ตรวจงาน ‘รัฐมนตรีกลุ่มเสี่ยง’ โจทย์ ‘นายใหญ่’ รีดผลงานรัฐบาล
ต้องจับตาหลังศึกซักฟอก “นายใหญ่” บ้านจันทร์ส่องหล้า จะเดินเกม - เดินหมากการเมืองอย่างไร เมื่อการปรับ ครม.เป็นความจำเป็นต้องเร่งสร้างผลงานให้นายกฯ แพทองธาร ลูกสาว มีสถานะที่มั่นคง และฟื้นกระแสเพื่อไทยก่อนเปิดศึกเลือกตั้ง 2570
KEY
POINTS
-
“รัฐบาลแพทองธาร” ที่เข้ามาบริหารงานแล้ว 4 เดือน 23 วัน ทุกระยะย่อมมีการประเมินการทำงาน เมื่อถึงวงรอบที่ต้องพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี
-
หากย้อนไปในยุค “ทักษิณ” การปรับ ครม.ในทุก 6 เดือน กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะบางส่วนต้องหมุนเวียนตำแหน่ง มีทั้งต่างตอบแทนทางการเมือง และไม่ผ่าน KPI
-
หลังศึกซักฟอก “นายใหญ่” บ้านจันทร์ส่องหล้า จะเดินเกม-เดินหมากการเมืองอย่างไร เมื่อการปรับ ครม.เป็นความจำเป็นต้องเร่งสร้างผลงานให้นายกฯ แพทองธาร ลูกสาว มีสถานะที่มั่นคง
แม้ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร จะยืนยันว่า มีสไตล์การทำงานของตัวเอง ไม่เหมือนกับ ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา แต่บารมีการเมืองของ “นายกฯ ผู้ลูก” กับ “พ่อนายกฯ” ก็ถูกเปรียบว่า ยังห่างชั้นกันมาก
บรรดา “บิ๊กเนม” หากจะเปิดดีล เปิดเจรจา ทิศทางการเมืองจะมุ่งไปที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ไม่ใช่ “ทำเนียบรัฐบาล” เพราะการตัดสินใจขยับเกมมักจะมาจากมันสมองของ “นายใหญ่” เสียมากกว่า
สำหรับ “รัฐบาลแพทองธาร” ที่เข้ามาบริหารงานแล้ว 4 เดือน 23 วัน ทุกระยะย่อมมีการประเมินการทำงาน เมื่อถึงวงรอบที่ต้องพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี
หากย้อนไปในยุค “ทักษิณ” การปรับ ครม.ในทุก 6 เดือน กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะบางส่วนต้องหมุนเวียนตำแหน่ง มีทั้งต่างตอบแทนทางการเมือง และไม่ผ่าน KPI
กรณีหลังนี้ นายใหญ่เพื่อไทยให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ “รัฐมนตรี” ขับเคลื่อนนโยบาย เร่งโชว์ผลงานให้รัฐบาลได้มากที่สุด ฉะนั้นหากรายใดถูกจัดอยู่ในลิสต์ “รัฐมนตรีโลกลืม” ย่อมสุ่มเสี่ยงที่จะต้องหลุดเก้าอี้ง่ายๆ
อย่างไรก็ตาม ยุค “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” บริบททางการเมืองที่แตกต่างออกไป “พรรคเพื่อไทย” ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับ “พรรคไทยรักไทย” จำนวน สส. ลดลง ต้องพึ่งบริการจาก “พรรคร่วมรัฐบาล” การปรับ ครม. จึงต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นร่วมด้วย โดยเฉพาะความจำเป็นทางการเมือง
เมื่อมีไฟต์บังคับที่ “ขั้วฝ่ายค้าน” นำโดยพรรคประชาชน เตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะมีรัฐมนตรีโดนซักฟอกหลายคน โดยวางไทม์มิ่งฟาดฝีปากกันในช่วงปลายเดือนก.พ.- ต้นมี.ค.
