‘ทักษิณ’ แย้ม ต.ค. เปิดแซนบ็อกซ์คริปโตในไทย

"ทักษิณ" ยัน ขอเสือกทุกเรื่อง แซว ‘อิ๊งค์’ คิด-ทำเหมือนตัวเอง แต่เป็น "นายกฯ" ตัวจริง ที่มีเงาแก่ๆ อยู่ด้านหลัง เผยนักลงทุนเอเชียจ่อคุยหลังสหรัฐประกาศให้ความสำคัญคริปโต
18 ม.ค.2568 เวลา 09.45 น. ที่โดมวิทยาลัยธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.นครพนม ตอนหนึ่งระบุว่า ตนยังเป็นห่วงประชาชน วันนี้คนถามว่าตนมีหน้าที่อะไร ไปพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ตนบอกว่าตำแหน่งของตนคือ สทร. เสือกทุกเรื่อง บ้านเมืองนี้หลังจากที่ตนออกไปก็ขาดการบริหารอย่างมีเป้าหมายไปเยอะ ก็เหมือนการบริหารที่ไม่บริหาร บ้านเมืองจึงแย่ไปหลายจุด
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนในฐานะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี และได้รับความพระเมตตา พระกรุณาธิคุณอยู่ครั้งหนึ่งให้ตนได้กลับมารับใช้ประชาชน ตนจึงต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองเราอยู่อย่างมีความสุข
วันนี้รัฐบาลพยายามปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยประชาชนด้วยการทำโครงการบ้านเพื่อคนไทย เฟสแรก 4.7 พันยูนิต แต่คนลงทะเบียนรับสิทธิ์ 23 ล้านคน เราตั้งใจทำ 1 ล้านยูนิต แต่ก็ยังไม่พอเพราะคนไม่มีบ้านกว่า 5.8 ล้านครอบครัว ซึ่งก็ต้องช่วยกันดูว่า พื้นที่ตรงไหนที่จะมาทำได้อีก
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันลูกสาว (แพทองธาร ชินวัตร)เป็นนายกรัฐมนตรี เขาตามตนหาเสียงตั้งแต่ตอนตั้งพรรคไทยรักไทย อายุ 12 ปี ระหว่างตนอยู่ต่างประเทศเขาก็ไปหา เป็นลูกที่ได้เชื้อตนเพราะวิธีคิดวิธีพูด และวิธีการทำงานเหมือนกันมาก ทุกวันนี้แทบไม่ได้คุยกัน แต่เวลาให้สัมภาษณ์ออกมาก็เหมือนกันทุกอย่าง นายกรัฐมนตรีตัวจริงคือแพทองธาร ที่มีเงาอยู่ข้างหลังคือเงาแก่ๆ อยู่คนหนึ่ง
ตอนนี้มีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นในประเทศไทยมาก ตนก็มีงานมากเช่นกัน ต่างชาติมาเจรจา เพราะรัฐบาลเคยให้นโยบาย ตอนหาเสียงว่าเราจะเป็นศูนย์คริปโตของอาเซียน โดนัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ก็ประกาศว่าเรื่องคริปโต เป็นเรื่องใหญ่ของสหรัฐแถวอาเซียนก็ติดต่อมาว่าจะเอาอย่างไรดี เรื่องนี้นี้จะเป็นเรื่องใหญ่ที่จะสร้างเม็ดเงินให้ประชาชน เพราะต้องยอมรับว่าเงินมันแห้งไป เขาก็ดูด หาเงินเท่าไหร่ เขาก็ดูดไปหมด ตนไม่ยอม คนต่างจังหวัดทำงานแทบตายมีเงินน้อย แต่เราต้องสร้างให้มีสภาพคล่องอยู่ในจังหวัด
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ประชาชนหนี้เยอะรัฐบาลรับช่วงมาก็เป็นหนี้ประมาณ 64% ของจีดีพี แล้ววันนี้จึงพยายามที่จะทำอย่างไรให้มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ให้เงินไหลสะพัดคล่องขึ้น ให้พี่น้องมีเงินใช้ ให้เหมือนตอนที่ตนอยู่พรรคไทยรักไทย ก่อนครบเทอมของรัฐบาลนี้
"ล้วงไปปีนี้ตั๋วจำนำจะหายไป ปี 2569 ล้วงไปจะมีเงินแล้ว และปี 2570 กลับมาอีกทีล้วงมาก็จะล้วงไม่ลง เพราะเงินมันเยอะไป ที่พูดนั้นตั้งใจและมั่นใจว่าเอาไว้ได้ แม้ว่าตอนนี้บ้านเราจะลำบาก แต่ก็จะสู้จนได้ วันนี้ต้องการให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่ดี ต้องเติมเงินเข้าไปในกระเป๋าคนไทยให้ได้ ขอเวลานิดหน่อย ตนจะทำให้เต็มที่ จะไม่หยุดทำ และจะไม่หยุด สทร.
จากนั้น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการสร้างเศรษฐกิจร่วมของอาเซียน ว่า เรามีการพูดคุยกับประเทศอาเซียน เพื่อให้เศรษฐกิจแข็งแรงเป็นหนึ่งเดียว อีกเรื่องที่กำลังคิดอยู่ณ เวลานี้ หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้มีการประกาศเดินหน้าเรื่องคริปโตเคอเรนซีเราจึงถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ไทยต้องทำ วันนี้เรามีความพร้อมมากกว่าใครในอาเซียน ทุกคนในภูมิภาคจึงอยากมาคุยกับเรา ว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งก็เหมือนกับการเติมเม็ดเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่า การพูดบนเวทีหาเสียงว่าจะเชิญทุกประเทศในอาเซียนมาคุยกันในเรื่องนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า ก็คุยกันอยู่ ตอนไปภูเก็ตก็นั่งคุยกันเรื่องนี้ เพราะต้องมีการหาทางออกและทำให้เร็วที่สุด ถ้าเราช้า คนที่เก่งเรื่องนี้ก็จะไปอยู่อเมริกาหมด เพราะอเมริกาทำเร็ว ของเราช้าไปหน่อย
เมื่อถามว่า ภาพของคริปโตเคอเรนซี่ที่ว่าจะเป็นอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า คริปโต ไม่ได้หมายถึงการเล่นการพนัน แต่เป็นสกุลเงินใหม่ที่มีทรัพย์สินเป็นแบ็ค มีทองคำเป็นแบ็ค มีบอนด์หรือพันธบัตรรัฐบาลเป็นแบ็ค แบบนี้เรียกว่า stable coin และเราจะไม่มีการรับคริปโตที่เสี่ยง รับแต่คริปโตที่ไม่เสี่ยง อย่างบิทคอยน์ก็มีข้อจำกัด มีจำนวนจำกัด มีแต่ขึ้นไม่มีลง หรือถ้าลงก็ลงแบบขาขึ้น โดยเดือนตุลาคมเราจะเปิดแซนบ็อกซ์ ซึ่งจะเป็นภาคธุรกิจก่อน