ยื่น กกต.สอบผู้สมัครนายก-ส.อบจ.บุรีรัมย์ แฉพิรุธหมายเลขเดียวกันยกจังหวัด

ยื่น กกต.สอบผู้สมัครนายก-ส.อบจ.บุรีรัมย์ แฉพิรุธหมายเลขเดียวกันยกจังหวัด

'ทนายอั๋น' รุดยื่น กกต.จี้สอบปมผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก-ส.อบจ.บุรีรัมย์ มีการจ้างวานหรือไม่ แฉพิรุธได้หมายเลขเดียวกันยกจังหวัด อ้างมีผู้มากบารมีใส่เสื้อ 'ฅนบุรีรัมย์' 

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" ยื่นคำร้องต่อนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ตรวจสอบการเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ กล่าวหาว่าพบความผิดปกติที่ผู้สมัครนายก และ ส.อบจ.ในนามกลุ่ม “ฅนบุรีรัมย์” ได้หมายเลขเดียวกันทั้งจังหวัด จึงตั้งข้อสังเกตว่าเข้าข่ายจ้างวานให้บุคคลมาลงสมัครหรือไม่

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า การที่ผู้สมัครนายก และ ส.อบจ.ได้หมายเลขเดียวกันทั้งจังหวัด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญโดยได้รับหมายเลข 4 แล้วติดตั้งป้ายหาเสียงคู่กัน เข้าข่ายมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 54 ที่ระบุว่าห้ามซื้อ ห้ามจ้างคนมาลง มองว่า กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่จะทำให้ผู้สมัครได้รับหมายเลขเดียวกันทั้งจังหวัด

นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งที่แล้วใช้ชื่อ กลุ่มเพื่อนเนวิน และได้รับเบอร์เดียวกันคือหมายเลข 8 และในการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้ชื่อกลุ่มว่า “ฅนบุรีรัมย์” และได้รับหมายเลขเดียวกันทุกเขต ขณะเดียวกันผู้มากบารมีได้ใส่เสื้อที่มีข้อความดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมาร้องให้ กกต.ตรวจสอบ อีกทั้งนายแสวง ในฐานะคนบุรีรัมย์ ขอให้อย่าลืมบ้านเกิดบ้านเก่า จะดำเนินการอย่างไร เช่นเดียวกับกรณีการเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทราบดีว่าจังหวัดบุรีรัมย์คือแหล่งกำเนิดของประเพณีวัฒนธรรมการเมืองแบบเดิมๆ บ้านใหญ่ การซื้อเสียง การใช้อำนาจรัฐ แต่ในป้ายที่เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิในวันที่ 1 ก.พ.นี้ เหตุใดไม่ระบุห้ามซื้อสิทธิขายเสียง เลือกคนที่มีความรู้ความสามารถเข้าไป

นายภัทรพงศ์ กล่าวด้วยว่า จึงบอกว่า กกต. เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มบ้านใหญ่หรือไม่ สกัดพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า นายอำเภอสั่งการให้ปลัดอำเภอสั่งการต่อไปยังกำนัน และผู้ใหญ่บ้านให้ไปจับตาดู และถ่ายภาพพรรคประชาชนลงพื้นที่หาเสียงเพื่อรายงานกลับมายังนายอำเภอ

“ผมจึงถามว่ากรณีเช่นนี้นายแสวง ทำอะไรอยู่ ซึ่งในวันที่ 23 ม.ค.นี้ ผมจะไปยื่นฟ้องนายแสวง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขณะนี้ได้เตรียมเอกสารคำร้องไว้เรียบร้อยแล้ว ผมขอพูดดักคอไว้ก่อน ที่สำคัญคนกลุ่มนี้ไม่หาเสียง แต่มีคะแนนมาจากไหน จัดตั้งหรือไม่ ดังนั้น วันนี้ผมมาแล้ว พวกคุณจะทำอย่างไรก็ไปเป็นโจทย์ของคุณ ที่จะต้องหนีจากประเด็นเรื่องการดำเนินการค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งเป็นแพทเทิร์นเดียวกัน คนที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผม ได้รับคะแนน 2-3 หมื่นคะแนนแต่ไม่หาเสียง” นายภัทรพงศ์ กล่าว