เกมลัด ล้ม‘นักโทษวีไอพี’ชั้น 14 ฝ่ายแค้นงัด ป.วิอาญา ติดคุกทิพย์

เปิดศักราชปี 2568 มาไม่ทันครบ 1 เดือน กลุ่มมวลชนที่เคลื่อนไหวคัดค้านรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ยังคงพุ่งเป้าไปที่ผู้มีบารมีเบอร์ใหญ่ของรัฐบาล คือ “ทักษิณ ชินวัตร”

แนวร่วมคนเคยรักมักต้านทักษิณ เพิ่งออกแอ็กชั่นยืดเส้นยืดสายเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2568 บุกยื่นหนังสือถึงทำเนียบรัฐบาลนำโดย จตุพร​ พรหมพันธุ์​ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน พิชิต​ ไชย​มงคล​ แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นพ.​วรงค์​ เดชกิจวิกรม​ ประธานพรรคไทยภักดี แก้วสรร​ อติโพธิ์ อดีต คตส.

เจษฎ์ โทณะวณิก​ ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย นิติธร ล้ำเหลือ พล.อ.สมเจตน์​ บุญถนอม อดีต สว. นำมวลชนมาทวงถามเรื่องการพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของ “ทักษิณ” พร้อมทั้งประกาศขู่ยกระดับชุมนุมยาว หากรัฐบาลยังนิ่งเฉย

การขับเคลื่อนของมวลชนนอกทำเนียบฯ ซึ่งประกอบกำลังกัน ทั้งกลุ่มอดีตพันธมิตร กลุ่ม คปท. กลุ่มคนคลั่งชาติ ที่นำโดย นพ.วรงค์ และบรรดานักวิชาการที่ยืนอยู่ปีกตรงข้าม “ทักษิณ” ยังคงเดินเกมปลุกกระแสผ่านม็อบและสื่อ ทั้งประเด็นการติดคุกไม่จริงของ “ทักษิณ” ทั้งการไม่ยกเลิก เอ็มโอยู 44 ประเด็นพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา รวมทั้งล่าสุด คัดค้านการผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์

เกมล้มรัฐบาลของมวลชนปีกตรงข้าม “ทักษิณ” ยังคงทวงถามเรื่องร้อนที่สุดคือ “การป่วยทิพย์” ชั้น 14 ยังคงทวงถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงพยานหลักฐาน เวชระเบียบที่อยู่ในการครอบครองของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจและคำรับรองทางการแพทย์ว่า “ทักษิณ” มีการอาการป่วยหนัก

กระทั่งวันเวลาผ่านมาจวบจนจะครบ 1 ปีที่ “ทักษิณ” พ้นโทษจากการพักรักษาในโรงพยาบาลตำรวจ และสามารถออกมาเดินเกมทางการเมือง ในรูปแบบ “ทักษิณคิด นายกฯ ทำ” บรรดามวลชนต้าน “ทักษิณ”ยังไม่สามารถจุดพลังมวลชนให้ออกมาร่วมล้มรัฐบาลได้

อย่างไรก็ตาม คล้อยหลัง 1 วันของการบุกทำเนียบฯ เกิดการระดมสมองแก้เกมกันในหมู่คนต้านทักษิณ

นักกฎหมายในกลุ่ม ได้ค้นพบทางลัดข้อมูลใหม่ เปิดข้อกฏหมาย พลิกไปพลิกมา ก็พบว่าสามารถใช้ทางลัดคือข้อกฎหมายเอาผิด “ทักษิณ” และ “รัฐบาลแพทองธาร”ได้

แทนที่จะให้น้ำหนักในประเด็น “ทักษิณ” ไม่ป่วยจริง เป็นนักโทษเทวดา จึงเปลี่ยนการเดิมเกมมาหยิบยกเรื่องขอบเขตอำนาจศาล ซึ่งกรมราชทัณฑ์จะต้องขออนุญาตศาลก่อนนำนักโทษไปพักษาอาการป่วย

เป็นผลให้ “นพ.วรงค์”ออกมาสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า ตนเองเพิ่งค้นพบความขัดแย้งแห่งข้อกฎหมายเกี่ยวกับการพักรักษาอาการป่วยวิกฤตของ “ทักษิณ” ที่ รพ.ตำรวจว่าจำเป็นต้องขออนุญาตศาลก่อนไปรักษาหรือไม่ เพราะหากไม่มีไฟเขียวจากศาลก่อน เท่ากับว่า การพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น จะไม่สามารถหักลดโทษจำคุกออกไปได้