ศึกซักฟอกที่จะเกิดขึ้น จึงอาจเป็นเวทีที่ทำให้ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” ฉวยโอกาสปรับ ครม.ได้เช่นกัน เพราะมี “รัฐมนตรี” หลายคนอยู่ในข่ายไม่มีผลงานให้เห็นเป็นที่ประจักษ์
ในโควตาของ “เพื่อไทย” มีรัฐมนตรีอยู่ในความเสี่ยงหลายคน แม้จะไม่มีแรงเขย่าจาก “คนในพรรค-คนนอกพรรค” เนื่องจากเกรงว่า “นายใหญ่” ไม่พอใจการเล่นเกมใต้ดิน กดดันเรียกร้องขอเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ก็มีหลายรายที่แอบลุ้นอยู่หลังฉาก หากมีสัญญาณปรับ ครม. ก็พร้อมจะออกมาเคลื่อนเกม
รายชื่อรัฐมนตรีค่ายแดง ที่อยู่ท่ามกลางความเสี่ยง อาทิ จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แม้จะสนิทสนมกับ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” แต่ผลงานของ “รัฐมนตรีน้ำ” ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่สามารถจับต้องได้
“มาริษ เสงี่ยมพงษ์” รมว.การต่างประเทศ ที่ชื่อเกือบหลุดโผ ครม.แพทองธาร 1 แต่ “นายใหญ่” ยังหาตัวแทนระดับปานปรีย์ พหิทธานุกร ไม่ได้ จึงต้องใช้บริการ "มาริษ" ที่สั่งได้ไปก่อน
ทว่า งานต่างประเทศของ “มาริษ” ที่เป็นตำบลกระสุนตก หลายเรื่องร้อน ถูกตั้งคำถามอย่างหนัก แม้แต่ปมปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมา ที่ไม่ใช่เรื่องยาก ล่าสุด ปมเรือประมงไทยล้ำแดนเมียนมา จนเกิดการปะทะกัน ก่อนจะนำมาสู่การจับกุม แต่กลับยังไม่สามารถช่วยเหลือ 4 ลูกเรือประมงไทยกลับมาได้
ว่ากันว่า “เบอร์หนึ่งบัวแก้ว” ถูกเรียกไปตำหนิมาแล้ว แต่มี “เจ้าแม่บางคน” คอยให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากมีบางภารกิจเกื้อหนุนกันอยู่
ส่วนรัฐมนตรีอีกกลุ่มที่เข้าข่ายถูกประเมินอย่างละเอียดอีกหลายคน อาทิ ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม สุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ต้องจับตา “พรรคร่วมรัฐบาล” ที่อาจมีรายการคุณขอมา ให้เปลี่ยนตัว “รัฐมนตรี” บางราย ที่แทบจะไม่มีผลงานออกมาให้เห็น อาทิ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม อีกกระแสข่าวประเมินว่า “นายใหญ่” อาจจะขอสลับกระทรวงกับ “พรรคร่วมรัฐบาล” เพื่อเร่งผลงานตามนโยบายของ “พรรคเพื่อไทย” ที่ได้หาเสียงเอาไว้ก่อนการเลือกตั้งปี 2566
โฟกัสหลักจับจ้องไปที่ “กระทรวงแรงงาน” ซึ่งอาจจะต้องยึดกลับมา เพื่อขับเคลื่อนนโยบายค่าแรง 600 บาทต่อวัน เนื่องจากการทำงานของ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.แรงงาน จากพรรคภูมิใจไทย ไม่ตอบโจทย์ “นายใหญ่-เพื่อไทย”
เนื่องจากการขึ้นค่าแรงทำได้ล่าช้า ยังไม่ถึงเพดาน 400 บาทต่อวันทั้งประเทศ ดังนั้นจึงยากที่จะขึ้นค่าแรงให้ถึง 600 บาท ภายในปี 2570 ตามนโยบายของเพื่อไทย ดังนั้นหากเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ยังอยู่ในมือพรรคร่วมรัฐบาล
ต้องจับตาหลังศึกซักฟอก “นายใหญ่” บ้านจันทร์ส่องหล้า จะเดินเกม-เดินหมากการเมืองอย่างไร เมื่อการปรับ ครม.เป็นความจำเป็นต้องเร่งสร้างผลงานให้นายกฯ แพทองธาร ลูกสาว มีสถานะที่มั่นคง และฟื้นกระแสเพื่อไทยก่อนเปิดศึกเลือกตั้ง 2570
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์