'ปิยบุตร-ลิซ่า' จี้ 'สส.ปูอัด' ลาออก ปมข่มขืนสาว ทีมงานเจ้าตัวอ้างถูกป้ายสี

'ปิยบุตร' ขยี้จี้ 'สส.ปูอัด' ลาออก ปมถูกกล่าวหาข่มขืนสาวไต้หวัน ยก ม.125 กระทุ้งสภาฯ ไฟเขียวนำตัว สส.ผู้ต้องหาไปดำเนินคดี 'ลิซ่า' ชวนสภาฯ สร้างมาตรฐานใหม่ร่วมกัน ด้านทีมงานเจ้าตัวยันถูกดิสเครดิต เตรียมแถลงชี้แจง
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2568 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณี "ปูอัด" นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ถูกศาลเชียงใหม่ออกหมายจับ คดีถูกกล่าวหาว่าข่มขืนสาวไต้หวัน ว่า นายไชยามพวาน ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจาก สส. หากยังไม่ยอมลาออก ในสัปดาห์ต่อไปที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ต้องเรียกร้องกดดันให้สภาผู้แทนราษฎรต้องมีมติอนุญาตให้ส่งตัวไชยามพวานไปทำการสอบสวนในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา
นายปิยบุตร ระบุว่า เจตนารมณ์ของความคุ้มกันของ สส.ตามมาตรา 125 วรรคแรก มีไว้เพื่อป้องกันมิให้อำนาจฝ่ายบริหาร (ในกรณีนี้ คือ อำนาจในการตั้งข้อหา สอบสวน จับ ของพนักงานตำรวจ) กลั่นแกล้งฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าเป็นการกลั่นแกล้ง ถ้าเป็นคดีการเมือง ถ้าเป็นคดีหมิ่นประมาท คดีอันเกิดจากการแสดงความเห็นหรือปฏิบัติหน้าที่ สส.ควรร่วมกันยึดถือความคุ้มกันนี้ไว้ในสมัยประชุม
แต่ถ้าเป็นการกระทำความผิดอาญาในฐานะส่วนตน ไม่เกี่ยวกับการแสดงความเห็น หรือ การปฏิบัติหน้าที่ และเป็นความผิดร้ายแรง เข่น ฆ่าคนตาย จ้างวานฆ่า ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ ข่มขืน ผมเห็นว่า สภาผู้แทนราษฎรควรมีมติ อนุญาตให้นำตัว ส.ส.ที่เป็นผู้ต้องหาไปดำเนินคดี
- "ลิซ่า" จี้ "ปูอัด" ลาออก สส.ด่วน! ชวนสภาฯ สร้างมาตรฐานร่วมกัน
วันเดียวกัน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการออกหมายจับ สส.ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ว่า ก่อนอื่นตนขอประณามพฤติกรรมที่เกิดขึ้นของผู้ถูกกล่าวหา โดยพฤติการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดครั้งแรก แต่เกิดซ้ำๆ หลายครั้งในหลายกรณี จนทำให้อดีตพรรคก้าวไกลลงมติขับออกจากพรรค แต่จนแล้วจนรอดก็ยังเกิดซ้ำขึ้นอีก ทั้งที่เป็นสิ่งที่ผู้ถูกกล่าวหาต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งไม่ให้เกิดกรณีอื่นๆ เพิ่มเติมจากเรื่องที่เคยเกิดมาแล้ว จึงถือเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และไม่ใช่ประเด็นส่วนบุคคลของผู้แทนราษฎร แต่เป็นเรื่องมาตรฐานขององค์กรสภาผู้แทนราษฎรที่จะต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกพี่น้องประชาชนด้วย ดังนั้นตนจึงกดดันให้ สส.ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ลาออกจากการดำรงตำแหน่งผู้แทนราษฎร และเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว
น.ส.ภคมน ระบุอีกว่า อย่างไรก็ตาม กรณีที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ทำหนังสือถึงสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขออนุญาตจับกุมตัว สส.ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ตามหมายศาล เพื่อไปดำเนินคดีระหว่างสมัยประชุมสภาฯ นั้น ที่ผ่านมาตามปกติแนวปฏิบัติของสภาฯ ทุกยุค ไม่ว่าจะเป็นคดีใด มติของ สส.จะพร้อมใจเป็นเอกฉันท์ ไม่ส่งตัว สส.ที่ถูกออกหมายจับไปให้ตำรวจระหว่างสมัยประชุม เพื่อไม่ให้การทำหน้าที่สมาชิกผู้แทนราษฎรในฝ่ายนิติบุญญัติสะดุดลงจากการถูกกลั่นแกล้ง แต่กรณีของ สส.ไชยามพวาน ซึ่งถูกออกหมายจับในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก และบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ควรเป็นผู้แทนราษฎรต่อไปอีก
“ดิฉันในฐานะผู้แทนราษฎรอยากให้สภาฯ ชุดนี้สร้างมาตรฐานใหม่ร่วมกัน ให้มีมติส่งนายไชยามพวานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ส่วนคดีการเมืองที่กลั่นแกล้งกันหรือคดีที่มาจากการทำหน้าที่ของ สส.ก็ควรได้รับความคุ้มกัน แต่ถ้าหากเป็นคดีที่เป็นอาชญากรรมโดยแท้ และเป็นการกระทำส่วนตัวโดยแท้ในเรื่องร้ายแรง เช่น ข่มขืน ฆ่า ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ พวกนี้ เพื่อน สส.ไม่ควรปกป้อง จึงขอเรียกร้องสภาฯ ว่าถ้าหาก สส.ไชยามพวาน ไม่ลาออกเองในเวลาที่เหมาะสม เราทุกคนก็ต้องร่วมมือกันส่งตัวบุคคลดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” น.ส.ภคมน กล่าว
- ทีมงาน "ปูอัด" ป้องโดนใส่ร้าย-ดิสเครดิต เจ้าตัวเตรียมแจงด้วยตัวเอง
วันเดียวกัน มีรายงานข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุด ในกลุ่มไลน์ “ความเคลื่อนไหว สส.ปูอัด ไชยามพวาน” ซึ่งเป็นกลุ่มสำหรับแจ้งข่าวสารของนายไชยามพวาน ทีมงานของนายไชยามพวาน ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า “โดนใส่ร้ายเหมือนเดิมครับ ดิสเครดิตครับ” เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่านายไชยามพวาน จะออกมาชี้แจงด้วยตัวเองหรือไม่ ทีมงานตอบกลับว่า “แน่นอนครับ”
ล่าสุด เวลาประมาณ 17.20 น. ทีมงานของนายไชยามพวาน ได้ส่งข้อความจากนายไชยามพวาน เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “ผมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่ได้ทำตามความผิดที่ถูกกล่าวหาแน่นอน ในส่วนกกล่ที่ถูาวหาอย่างไรขอผมดูก่อน เพราะผมยังไม่รู้เลยว่า ถูกกล่าวหาเรื่องอะไร ในประเด็นไหนบ้าง เพราะผมยังไม่รับทราบข้อกล่าวหาหรือมีโอกาสชี้แจงเลยต่อพนักงานสอบสวน และผมขอตั้งคำถามกับกระบวนการยุติธรรม ผมสงสัยมากว่าทำไมเป็นการข้ามไปออกหมายจับ แทนที่จะเป็นหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาให้ผมได้ชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่ก่อน”
“เป็นการดำเนินการของตำรวจและผู้กล่าวหาฝ่ายเดียว เพราะฉะนั้นนี่คือที่สิ่งเกิดขึ้น ยืนยันผมไปรับทราบข้อกล่าวหาแน่นอน ว่ามีประเด็นไหนบ้าง และรอบนี้ผมสู้แน่นอน ผมมั่นใจว่าไม่ได้กระทำอย่างที่ถูกกล่าวหา”
“คำถามกับตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ 1.จากที่ผมได้กข้าล่าวงต้น ผมถามว่าผมอยู่ตรงไหนของสมการในกระบวนการยุติธรรมนี้หรือไม่อย่างไร 2.ทำไมถึงไม่ออกหมายเรียก คิดว่าผมจะหนีหรือไม่อย่างไร และผมจะหนีทำไม รอบนี้ผมไม่ยอม ผมสู้แน่นอน ในกระบวนการยุติธรรรม”