'ปภ.ช.' เริ่มมาตรการ เผา-จับสถานเดียว พรุ่งนี้ พร้อมเข้มเขตเมืองตรวจควันดำ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้(อาทิตย์ที่ 2 ก.พ.) ปภ.ช. ได้รายงานถึง สถานการณ์ฝุ่น พบว่าหลายพื้นที่มี ค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวังโดยทุกภาคมี ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน ทั้งนี้ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล สถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับ กทม. พบค่าฝุ่นเกินมาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 39.6 - 71.7 มคก.ต่อลบ.ม. สำหรับสถานการณ์ฝุ่นควันในสัปดาห์นี้จะมีต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 4 ก.พ.นี้ เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงที่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ศักยภาพในการระบายอากาศต่ำลง จากนั้นจะมีลมจากภาคเหนือและภาคใต้พัดเข้ามาทำให้สถานการณ์จะคลี่คลาย 
 

นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า ขณะที่ดาวเทียมตรวจพบจุดค่าความร้อนในประเทศภูมิภาคอาเซียน อาทิ เมียนมา ลาว กัมพูชาและมาเลเซีย ที่พบว่ามีจุดค่าความร้อนเพิ่มสูง ขึ้นในช่วง2วันที่ผ่านมา ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับประเทศไทยที่มีลมนิ่งทำให้เกิดค่าฝุ่นสะสม ทำให้วันนี้ (2ก.พ.) เวลา 13.00 น. ค่าฝุ่นในหลายประเทศในภูมิภาคบางเมืองตรวจค่าฝุ่นสูงกว่า 190 AQI ส่วนในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 3 ก.พ.) เวลา 10.00 น. ปภ.ช.ได้มีข้อสั่งการไปยังทุกจังหวัดให้จัดกิจกรรม Kick Off เคาะประตูบ้าน ห้ามเผา เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันทุกพื้นที่  และกำชับให้ฝ่ายป้องกันและปราบปรามบังคับใช้กฎหมายดำเนินการจับกุม ผู้เผาอย่างเคร่งครัด

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก ปรับปรุงการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เพิ่มมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่ง ห้ามใช้ชั่วคราว ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองยานพาหนะที่มีควันดำเกินมาตรฐานต้องนำรถไปปรับปรุงแก้ไข และนำรถมายกเลิกคำสั่งภายในระยะเวลา 15 วัน หากเพิกเฉยไม่แก้ไขจะถูกยกเลิกทะเบียนในการใช้ยานพาหนะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันในเขตเมือง และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการภูธรจังหวัดแต่ละจังหวัดกวดขันจับกุมรถที่ปล่อยควันดำ.