“เมื่อรักษาครบกำหนดออกจากโรงพยาบาล ต้องกลับไปติดคุกหรือไม่” นพ.วรงค์ตั้งข้อสังเกต

“นพ.วรงค์” พลิกข้อกฎหมายที่ฝ่ายราชทัณฑ์อ้างใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 55 วรรคสอง ประกอบกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะที่ให้อำนาจผู้บัญชาการเรือนจำ มีอำนาจส่งตัวผู้ต้องขัง ไปยังสถานบำบัดรักษาสำหรับโรคนั้นได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตจากศาล

ประกอบกับมาตรา55 วรรคท้าย กำหนดว่า ในกรณีที่ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำตามวรรคสอง มิให้ถือว่าผู้ต้องขังนั้นพ้นจากการคุมขัง ทำให้การนำ “ทักษิณ” พักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ฝ่ายกรมราชทัณฑ์จึงไม่ต้องขออนุญาตศาลและการรักษาตัวถือว่ายังคงถูกขังและรับโทษ โดยไม่ต้องนอนคุก

ทว่า นักกฎหมายในปีก “นพ.วรงค์” เพิ่งค้นพบกลเกมนิติสงคราม โดยยกข้อกฎหมายของ ป.วิอาญา พ.ศ.2477 มาตรา 246 มาโต้แย้งอำนาจของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งกำหนดให้ ศาลมีอำนาจสั่งใหทุเลาการบังคับให้จำคุกไว้ก่อน จนกว่าเหตุอันควรทุเลาจะหมดไปในกรณีต่อไปนี้ คือ (2) เมื่อเกรงว่าจำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก ดังนั้น ถ้าเจ็บป่วยวิกฤตเป็นอันตรายต่อชีวิต ถ้าจะไปรักษา รพ.ตำรวจต้องขออนุญาตศาลก่อน

วรรคท้ายของมาตรา 246 ยังกำหนดว่า ให้หักจำนวนวันที่จำเลยอยู่ในความควบคุมตามมาตรานี้ออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษา ฉะนั้น การที่ “ทักษิณ” พักรักษาตัว 6 เดือนจึงไม่ถูกนับว่าเคยถูกจำคุก

เมื่อยังไม่ถูกจำคุกก็เท่ากับว่า “ทักษิณ” จะต้องกลับไปเริ่มต้นจำคุกใหม่ในเรือนจำ

การตีความของฝ่ายบริหารคือ กรมราชทัณฑ์ ทำให้กลุ่มของ “นพ.วรงค์” มองว่ากำลังกระทำการขัดแย้งกับ มาตรา 246 ของ ป.วิอาญา เพราะ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์และกฎกระทรวงจะขัดแย้งกับ ป.วิอาญา ไม่ได้

“ป.วิอาญาให้คุณกลับมาขออนุญาตศาล จะออกระเบียบใหม่พักโทษ ให้คุมขังนอกเรือนจำได้ เชื่อว่ากำลังเอื้อนายกฯ หญิงคนหนึ่งหรือไม่ แต่กฎหมายต้องขออนุญาตศาลก่อน ไม่ใช่ทำตามใจชอบ ราชทัณฑ์ ฝ่ายบริหารใหญ่กว่าศาลหรือไม่” นพ.วรงค์ ข้องใจถึงการพ้นโทษของ “ทักษิณ”

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 27 ม.ค. 2568 กลุ่มม็อบต้านทักษิณยังคงต้องรอลุ้นผลการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จะไต่สวนและออกหมายจับให้ “ทักษิณ” กลับเข้ามาติดคุกในเรือนจำหรือไม่ จากความพยายามของ “ชาญชัย อิสระเสนารักษ์” อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นคำร้องไปแล้วจำนวน 2 ฉบับ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา

เกมลัดทางล้มนักโทษวีวีไอพี ชั้น 14 นี้ ทำให้มวลหมู่คนคลั่งชาติ ถึงขั้นตั้งตารอเงี่ยหูฟังคำสั่งในวันนั้นว่า หากศาลฎีกาฯ รับคำร้องขึ้นมาจะถือเป็นเรื่องที่ใหญ่สะเทือนรัฐบาลแพทองธาร