'อนุทิน' ยัน ภท.ไม่เคยขวางนโยบายรัฐบาล ย้ำปม 'เขากระโดง' ให้รอศาลตัดสิน
"อนุทิน" ยัน "ภูมิใจไทย"ไม่เคยขวางนโยบายรัฐบาล ไร้ขัดแย้งกับ"ทักษิณ" ย้ำ ปม เขากระโดงทุกฝ่ายต้องเงียบรอศาลตัดสิน
24 ธ.ค.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุการพิจารณาเห็นชอบการแต่งตั้งย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดว่า ที่ประชุมคณะมนตรีจะหารือในเรื่องนี้ ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามอำนาจของปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่เสนอมายังรัฐมนตรีฯ ตามขั้นตอน ซึ่งอำนาจ การตั้งข้าราชการระดับซี 10 จะอยู่ที่ปลัดกระทรวงของทุกกระทรวง พร้อมย้ำว่ากระบวนการพิจารณาไม่ได้ล่าช้า และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการต่อรองใดๆ แต่เป็นไปตามขั้นตอนปกติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังระบุถึงการไปตีกอล์ฟกับนายทักษิณ ชินวัตร แสดงถึงความสัมพันธ์ที่เป็นไปด้วยความหรือไม่ว่า เรียบร้อยมาโดยตลอดอยู่แล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร คนเราที่โกรธกัน จะดีกันด้วยการตีกอล์ฟไม่ได้ แสดงว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยแต่เป็นการนัดตีกอล์ฟเป็นเรื่องปกติปีละครั้งสองครั้ง
ภูมิใจไทยไม่เคยขวางอะไรเลย และทำในสิ่งที่ให้สัญญากับประชาชนไว้ ซึ่งในรัฐบาลที่แล้ว จะเห็นได้ว่าทุกพรรคขวางกฎหหมายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย ปล่อยให้เหตุผลว่าไม่มีนโยบายเรื่องนโยบายกัญชาทางการแพทย์ หรือกัญชาเสรี
ส่งกรณีกฎหมายประชามติ พรรคภูมิใจไทยมองว่า ยังอีกหลายเรื่องไม่ใช่เฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เท่านั้น ยังต้องทำทุกอย่างให้เกิดความรอบคอบ แต่วันนี้กฎหมายก็ได้ผ่านสภาไปแล้ว และการลงมติของพรรคภูมิใจไทยก็เป็นเพียงแค่เสียงข้างน้อย เท่ากับว่าไม่มีแล้วประชามติ 2 ชั้น เหลือเพียงชั้นเดียว ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็น้อมรับ และเมื่อความเห็นของวุฒิสภาควรจะมี 2 ชั้นด้วย ก็ถือว่าแย้งกับทางสภาฯ ก็มีกระบวนการที่ต้องรอ 180 วัน ตามขั้นตอนเท่านั้นเอง
พร้อมย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยให้การสนับสนุนรัฐบาลทุกอย่างแต่ส่วนใหญ่ก็จะใช้การพูดคุยกัน เช่นกรณีนโยบายเงินดิจิตอล ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้เห็นด้วย แต่เมื่อเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อสภาพรรคภูมิใจไทยก็สนับสนุน ส่วนกรณีกฎหมายประชามติ ไม่ได้อยู่ในการแถลงนโยบายสภา แต่เป็นเรื่องที่มีการพิจารณาเข้ามาในภายหลัง พรรคภูมิใจไทยก็แสดงความเป็นตัวตน เท่านั้นเอง
นายอนุทิน ยังระบุถึงปัญหาที่ดินเขากระโดงว่า ทางที่ดีที่สุดคือต้องขอให้ทุกฝ่ายเงียบ และรอคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลปกครองที่อยู่ในกระบวนการ เพราะหากไปถามกรมที่ดิน การรถไฟ หรือประชาชนต่างก็ยืนยันว่าเป็นฝ่ายที่ถูกต้อง ได้ที่ดินมาอย่างถูกต้อง เมื่อทุกคนต่างฝ่ายต่างยืนยันความถูกต้องของตนเอง การตัดสินก็อยู่ที่กระบวนการยุติธรรมเท่านั้นเอง
ทั้งนี้ หลังเห็นการแถลงข่าสของการรถไฟ ยังโทรไปสอบถามทางอธิบดีกรมที่ดินตามตรงว่า หากตนเองไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทางกรมที่ดินจะสรุปออกมาอย่างนี้หรือไม่ อธิบดีกรมที่ดินยืนยันว่า ผลของกรรมการก็จะออกเช่นนี้ เพียงแต่ว่าอาจจะทำงานยาก เพราะมีการไปผูกโยงกับพื้นที่บุรีรัมย์
พร้อมยืนยันว่าได้สั่งการไปให้การดำเนินการทุกอย่างเป็นธรรม ประเทศชาติได้ประโยชน์ไม่ผิดระเบียบ ถูกต้องตามกฎหมาย รวดเร็วและเท่าเทียมกันเมื่อได้ยินเช่นนี้ก็สบายใจ และทุกอย่างก็ต้องรอกระบวนการของศาล