'สุวัจน์' แนะรัฐบาล อย่าประมาทเรื่องเศรษฐกิจ เหตุมีหลายสถานการณ์ส่อฉุด
“สุวัจน์” เชื่อเศรษฐกิจปีหน้าฟ้าเปิด จีดีพีทะลุ 3% เหตุหลายปัจจัยเกื้อหนุน แนะ "รัฐบาล" อย่าประมาท แนะรัฐบาลเตรียมเงินทุนสำรองไว้หากเจอวิกฤตฉุกเฉิน
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคชาติพัฒนา วิเคราะห์เศรษฐกิจในปี 2568 ว่า เป็นปีที่เศรษฐกิจดีขึ้นจากปี 2567 แม้ภาพรวมจะยังไม่ดี แต่คิดว่ากระเตื้องขึ้นเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกที่เติบโตมากกว่า 3% ประเทศไทยจึงได้รับอานิสงส์ ประกอบกับนโยบายที่รัฐบาลแจกเงิน 10,000 บาทและการใช้จ่ายงบประมาณปี 2567 การตรึงค่าไฟ ราคาพลังงานที่ไม่สูงจนเกินไปและความสำเร็จในการผลักดันตัวเลขนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้น และการส่งออกปี 2567 ที่ดีขึ้น
นายสุวัจน์ คาดการณ์ว่า จีดีพีปีหน้าอาจโตมากกว่า 3% เพราะได้แรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น รวมถึงความร่วมมือจากภาคเอกชน นโยบายซอฟท์พาวเวอร์ มาตรการลดหนี้คุณสู้ เราช่วย และมาตรการลดหย่อนภาษีรวมไปถึงการแจกเงิน 10,000 บาทในเฟส 2 และเฟสต่อไป จะทำให้เกิดกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจทั้งภาคบริการ การท่องเที่ยว สินค้าชุมชน เพิ่มมากขึ้น แต่ยังประมาทไม่ได้ เพราะมีสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ อาทิ เรื่องสงคราม เรื่องภูมิรัฐศาสตร์ เรื่องราคาพลังงาน รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่จะขึ้นภาษีนำเข้ากับประเทศคู่ค้าที่สหรัฐฯ ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น ย่อมจะทำให้เกิดกำแพงภาษีหรือสงครามการค้าที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ดังนั้นการรักษาวินัย การคลัง จึงเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องมีเม็ดเงินสำรองไว้สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน
นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า พรรคชาติพัฒนาในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และมี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จะช่วยสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยในปี 68 จะดีขึ้นในระดับใดขึ้นอยู่กับการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่เห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 เพราะคาดว่าจะกระทบสถานะการเงินการคลังของประเทศ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นบทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่แล้วที่ต้องท้วงติงนโยบายที่จะมีผลต่อสถานะการเงิน การคลัง ของประเทศ ซึ่งเราก็พร้อมที่จะรับฟัง