‘ภูมิใจขวาง’ ครูใหญ่บัญชาเกม ขึง‘แดง’ รุกฆาตอาณาจักร‘สีน้ำเงิน’

‘ภูมิใจขวาง’ ครูใหญ่บัญชาเกม  ขึง‘แดง’ รุกฆาตอาณาจักร‘สีน้ำเงิน’

ปฏิบัติการ “ภูมิใจขวาง” เพื่อไม่ให้ “นายใหญ่-รัฐบาลแพทองธาร” ขยับเกมการเมืองได้สะดวก เพราะหากวันไหน “แดง” รุกคืบแดน “น้ำเงิน” อาณาจักรที่ “ครูใหญ่” สร้างเอาไว้ มีหวังล่มสลาย  

KEY

POINTS

  • ภาพหวานชื่น "ทักษิณ ชินวัตร" กับ "อนุทิน ชาญวีรกูล" ไม่ได้การันตีว่า “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เนื่องจาก “บิ๊กบอส” ของค่ายสีน้ำเงิน” คือ "เนวิน ชิดชอบ"
  • ฉายา “ภูมิใจขวาง” ที่มอบให้ “อนุทิน” สะท้อนนัยทางการเมือง ถึง “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” ที่บัญชาเกมขวางทุกเรื่องในนโยบายสำคัญของ “รัฐบาลแพทองธาร”
  • ปฏิบัติการไม่ให้ "นายใหญ่" ขยับเกมการเมืองได้สะดวก เพราะหากวันไหน “แดง” รุกคืบแดน “น้ำเงิน” อาณาจักรที่ “ครูใหญ่” สร้างเอาไว้ มีหวังล่มสลาย  

แม้จะมีภาพหวานชื่นระหว่าง “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่วมก๊วนกอล์ฟ และงานเลี้ยงที่มี “เสี่ยกลาง”สารัชถ์ รัตนาวะดี จัดขึ้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ แต่ไม่ได้การันตีว่า “เพื่อไทย” กับ “ภูมิใจไทย” จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

เนื่องจาก “บิ๊กบอส” ของ “ภูมิใจไทย-ค่ายสีน้ำเงิน” ไม่ใช่ “อนุทิน” แต่เป็น “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ เจ้าของเครือข่ายสีน้ำเงินตัวจริงที่สามารถคอนโทรล ทั้งสส.- สว.สีน้ำเงิน ให้เคลื่อนเกมการเมืองในทิศทางที่ต้องการ

ดังนั้น การปรากฏตัวของ“อนุทิน” ข้างกาย “ทักษิณ”จึงไม่มีความหมาย เนื่องจากตัวของ “มท.1” เป็นเพียงร่างเงา-ร่างทรง ของ “ครูใหญ่บุรีรัมย์” ไร้ซึ่งอำนาจตัดสินใจในการขับเคลื่อน “ขุนพลสีน้ำเงิน”

ฉายาจากสื่อทำเนียบรัฐบาล “ภูมิใจขวาง” ที่มอบให้ “อนุทิน” สะท้อนนัยทางการเมือง ถึง“ครูใหญ่สีน้ำเงิน” ที่บัญชาเกมขวางทุกเรื่องในนโยบายสำคัญของ “รัฐบาลแพทองธาร”

ต้องยอมรับว่า การมี สว.สีน้ำเงิน อย่างน้อย 150-170 เอาไว้ในมือ เพิ่มพลังต่อรองให้กับ “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” สูงลิบ จนสร้างความลำบากใจให้ “นายใหญ่” อย่างมาก

เช็กลิสต์นโยบายที่ “ขุนพลสีน้ำเงิน” ขวางลำ “ดรีมทีมสีแดง” ประกอบด้วย ค้านเอากัญชาคืนบัญชียาเสพติด จากที่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข เปิดปฏิบัติการเตรียมนำ “กัญชา” กลับสู่บัญชียาเสพติด ด้วยการแก้กฎกระทรวงสาธารณสุข

ทว่า มีเสียงคัดค้านจาก “ขุนพลสีน้ำเงิน” จน “สมศักดิ์” ต้องยอมถอยไม่แก้กฎกระทรวง และไม่มีสัญญาณจาก “นายใหญ่” ให้เดินเกม “กัญชา” ต่อในทิศทางใด

