‘ลำปาง’ ส้มมาก ‘นายใหญ่’ กู้ชีพ ‘บ้านใหญ่สีแดง’

ว่ากันตามตรง ทักษิณ ชินวัตร ไม่เดินทางไปช่วยหาเสียงให้ “ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร” ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง พรรคเพื่อไทยก็ชนะ เนื่องจากคะแนนนิยมของลูกสาวคนโตตระกูลโล่ห์สุนทร ยังเหนือกว่าคู่แข่งอย่าง ดาชัย เอกปฐพี กลุ่มพลังลำปาง หลายช่วงตัว

ปี 2563 ตวงรัตน์ ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.ลำปาง โกยไป 2 แสนคะแนน ขณะที่ ดาชัย เอกปฐพี ได้ 4 หมื่นคะแนน

แถมพรรคประชาชน ที่มี สส.ลำปาง 3 คน ก็ไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ. ลำปาง เท่ากับเปิดทางให้ตวงรัตน์ไปโดยปริยาย

ดังนั้น นายใหญ่ไปเขลางค์นคร น่าจะมองไกลไปถึงอนาคตการเลือกตั้ง สส.ลำปาง สมัยหน้ามากกว่า จึงมาเปิดปราศรัยใหญ่ “อู้กำเมือง” เอาใจคนเมืองรถม้า

อย่างที่ทราบกัน ผลการเลือกตั้ง สส.ลำปาง ปี 2566 ช็อกกองเชียร์เสื้อแดง และบ้านใหญ่ลำปาง เมื่อพรรคประชาชน กวาดไป 3 ที่นั่ง ส่วนพรรคเพื่อไทย ยังรักษาเก้าอี้ สส. 1 ที่นั่งไว้ได้ในเขต 2
 

เขต 1 ทิพา ปวีณาเสถียร พรรคประชาชน ชนะกิตติกร โล่ห์สุนทร อดีต สส.ลำปางหลายสมัย พรรคเพื่อไทย

เขต 2 ธนาธร โล่ห์สุนทร ลูกชายคนสุดท้องของ “ป๋าโรจน์” ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ยังรักษาพื้นที่ของบิดาไว้ได้

เขต 3 ชลธานี เชื้อน้อย พรรคประชาชน ชนะจรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ อดีต สส.ลำปางหลายสมัย พรรคเพื่อไทย

เขต 4 รภัสสรณ์ นิยะโมสถ พรรคประชาชน เอาชนะ “เจ้าพ่อดอยเงิน”พินิจ จันทรสุรินทร์ อดีต สส.ลำปาง 9 สมัย

นี่คือสัญญาณลบสำหรับพรรคเพื่อไทย “นายใหญ่” จึงต้องมาเยือนลำปาง เพื่อยืนยันความเป็นอดีตนายกฯ “ลูกข้าวนึ่ง”

กว่า 2 ทศวรรษ พรรคของทักษิณ ยึดครองเขลางค์นคร โดยแบ่งอาณาเขตเป็น 2 บ้านใหญ่คือ “ป๋าโรจน์” เจ้าพ่อบ้านสวน คุมลำปางโซนเหนือ ส่วน “พินิจ” เจ้าพ่อดอยเงิน คุมลำปางโซนใต้

“ป๋าโรจน์” ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร เติบโตใต้ร่มธงพ่อเลี้ยงณรงค์ เมื่อเข้าสู่ยุคทักษิณ ป๋าโรจน์บารมีล้นลำปาง ดันลูกชาย-กิตติกร และธนาธร พ่วงลูกสาว-ตวงรัตน์ เป็น สส.ลำปาง ต่างกรรมต่างวาระ แต่อยู่ในสีเสื้อชินวัตร

ส่วนการเมืองท้องถิ่น ป๋าโรจน์ หนุน สุนี สมมี นั่งนายก อบจ.เมืองรถม้า 2 สมัย ในนามเพื่อไทยลำปาง
 

ปี 2563 ป๋าโรจน์ ดันลูกสาว ตวงรัตน์ ลงสนามนายก อบจ.ลำปาง แทนสุนี สมมี ที่ตีจากไปสังกัดค่ายเนวิน

