‘บ้านใหญ่’ ปลดแอก‘นายหัว’ ‘โกเล้ง’ แบเบอร์ ‘นายกอบจ.ตรัง’?
สนามอบจ.ตรัง ที่กำลังเปิดฉากวัดพลัง โดยสะท้อนภาพของการสยายปีกของตระกูล “โล่สถาพรพิพิธ” ที่รอบนี้เป็นเอกเทศ ไม่อยู่ภายใต้แบรนด์“นายหัว”อีกต่อไป
KEY
POINTS
- สนามอบจ.ตรัง สะท้อนภาพของการสยายปีกของตระกูล “โล่สถาพรพิพิธ” ที่รอบนี้เป็นเอกเทศ ไม่อยู่ภายใต้แบรนด์“นายหัว”อีกต่อไป
- เช็กขุมกำลังสนามนายกอบจ.ตรังรอบนี้ ชัดเจนว่า“โกเล้ง” แชมป์เก่านอกเหนือจากจะมีในส่วนของ“โกหนอ”สมชาย น้องชาย เป็นแบ็คแล้ว ยังมีในส่วนของ“4 สส.ตรัง”ที่เปิดหน้าสนับสนุนชัดแบบไม่ต้องลุ้น
- สัญญาณการปลดแอกระหว่าง บ้านใหญ่ “โล่สถาพรพิพิธ” กับ “ซุ้มนายหัว” ส่งสัญญาณมาตั้งแต่การเมืองภาพใหญ่ ซึ่งค่ายสีฟ้าแบ่งเป็น2ขั้วอย่างเห็นได้ชัด
ในมิติการเมืองหากพูดถึง จ.ตรัง แน่นอนว่า หลายคนนึกถึงดินแดนบ้านเกิด อันเป็นมนต์ขลัง “นายหัว ชวน หลีกภัย” อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 2 สมัย ตามบทเพลง “รักหนุ่มเมืองตรัง”
ทว่า หากมองในบริบท“การเมืองท้องถิ่น”ในเวลานี้ ซึ่งอยู่ในช่วงของการเลือกตั้งนายกอบจ.และสมาชิกอบจ.ที่ขับเคี่ยวชิงชัยก่อนรู้ผลแพ้-ชนะกัน ในวันที่ 1 ก.พ.อาจไม่เป็นเช่นนั้น
อย่างที่รู้กันว่า ดุลอำนาจภายใน “ค่ายสีฟ้า” เวลานี้ถูกแบ่งเป็น 2 ขั้วอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างกลุ่มเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค และ 21 สส.ประชาธิปัตย์ จำนวนนี้มี 2 ส.ส.ตรัง รวมอยู่ด้วย และอีกกลุ่มคือ “กลุ่ม 4 สส.” ซึ่งมี “ชวน” ในฐานะสส.บัญชีรายชื่อ อยู่ในกลุ่มนี้
เป็นเช่นนี้ ย่อมส่งผลมาถึงสนามอบจ.ตรัง ที่กำลังเปิดฉากวัดพลัง โดยสะท้อนภาพของการสยายปีกของตระกูล “โล่สถาพรพิพิธ” ที่รอบนี้เป็นเอกเทศ ไม่อยู่ภายใต้แบรนด์“นายหัว”อีกต่อไป
ศึกอบจ.รอบนี้ “โกเล้ง” บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ แชมป์เก่า หมายเลข 1 ลงป้องกันแชมป์ ปลดแอกจาก “ทีมกิจปวงชน” ของ “กิจ หลีกภัย” อดีตนายกอบจ.ตรัง พี่ชาย “ชวน”ในรอบที่แล้ว หันไปใช้แบรนด์ใหม่ “ทีมนายกบุ่นเล้ง”
ขณะที่คู่แข่ง ประกอบด้วย ยรรยง ตันติตรีญาณ หมายเลข 2 และ ทวีศักดิ์ สงชู หมายเลข 3
ย้อนกลับไปในการเลือกตั้งรอบที่แล้ว เกิดศึก“ชนช้างสีฟ้า” ระหว่าง “2ตระกูล” ทั้ง “วงศ์หนองเตย” ที่ส่ง“สาธร วงศ์หนองเตย”น้องชายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตสส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ลงชิงในนามทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง ชนกับ“บุ่นเล้ง”พี่ใหญ่ย่านตาขาว ที่ได้รับการสนับสนุนจากทีม“กิจปวงชน”
ผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 ปรากฎว่า “บุ่นเล้ง”กำชัยด้วยคะแนน 162,419 ทิ้งห่าง“สาธร”ที่ได้ 116,366 คะแนน กว่า 5 หมื่นคะแนน
ทว่า ศึกนายกอบจ.รอบนี้ กลับไร้เงาคนในตระกูล “วงศ์หนองเตย” อดีตตระกูลการเมือง และเป็นคู่แข่งของโกเล้งในรอบที่แล้ว ที่เวลานี้หันหลังให้ค่ายสีฟ้าลงชิง
เช็กขุมกำลังสนามนายกอบจ.ตรังรอบนี้ ชัดเจนว่า“โกเล้ง”นอกเหนือจะมีในส่วนของ“โกหนอ”สมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตสส.ตรัง น้องชาย เป็นแบ็คคนสำคัญแล้ว ยังมีในส่วนของ“4 สส.ตรัง”ที่เปิดหน้าสนับสนุนชัดแบบไม่ต้องลุ้น
ไม่ว่าจะเป็น เขต 1 ถนอมพงศ์ หลีกภัย จากพรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 2 ทวี สุระบาล จากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบ้านใหญ่จนคว้าชัยสนามสส.ครั้งล่าสุด
ตอกย้ำชัดในวันสมัครรับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2567 ที่ปรากฎภาพทั้ง “ถนอมพงศ์”และ“ทวี”เดินทางไปให้กำลังใจ“โกเล้ง” ในวันดังกล่าว
ไม่ต่างจากเขต 3 สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ลูกสาวโกหนอ และเป็นหลานลุงของ “โกเล้ง” และ เขต 4 กาญจน์ ตั้งปอง เด็กในคาถาบ้านใหญ่ จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ต้องคาดเดาให้ยุ่งยาก
(ขอบคุณภาพจาก เพจ : หนังสือพิมพ์ข่าวเมืองตรัง )
อันที่จริงสัญญาณการปลดแอกระหว่าง บ้านใหญ่ “โล่สถาพรพิพิธ” กับ “ซุ้มนายหัว” ก็เริ่มส่งสัญญาณมาตั้งแต่การเลือกตั้งสนามใหญ่
ไล่ตั้งแต่ฝั่ง“โกหนอ” สมชาย ประกาศกร้าว แท็กทีม“ทวี สุระบาล” ลงชิงสส.เขต 2 จ.ตรัง ในนามพลังประชารัฐ ชนกับ“สาทิตย์”แห่งปชป.ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มคนใกล้ชิดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค
ผลการเลือกตั้งเป็นไปตามคาด “ทวี”เอาชนะ“สาทิตย์”แบบถล่มทลาย ด้วยคะแนนกว่า 63,185 คะแนน ถือเป็นอันดับ 1 ของประเทศในการเลือกตั้งครั้งดังกล่าว
ไม่ต่างจาก“เด็กปั้น”ในคาถาบ้านใหญ่ ทั้ง “สุณัฐชา” และ"กาญจน์" ที่คว้าตั๋วผู้แทน ชักแถวเข้าสภา
ขณะที่เด็กในคาถา“นายหัวชวน”พ่ายเรียบ ไม่ว่าจะเป็นเขต 1 “หมอตุล”นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น อดีตแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลตรัง แพ้“ถนอมพงศ์” แม้จะมีศักดิ์เป็นหลานชายนายหัวชวน แต่เดินการเมืองคนละเส้นทาง
ไม่ต่างจากเขต 4 “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล” อดีตเลขานุการประธานสภาฯ ลูกรัก“นายหัวชวน” ที่แพ้โพลพรรค จนต้องย้ายค่ายลงชิงในนาม“รวมไทยสร้างชาติ” แต่แพ้“สส.กาญจน์” เด็กปั้นบ้านใหญ่
มีการวิเคราะห์ว่า ความพ่ายแพ้ของเด็กในคาถานายหัวครั้งนั้น เกิดจากปัญหาความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในการส่งผู้สมัคร ฝั่ง “โกหนอ สมชาย” ประกาศอย่างชัดเจน ในช่วงหาเสียง ขอช่วยปชป.หาเสียงแค่ 2 เขต คือเขต 3 สุณัฐชา และเขต 4 กาญจน์ ส่วนที่เหลือ เขตใครเขตมัน
เหนือไปกว่านั้น ในศึกเลือกตั้งครั้งเดียวกันการเมืองยังต่อสู้กันอย่างดุเดือดถึงขั้นที่ “ทวี” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบ้านใหญ่ ยังมีการยื่นร้องต่อกกต. เอาผิด“ชวน” และ “สาทิตย์” กรณีปราศรัยใส่ร้าย
โดยระบุว่า “ชวน” ได้พูดสนับสนุนคำพูดของ“สาทิตย์” เรื่องการย้ายพรรคของ “ทวี” ว่า กินบนเรือนขี้รดหลังคา ช่วงย้ายพรรคไปอยู่กับ “ทักษิณ” เพราะเห็นแก่เงิน 42.4 ล้านบาท
ไม่ต่างจาก “ชวน” ที่ยอมรับว่า สนามเมืองตรังเปลี่ยนไป แถมประกาศชัด ในเขต 4 จะช่วยหาเสียงเฉพาะขอคะแนนปาร์ตี้ลิสต์เท่านั้น ในส่วนตัวผู้สมัครต้องให้เกียรติ “สมบูรณ์” ที่เสียสละ ลาออกจากพรรคไป
ตัดภาพมาที่โหมดการเมืองภาพใหญ่ จนถึงนาทีนี้ “พรรคสีฟ้า” แยกเป็น 2 ขั้ว โดย “2 สส.ตรัง” เป็น 2 ใน 21 สส. ที่ขึ้นตรงกับ“เฉลิมชัย”หัวหน้าพรรค อยู่ในสถานะพรรคร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ขณะที่ “ชวน” ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 4 สส.อีกขั้ว แม้จะอยู่ในสถานะร่วมรัฐบาลตามมติพรรค แต่บทบาทที่ผ่านมา ดูเสมือน“ฝ่ายค้านในรัฐบาล”เสียมากกว่า ตอกย้ำชัด จากศึกวิวาทะระหว่าง “2 อดีตนายกฯ” ทั้ง “ชวน” และ “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่เพื่อไทย ที่ปรากฎภาพตลอดช่วงที่ผ่านมา
ทั้งหมดทั้งมวลจึงเป็นการตอกย้ำสนามอบจ.ตรังรอบนี้ ส่งสัญญาณถึงการปลดแอกระหว่าง“บ้านใหญ่”และ“ซุ้มนายหัว”ที่เดินคนละเส้นทาง