ศึก 2 ด้าน วัดพลังสายแข็ง เขย่า‘พีระพันธุ์’ เขี่ย‘รทสช.’ 

ศึก 2 ด้าน วัดพลังสายแข็ง เขย่า‘พีระพันธุ์’ เขี่ย‘รทสช.’ 

แนวทาง พีระพันธุ์ ที่เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา เต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่ขณะเดียวเรตติ้งส่วนตัว ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ สะท้อนว่าได้แรงหนุน หรือเดินมาถูกทาง ท่ามกลางเดิมพันที่ต้องต่อกรกับทุนใหญ่ เกมการเมืองจากพรรคร่วมฯ ด้วยกันเอง งานนี้ไม่แคล้ว คงต้องพังกันไปข้าง

KEY

POINTS

  • เกมผสมโรง ระหว่างทุนใหญ่และพรรคร่วมรัฐบาล 1หรืออาจถึง2พรรค สร้างแรงกระเพื่อม พีระพันธุ์ จากความไม่พอใจในนโยบายพลังงาน และอื่นๆ
  • งานนี้ถ้าทำสำเร็จเขี่ยเดอะตุ๋ย และรวมไทยสร้างชาติ พ้นรัฐบาลได้
  • ทุนจะเดินสะดวก พรรคร่วมฯ จะมีอำนาจต่อรองกับเพื่อไทยสูงขึ้นอีก

หนึ่งในรัฐมนตรีของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ที่กำลังฝ่ากระสุนตก เจอเกมการเมืองสร้างกระแสกดดันหนักหน่วงที่สุด เห็นจะไม่มีใครเท่า เดอะตุ๋ย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน จากรวมไทยสร้างชาติ

สัญญาณที่ส่งออกมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ กับความไม่ลงรอยระหว่างหัวหน้าพีฯ กับนายทุนคนสำคัญของพรรค จนนำมาสู่จุดแตกหัก ทางใครทางมัน ทุนใหญ่รายนั้น เลยจัดการสร้างดาวดวงใหม่ ผ่านพรรคโอกาสใหม่

ฟากพีระพันธุ์ ที่คุมบังเหียนกระทรวงพลังงาน แต่เลือกไม่นั่งทำงานที่กระทรวง ใช้บ้านพิบูลย์ธรรม เชิงสะพานกษัตริย์ศึก แถวถนนพระราม 1 เป็นที่ทำงานแทน ทำเอาบรรดาบิ๊กข้าราชการในกระทรวง แทบไม่รู้ความเคลื่อนไหวของเดอะตุ๋ย จนยากที่คนนอกจะมาล้วงลูก สั่งการ ชี้ซ้ายหันขวาหัน

ความแข็งในแบบพีระพันธุ์ ไม่สนองตอบความต้องการของทุน จนสร้างความหัวเสียจากการแตะเบรกหลายโครงการสำคัญ อาทิ การระงับการสรรหากรรมการสำนักงานกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ระงับการจัดซื้อจัดจ้างงานจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ และระงับประมูลรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน เป็นต้น

แค่นี้ก็เพียงพอที่ทำให้พีระพันธุ์ กลายเป็นเป้าการเมืองของฝ่ายที่เสียประโยชน์ เดินเกมเขย่าเก้าอี้เช้าเย็น ถึงขนาดลุกลามวาดพล็อตเรื่องให้เข้าขั้นขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรี ลูกนายใหญ่

เป้าหมายสำคัญของมาสเตอร์มายด์ คือต้องการเขี่ยพีระพันธุ์ ให้พ้นคณะรัฐมนตรี เพื่อให้การดำเนินนโยบายสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการ

นโยบายสุดหินของกระทรวงพลังงานยุคนี้ ตามโรดแมปของพีระพันธุ์ คือรื้อโครงสร้างราคาน้ำมัน และราคาไฟฟ้า ตามสโลแกนพังทุนผูกขาด จนหลายฝ่ายประเมินท่าทีหรือกองหนุนพีระพันธุ์ แล้วน่าจะไม่ธรรมดา ไม่เช่นนั้น คงไม่กล้าแตะขุมทรัพย์ของบรรดาเสือนอนกินทั้งหลาย

พีระพันธุ์ เองก็รู้ดีว่าตัวเองกำลังเผชิญอยู่กับอะไร สะท้อนให้เห็นผ่านการเคลื่อนไหวทางเฟซบุ๊ค เมื่อไม่กี่วันก่อน ยอมรับว่า ปี67 เป็นปีที่เหนื่อยมาก กับผลงานตรึงค่าไฟฟ้า เสนอร่างกฎหมายส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์รูฟ ให้ประชาชนติดตั้งง่ายขึ้น รวมถึงไฮไลต์ ร่างกฎหมายกำกับการประกอบกิจการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง ที่กำลังตรวจต้นร่าง สาระสำคัญ ไม่ให้มีการปรับราคาน้ำมันขึ้นลงรายวัน มีระบบพิสูจน์ต้นทุน เลิกอ้างอิงราคาตลาดสิงคโปร์ มีน้ำมันราคาถูกให้เกษตรกร และชาวประมง เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนส่งและองค์กรสาธารณกุศลสามารถนำน้ำมันเข้ามาใช้ได้เอง ช่วยลดต้นทุน

“ผมรู้ว่าผมจะต้องโดนวิชามารกระหน่ำแบบไหน แต่ผมไม่กลัวและผมจะทำให้ได้ ขอเพียงพี่น้องประชาชนช่วยเป็นกำแพงให้ผมพิงเท่านั้นก็พอ” พีระพันธุ์ ระบุ

พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคจึงได้จังหวะผสมโรง เพื่อสลัดภาพลักษณ์อีแอบตามคำทักษิณ ชินวัตร ออกไปให้พ้นตัว หมายจะให้พีระพันธุ์หลุดตำแหน่งรัฐมนตรี ในการปรับครม.ครั้งต่อไป และมีเพิ่มอีกพรรคที่ดูมีแววร่วมสังฆกรรมในเกมนี้ด้วย 

ถ้าทำสำเร็จ คือพีระพันธุ์ หรืออาจรวมถึงเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ พ้นเก้าอี้ นั่นจะเท่ากับว่ารวมไทยสร้างชาติ ก็พ้นครม. อย่างไรอย่างนั้น แถมมีการปั่นกระแสพูดถึงสส.จะย้ายพรรค หมายกระหน่ำให้ภายในพรรคระส่ำ 

เกมนี้ของพรรคร่วมฯ หวังสร้างอำนาจต่อรองในรัฐบาลที่นำโดยเพื่อไทย หากเกิดฉากทัศน์ที่ไร้รวมไทยสร้างชาติ ร่วม ครม. สส.บางคนอาจหมดใจไปต่อ ที่สำคัญเมื่อเสียงรัฐบาลลดลง จะยิ่งเพิ่มอำนาจต่อรองของพรรคอันดับ 2 ให้สูงขึ้นด้วย ดูเหมือนแกนนำในรวมไทยฯ เองก็มองออก ว่าใครกำลังสร้างแรงกระเพื่อมอย่างไร

แนวทางของพีระพันธุ์ ที่เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา เต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่ขณะเดียวกันเรตติ้งส่วนตัว ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ   

สะท้อนว่าได้แรงหนุน หรือเดินมาถูกทาง ท่ามกลางเดิมพันที่ต้องต่อกรกับนายทุนใหญ่ และเกมการเมืองจากพรรคร่วมฯ ด้วยกันเอง งานนี้ไม่แคล้ว คงต้องพังกันไปข้าง