40 กว่าปีมาแล้ว “พินิจ” มีป้อมค่ายที่แข็งแกร่งทางตอนใต้ของลำปาง ยากที่ข้าศึกจะมาตีแตกได้

พินิจไม่ใช่คนลำปาง เขาเกิดที่ อ.ลอง จ.แพร่ ก่อนจะมาทำงานที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง ปักหลักเล่นการเมืองท้องถิ่นมาแต่ปี 2510 และปี 2518 ได้เป็น สส.ลำปาง สมัยแรกในสีเสื้อพรรคธรรมสังคม

ชาวลำปางต่างรู้จัก “บ้านดอยเงิน” ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งพินิจใช้บ้านหลังนี้ เป็นฐานบัญชาการมาโดยตลอด

กลางปี 2563 เจ้าพ่อดอยเงิน สูญเสียลูกชาย อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ สมัยที่เป็น สส.ลำปาง เขต 4 เสียชีวิต ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด

การเลือกตั้งซ่อม สส.ลำปาง เขต 4 “เจ้าพ่อดอยเงิน” พินิจ เปลี่ยนใจนาทีสุดท้ายไม่ลงสมัคร สส.แทนลูกชายที่เสียชีวิต ทำเอา “ป๋าโรจน์” รู้สึกหงุดหงิด เพราะเตรียมการไว้พร้อมแล้ว

วัฒนา สิทธิวัง อดีตรองประธาน ส.อบจ.ลำปาง พรรคพลังประชารัฐ จึงชนะเลือกตั้งซ่อมได้เป็น สส. โดยการดูแลของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

หลังจากนั้น คนลำปางโซนใต้ ได้ส่งสัญญาณไม่เอา “การเมืองเก่า” เมื่อ กกต.แจกใบเหลือง วัฒนา สิทธิวัง สส.ลำปาง และจัดการเลือกตั้งซ่อมในวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค.2565

เซียนการเมืองฟันธง วัฒนา สิทธิวัง พรรคเศรษฐกิจไทย(ออกจากพลังประชารัฐพร้อม ร.อ.ธรรมนัส) ชนะ “หนานแมว” เดชทวี ศรีวิชัย พรรคเสรีรวมไทย

ผลเลือกตั้งครั้งนั้น กลับหักปากกาเซียน เดชทวี ศรีวิชัย ได้ 54,359 คะแนน ส่วนวัฒนา สิทธิวัง ได้ 30,218 คะแนน

ในฐานะแม่ทัพใหญ่ ร.อ.ธรรมนัส ผิดหวังมากที่สุด เพราะไม่คิดไม่ฝันคนลำปางจะเทคะแนนให้หนานแมว ที่แทบไม่ได้เดินหาเสียง

ผลเลือกตั้งซ่อม สส.ลำปาง เขต 4 รอบที่สอง ชี้ชัดว่า คนลำปางไม่เอาการเมืองเก่า หรือการเมืองแบบบ้านใหญ่

ดังนั้น การเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 พายุสีส้มจึงกวาด “นักการเมืองเก่า” ตกเวที รวมทั้ง “เจ้าพ่อดอยเงิน” ที่พ่ายนักการเมืองรุ่นหลาน การกอบกู้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย จึงเป็นภารกิจโหดหินของนายใหญ่ทักษิณ

โจทย์ใหญ่ของเพื่อไทย ไม่ใช่การเลือกตั้งนายก อบจ.ลำปาง เพราะยังไง ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร ได้รับเลือกเป็นนายกฯสมัยที่ 2 แน่ๆ

การเลือกตั้ง สส.ลำปาง สมัยหน้า จะทำอย่างไร เพื่อไทยจะกลับมายึด 4 ที่นั่ง สส.เหมือนในอดีต นี่เป็นโจทย์ใหญ่ของจริง

คำว่า เจ้าพ่อบ้านสวนคุมโซนเหนือ และเจ้าพ่อดอยเงินคุมโซนใต้ คงใช้ไม่ได้กับการเมืองยุคใหม่ และได้เวลาปิดตำนาน 2 บ้านใหญ่คุมลำปาง