'กัณวีร์' เรียกร้อง 'นายกฯ' เคลียร์ปม อดีตสส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา ถูกฆ่าในไทย
"สส.พรรคเป็นธรรม" เรียกร้อง "นายกฯ" คุ้มครองคนทุกสัญชาติไทยไทย พร้อมเคลียร์ปม อดีตสส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา ถูกฆ่าในไทย ชี้เป็นเหตุกดปราบข้ามชาติ
ที่รัฐสภา นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึง กรณีคนร้ายก่อเหตุยิงนายลิม คิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ที่ย่านบางลำภู เมื่อวานนี้ (7ม.ค.68) ว่าตนขอเรียกร้องไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้การคุ้มครองคนที่อยู่ในประเทศไทยไม่ว่าเขาจะสัญชาติอะไร และให้เป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัย
นายกัณวีร์ กล่าวด้วยว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่าการกดปราบ ข้ามชาติ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ใช่กรณีแรก เป็นการที่ผู้ลี้ภัยหนีการประหัตประหาร จากประเทศ 1 มาอีกประเทศหนึ่ง และมีการร่วมมือกันไม่ว่าจะเป็นอย่างเปิดเผยหรือในทางลับ ทำให้เกิดการกดปราบข้ามชาติ เหมือนกรณีของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวชาวไทย ที่หายตัวในประเทศกัมพูชา ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้วทางการไทยได้ส่งตัวอดีตนักเคลื่อนไหว ชาวกัมพูชากลับไปกัมพูชา สะท้อนให้เห็นความหย่อนยานในกระบวนการกฎหมายของไทย
"ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีอดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝั่งกัมพูชา มาเสียชีวิตในพื้นที่ภาคอีสานของไทยอย่างต่อเนื่อง จึงสงสัยว่า เมื่อใดรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องการกดปราบข้ามชาติอย่างจริงจัง จะต้องไม่เป็นเครื่องมือ ทางการเมืองของประเทศอื่นๆโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน" นายกัณวีร์ กล่าว
เมื่อถามถึงมาตรการการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือผู้ลี้ภัยทางการเมือง ไม่ใช่การผลักดันกลับประเทศ แต่สามารถยิงได้เลย ใช่หรือไม่ นายกัณวีร์. กล่าวว่า จริงๆแล้วไม่ได้ เพราะทางกฎหมายและประเพณีปฏิบัติระหว่างประเทศ ที่เรายึดมั่นอยู่แล้วเป็นหลักการไม่ส่งกลับ โดยเฉพาะมาตรา 13 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย ที่ระบุว่าไทยไม่สามารถผลักดัน คนที่หนีการประหัตประหาร กลับไปที่ประเทศต้นทางได้ แต่ที่ยิ่งเลวร้ายกว่าคือการปล่อยให้ มีการ ประหัตประหารในพื้นดินไทย ซึ่งไทยผิดทั้งกฎหมายในประเทศ และหลักการระหว่างประเทศ ทั้งนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเหตุการณ์ยิงครั้งนี้เป็นการกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ จะต้องสืบสวนสอบสวนอย่างโปร่งใส