้งแต่ต้น โดนพรากกระทรวงคมนาคม จากอ้อมอก ที่ช่วยต่อยอดขยายฐานการเมืองแบบพุ่งพรวด ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว

ทว่า ดีเอ็นเอ หรือสไตล์เดินการเมืองของภูมิใจไทย ที่พยายามเป็นผู้กำหนดเกมมาตลอด มั่นใจในสถานะตัวเอง ถึงกล้าฮึดฮัดกับเพื่อไทย ขวางหลายเรื่องที่นายใหญ่อยากผลักดัน

ท่าทีทักษิณ ชินวัตร ที่ออกอาการหัวเสีย ฟาดพรรคร่วมฯ บางพรรค ไม่เข้าประชุม ครม. พิจารณา พ.ร.ก.ที่เกี่ยวกับภาษีบริษัทนิติบุคคลต่างชาติ ว่า ไม่ใช่เลือดสุพรรณฯ ต่อไปใครหนี ส่งใบลาออกมาด้วย ง่ายดี “ผมเป็นคนเกลียดพวกอีแอบ”

ทำเอาคนโฟกัสไปที่ภูมิใจไทยเป็นหลัก เพราะมีแผลใจหลายกรณีสะสมมาอย่างต่อเนื่อง เดินกันคนละจังหวะ ขัดแข้งขัดขากับเพื่อไทยมาตลอด 

ไล่ตั้งแต่ ค้านเอากัญชาคืนบัญชียาเสพติด ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมขนส่ง ร่างพ.ร.บ.กาสิโน จุดยืนสวนทางพรรคร่วมฯ เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น หรือแม้แต่ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม สกัดรัฐประหาร

เอาเป็นว่า บรรดาพรรคร่วมฯ ที่เหลือรู้ดี คนที่ทักษิณ พุ่งเป้าหมายถึงใคร และสัญญาณที่ทำให้บรรดาแกนนำ และ สส.ในรัฐบาล เห็นชัดเจนในท่าทีที่เปลี่ยนไปก็คือ นับตั้งแต่มี สว.สีน้ำเงินเป็นฐานอำนาจ เพิ่มภาษีต่อรอง

คนที่ดูจะอึดอัดที่สุดกับแรงเสียดทาน น่าจะเป็นอนุทิน ที่พยายามเซฟตัวเองตลอดว่า ไม่ใช่เป้าหมายที่ทักษิณ พูดถึง ผ่านการเน้นย้ำว่า เคารพรักทักษิณไม่เสื่อมคลาย แต่ท่าทีส่วนตัว กับท่าทีของพรรคตัวเอง ดูจะไม่ค่อยสอดประสานกันเท่าใดนัก 

ทุกอย่างเหมือนแบ่งบทกันเล่น คนหนึ่งขวาง อีกคนก็เข้าใกล้ศูนย์กลางอำนาจทำตัวพินอบพิเทา แสดงตัวว่าไร้พิษสง

มีการตีความกันว่า “อีแอบ” ที่ทักษิณหมายถึง อาจเจาะจงไปที่คนนอกกระดาน แต่มีบทบาทควบคุมทิศทางการเคลื่อนไหว หรือเป็นบิ๊กตัวจริงคอยวางยุทธศาสตร์ของค่ายน้ำเงิน เหมือนที่หลายน่าจะรู้ว่าคนคนนั้น ไม่น่าใช่เสี่ยหนู

การวางตัวของ อนุทิน จึงทำอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากอยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ และการที่ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกตัวแรงรับลูกทักษิณ ฟาดพรรคร่วมบางพรรค ไม่ใช่คัดค้านตลอด ผมไม่ชอบหล่อคนเดียว หากพรรคไหนไม่เห็นด้วยบ่อยๆ ก็ควรจะแยกออกไป ไม่บอกก็รู้ว่า ผู้กอง ฮึ่มใส่ใคร ถ้าไม่ใช่คนที่ทักษิณ เคยหวดว่าหล่อเร็วไปหน่อย หลังขวางร่างกฎหมายป้องกันการยึดอำนาจ

การปล่อยภาพตีกอล์ฟ ควงไมค์ร้องเพลงระหว่างอนุทิน กับ ทักษิณ ที่ประกบกันแจ คงพอเดาได้ไม่ยากว่า ต้นทางมาจากไหน เจตนาที่พ่วงมาด้วยคืออะไร ถ้าไม่ใช่ความพยายามสื่อสารให้เห็นว่า ไม่มีรอยร้าวในรัฐบาล หรือถ้ามีก็ไม่ใช่ภูมิใจไทยเป็นเงื่อนไข เป็นเรื่องของพรรคอื่น แต่ความเป็นจริงลูกพรรคเพื่อไทยต่างหากที่รู้ดีว่า ที่ผ่านมาเจอจระเข้สีอะไร ขวางคลองจนเรื่องสำคัญชะงัก

เมื่อลองถอดรหัสการเคลื่อนไหว การให้สัมภาษณ์ของอนุทิน จึงพอจะมองเห็นถึงความแพรวพราว ว่าต้องการลดความหวาดระแวงจากทักษิณ โชว์ภาพใกล้ชิดเป็นเด็กในคาถา ทั้งที่แนวทางพรรคดูสวนทาง

พรรคน้ำเงินวางเกมยาว ประกาศเป็นนโยบายว่าไม่ส่งผู้สมัคร นายก อบจ.เหมือนเก็บแรง เก็บกระสุนไว้รอเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป แต่ในทางลับก็ขยับอยู่หลายพื้นที่เป้าหมาย

ความระหองระแหงของพรรคร่วมฯ ที่ทุกสายตาโฟกัสมาที่สีน้ำเงิน อาจกำลังท้าทายทักษิณ ครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะรู้ดีว่าสถานการณ์ขณะนี้ ยังไงก็ต้องอาศัยพรรคเบอร์รองเป็นฐานให้ตัวเอง และลูกสาวอยู่รอดปลอดภัย เพียงแต่ต้องแลกกับสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการบ้างก็เท่านั้น

สไตล์การเมืองค่ายน้ำเงิน เขี้ยวเกมต่อรองก็จริง แต่ไม่ถึงขั้นแตกหักเอาตาย ทุกอย่างคุยกันได้ เรื่องคิดสั้นทุบหม้อข้าวตัวเอง สร้างเงื่อนไขยุบสภาแทบไม่อยู่ในความคิดครูใหญ่ เกมครบเทอม 4 ปี ลากให้นานสุด เป็นดีที่สุด

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์