ส่งผลให้ต้องรอการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.กัญชา ที่ค้างเติ่งอยู่ในสภาฯ ซึ่งเสนอโดย สส. รวมถึงร่างพ.ร.บ.กัญชา ที่จะเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของครม. ก็ยังไม่มีความคืบหน้า

เกมล้มกระดาน “กัญชา” ถอนแค้นการเมืองของ “ค่ายสีแดง” จึงติดหล่ม ไม่มีเหลี่ยมให้ขยับทำอะไรได้ ด้วยกลเกมและการต่อรองของ “ค่ายสีน้ำเงิน” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เช่นเดียวกับ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... กำหนดแนวทางให้ “ธุรกิจกาสิโน” เข้ามาอยู่ในระบบการบริหารจัดการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ยังไม่มีความคืบหน้าเช่นกัน

โดยมีกระแสข่าวออกมาตลอดว่า “บิ๊กสีน้ำเงิน” ยื่นเงื่อนไขต่อรองขอแทรกเข้ามาอยู่ในสมการจัดสรรปันส่วนพื้นที่ตั้ง “กาสิโน” ด้วย เบื้องต้นมีการกำหนดพื้นที่เอาไว้ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี (พัทยา) และภูเก็ต

ทว่า “บิ๊กสีน้ำเงิน” ต้องการให้ “เมืองหลวงแดนอีสาน” ของ “ค่ายสีน้ำเงิน” อยู่ในแผนพื้นที่จัดตั้ง “กาสิโน”ด้วย ทำให้แผนของ“รัฐบาล” ตั้งแต่ยุคเศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องมาถึงยุค“แพทองธาร”สะดุด จนขับเคลื่อนต่อลำบาก นอกเสียจากยอมทำตามเงื่อนไขของ “บิ๊กสีน้ำเงิน”

ทั้งที่รายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่องศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ผ่านที่ประชุมสภาฯ ด้วยมติ 253 ต่อ 0 เสียง ก่อนส่งต่อไปยังครม.ตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.2567

ไม่ต่างจากการแก้รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ทั้งที่ “เพื่อไทย” วางเป้าเอาไว้ว่าหลังแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ให้ใช้เกณฑ์เสียงข้างมากล็อกชั้นเดียว (ได้เสียงเกินครึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ์) ให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด เพื่อทำประชามติสอบถามการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปพร้อมกับการเลือกตั้ง นายก อบจ.ทั่วประเทศ

แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์ของ “ขุนพลสีน้ำเงิน” วางเกมให้ สว.สีน้ำเงิน” ตีตกการแก้เกณฑ์ประชามติล็อกชั้นเดียว ให้กลับไปใช้ประชามติล็อกสองชั้น(ต้องได้เสียงเกินครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงทั้งหมด) พ่วงเข้าไปด้วย ส่งผลให้ “เพื่อไทย” ต้องถอยหลังอีกครั้ง

ล่าสุด ต้องแช่แข็งมติ สส.เอาไว้ที่โหวตยืนให้แก้ พ.ร.บ.ประชามติ ล็อกชั้นเดียว โดยรอให้ผ่าน 180 วัน ก่อนจะยืนยันมติ สส. อีกครั้ง เพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ให้แล้วเสร็จ ก่อนจะทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ

อีกปมที่ “ขุนพลสีน้ำเงิน” กระโดดขวางเต็มคือ การเสนอ ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เพื่อสกัดรัฐประหาร ทั้ง สส.-สว. ค่ายสีน้ำเงิน จน “เพื่อไทย”ต้องยอมถอย แถม “ทักษิณ” ต้องออกมาปราม “หล่อเร็วไปหน่อย”

อย่างไรก็ตาม “วงลับค่ายสีแดง” ยังมีความพยายามผลักดัน ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม อีกครั้ง แต่อาจต้องรอจังหวะที่เหมาะสม เพราะรู้ว่าหากเสนอในเร็ววัน อาจจะส่งผลต่อเสถียรภาพของ “รัฐบาลแพทองธาร”

ทั้งหมดคือปฏิบัติการ “ภูมิใจขวาง” เพื่อไม่ให้ “นายใหญ่-รัฐบาลแพทองธาร” ขยับเกมการเมืองได้สะดวก เพราะหากวันไหน “แดง” รุกคืบแดน “น้ำเงิน” อาณาจักรที่ “ครูใหญ่” สร้างเอาไว้ มีหวังล่มสลาย