ศาลสั่งคุก 4 จนท.กทม.ทุจริตซื้อของขวัญวันเด็กปี 52 ไม่รอลงอาญา

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  เผยแพร่ผลความคืบหน้า คดีกล่าวหา อดีตผู้อำนวยการเขตดุสิต กทม. กับพวก กรณีจัดซื้อของขวัญวันเด็กปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาบางราย โดยถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา 157 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 11 และ 12 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2566 

ปรากฏชื่อจำเลย 4 คน ได้แก่ นางเรวดี จันทเวช เป็นจำเลยที่ 1, นางสุจิตรา นิลกานุวงศ์ จำเลยที่ 2 , นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 และ นางสาววิชุดา อ่วมจิตร์ จำเลยที่ 4 

โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ย.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาว่า นางเรวดี จันทเวช จำเลยที่ 1 นางสุจิตรา นิลกานุวงศ์ จำเลยที่ 2 นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 และนางสาววิชุดา อ่วมจิตร์ จำเลยที่ 4  มีความผิดตามกฎหมาย ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 11

โดยลงโทษ นางเรวดี จันทเวช จำเลยที่ 1 นางสุจิตรา นิลกานุวงศ์ จำเลยที่ 2  จำคุกคนละ 5 ปี  ส่วนนายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 และนางสาววิชุดา อ่วมจิตร์ จำเลยที่ 4  จำคุก คนละ 3 ปี 4 เดือน 

ขณะที่ นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 และนางสาววิชุดา อ่วมจิตร์ จำเลยที่ 4 ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้คนละหนึ่งใน 3 ลงโทษ จำคุก คนละ 2 ปี 2 เดือน 20 วัน ให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่น 

ทั้งนี้คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมดยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้อีก

รายงานข่าวแจ้งว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2568 พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2568 นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส.ส.วิลาศ จันทร์พิทักษ์ - ปชป ถึงเรื่องดังกล่าวว่า เป็น 1 ใน 23 เรื่อง ซึ่งขณะที่ตนเป็นประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ได้สอบสวนเรื่องจัดซื้อของขวัญวันเด็กของเขตต่าง ๆ ใน กทม. ต่อมาได้รับแจ้งจาก ป.ป.ช.ว่ามีมติชี้มูลความผิดทั้งหมด 23 เขต เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและส่งอัยการฟ้องศาลครับ

สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใด หรือผู้ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐผู้ใด โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท