'วันนอร์' รอประชุมวิป3ฝ่าย นัดประชุมรัฐสภา ยันญัตติส่งศาลรธน. ไม่ตกไป

"ประธานรัฐสภา" ชี้แจงปมเห็นต่างในการประชุมร่วมรัฐสภา ยืนยันเป็นอำนาจประธานรัฐสภาบรรจุวาระ รอประชุมวิป3ฝ่ายเคาะประชุมรัฐสภา ระบุญัตติ "หมอเปรม" ไม่ตกไป
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ชี้แจงกรณีที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา256 และเพิ่มหมวด15/1 ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อ 13-14 ก.พ. ซึ่งที่ประชุมไม่สามารถพิจารณาได้เนื่องจากสมาชิกรัฐสภาไม่ครบองค์ประชุม ว่า ว่า ที่ประชุมได้โต้แย้งว่าประธานรัฐสภาไม่มีอำนาจบรรจุวาระ เพราะขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 แต่อีกฝ่ายมองว่าทำได้นั้น ไม่ใช่ตนที่อยากบรรจุหรือไม่อยากบรรจุ แต่เป็นอำนาจหน้าที่ อีกทั้งในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่21/2567 ลงวันที่17ม.ค.67 ซึ่งวินิจฉัยความไว้ว่า หน้าที่การออกกฎหมาย และแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งรายมาตรา หรือทั้งฉบับ เป็นอำนาจหน้าที่ที่สมาชิกรัฐสภาจะกระทำได้ ถ้าเข้าชื่อกันครบแล้วเสนอมา และเป็นอำนาจของประธานรัฐสภาที่จะบรรจุระเบียบวาระเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งรายมาตรา หรือทั้งฉบับ โดยเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับของการประชุมรัฐสภา
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นคำถามที่ว่าต้องไปถามประชามติก่อนหรือไม่ ในคำวินิจฉัยศาลฯที่21/67 อาจต่างกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่4/2564 เล็กน้อย คือ หากรัฐสภาต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติเสียก่อน ซึ่งประเด็นนี้ คณะที่ปรึกษาทางกฎหมายของประธานสภาฯประชุมกัน2ครั้งแล้วลงมติเสียงข้างมากเห็นว่าประธานรัฐสภาบรรจุได้ และควรบรรจุ แล้วไปพิจารณาว่ารัฐสภาต้องการหรือยัง หมายความว่า รัฐสภาจะรับหลักการหรือไม่ ที่จะแก้รัฐธรรมนูญมาตรา256 หากไม่รับหลักการคือรัฐสภาไม่ต้องการ ต้องเป็นมติของรัฐสภา ไม่ใช่ของพรรคการเมืองใด
“หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ผ่านในวาระรับหลักการ ไปจนถึงวาระ3 ผมยังไม่ให้เลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และไม่ให้ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะต้องไปถามประชามติเสียก่อน ถ้าเลือกวิธีที่ยังไม่รู้ว่ารัฐสภาต้องการหรือไม่ ถามประชามติต้องเสียเงิน3,000ล้านบาท หากประชาชนไม่เอา ก็ตกไป หากประชาชนเอา ก็ต้องมาประชุมรัฐสภา หากรัฐสภาเกิดไม่เอา เป็นเพียงความต้องการพรรคการเมือง แต่มติรัฐสภาเป็นเสียงข้างมาก รวมถึงเสียงสว.อย่างน้อย67คนถ้าไม่เห็นด้วยก็แก้ไขไม่ได้ ดังนั้นก่อนเสียเงิน3พันล้าน จึงเลือกใช้วิธีให้รัฐสภาแสดงความต้องการก่อน” นายวันมูะมัดนอร์ ชี้แจง
ประธานรัฐสภา กล่าวด้วยว่า ขณะที่กรณีมีสมาชิกไม่เข้าร่วมประชุม เพราะกังวลว่าจะขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นสิทธิ์ของสมาชิก เพราะแม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญยังเห็นไม่ตรงกัน ส่วนประเด็นสุดท้าย จะต้องทำประชามติกี่ครั้ง คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุชัดเจน เพียงแต่บอกว่าให้ไปอ่านคำวินิจฉัยเอง
"ญัตติของนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ถือว่ายังอยู่ในวาระส่วนจะมีการประชุมพิจารณาเมื่อใดนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องรอประชุมวิป3ฝ่ายอีกครั้ง" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
เมื่อถามว่าญัตติที่ค้างอยู่แบบนี้แล้วมีผู้ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินการอย่างไร ประธานรัฐสภา กล่าวว่า การยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กร เรื่องนี้เกี่ยวกับความขัดแย้งของอำนาจประธานรัฐสภาจะบรรจุได้หรือไม่ ก็ต้องผ่านประธานฯ ต้องมีสมาชิกเข้าชื่อไม่น้อยกว่า40คน แล้วนำเข้าที่ประชุมฯว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นเป็นเช่นใด ประชาชนโดยตรงไม่สามารถส่งไปได้ เพราะไม่ถือว่าเป็นองค์กร