'จุรินทร์' ขอดูร่างรธน.รายฉบับ ชี้ สิทธิ์สส.แต่ละพรรคตัดสินใจกดโหวต

'จุรินทร์' ขอดูร่างรธน.รายฉบับ ชี้ สิทธิ์สส.แต่ละพรรคตัดสินใจกดโหวต

'จุรินทร์' ขอดูร่างแก้ไจรัฐธรรมนูญรายฉบับ มองเป็นสิทธิสิทธิ์สส.แต่ละพรรคตัดสินใจกดโหวต ยอมรับหลายปมเห็นต่าง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ประเด็นอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประธานรัฐสภา จะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 14 และ 15 ม.ค.นี้ว่า เท่าที่ตรวจสอบล่าสุดมีร่างแก้ไข รธน. ที่จะเข้าสู่การพิจารณารวม 17 ฉบับ ซึ่งเป็นร่างของพรรคการเมืองฝ่ายค้านทั้งหมด

ส่วนการลงมติต้องถือว่าเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็เป็นเสียงของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งในช่วงรัฐบาลเศรษฐาก็ได้กำหนดเรื่องการแก้ไข รธน.ไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน แต่พอมาถึงรัฐบาลชุดนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ระบุไว้เป็นนโยบายเร่งด่วนแล้ว ซึ่งวิปรัฐบาลก็คงจะต้องไปพิจารณากันอีกต่อไปว่าจะมีความเห็นไปในทางใด

 สำหรับความเห็นตนนั้นก็จะพิจารณาเป็นรายฉบับ ซึ่งก็จะต้องดูหลายส่วนประกอบกัน เช่น ประการแรกเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญว่าสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้เลยหรือไม่ หากเข้าข่ายต้องมีการทำประชามติก่อนตามที่ศาล รธน.วินิจฉัยไว้ ก็จะต้องมีคำถามว่าสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้เลยหรือไม่หากยังไม่มีมีการทำประชามติ หรือประการที่สองก็จะต้องดูว่ามีการแตะหมวด 1 หมวด 2 หรือไม่ หากแตะก็ไม่เห็นชอบ ประการที่สามก็ต้องดูที่เนื้อหาว่า มีความเหมาะสมและนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นหรือไม่ ประการที่สี่แก้แล้วทำให้มาตรฐานเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและมาตรฐาน จริยธรรมหรือมาตรฐานทางการเมืองของประเทศลดต่ำลงหรือไม่ ถ้าต่ำลงก็ไม่ควรเอาด้วย เป็นต้น          

ส่วนคำถามที่ว่าจะติดด่านวุฒิสภาหรือไม่นั้น ตนก็เชื่อว่าวุฒิสมาชิกจะลงมติอย่างไรก็ต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว สำหรับเสียงของ สส.หรือพรรคการเมืองนั้นตนเห็นว่าควรจะเป็นสิทธิ์การพิจารณาของแต่ละพรรคการเมืองเพราะแต่ละพรรคอาจมีจุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญที่มีความแตกต่างกัน

 ส่วนคำถามที่ว่าจะมีนักร้องเกิดขึ้นหรือไม่นั้นนายจุรินทร์กล่าวว่าตนไม่อาจคาดเดาล่วงหน้าได้ แต่ รธน.มาตรา 256(9) ก็เปิดโอกาสให้ สส.หรือ สว. หรือทั้งส.ส. ส.ว. รวมกันจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 สามารถเข้าชื่อกันเสนอต่อประธานสภาที่ตนเป็นสมาชิกเพื่อยื่นศาล รธน.วินิจฉัยความชอบด้วย รธน.ของร่างแก้ไขที่ผ่านรัฐสภาแล้วก่อนนำขึ้นทูลเกล้ฯ ได้ 

ส่วนร่างของพรรคประชาชนแต่ละร่างนั้นก็ยังไม่ขอวิจารณ์แต่ก็จะพิจารณาเป็นร่างๆ ไปในการตัดสินใจลงมติในวันที่ 14-15 ม.ค.