ผบ.ตร. เฝ้าระวังสถานที่สำคัญ ไม่ซ้ำรอยอดีต หลังส่งอุยกูร์ให้จีน

ผบ.ตร. ระบุ เฝ้าระวังสถานที่สำคัญ หลังไทย ส่ง 40 ชาวอุยกูร์ให้จีน ย้ำไม่ให้ซ้ำรอยอดีต ยันกระบวนการส่งตัวไร้บังคับ ขัดขืน
27 ก.พ. 68 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กรณีรถที่มีลักษณะเป็นรถควบคุมผู้ต้องขัง ออกจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สวนพลู เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ซึ่งถูกเชื่อมโยงว่า เป็นการส่งกลับชาวอุยกูร์ให้กับทางการจีน โดย ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีนในการขอรับตัวกลับ
ยืนยันว่า มีชาวอุยกูร์ทั้งหมดที่ส่งกลับมีทั้งหมด 40 คน ส่วนอีก 8 คน เป็นชาวจีนที่ทำผิดกฎหมายในประเทศไทย โดยชาวอุยกูร์ 40 คน ถูกจับกุมเมื่อ 11 ปีที่แล้ว และมีการควบคุมตัวอยู่ในความดูแล ตม. มาโดยตลอด โดยทางการจีนได้ทำหนังสือแสดงความจริงใจ และเจตจำนงว่าชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับทั้งหมดจะได้รับความปลอดภัย
นอกจากนี้ คณะกรรมการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พลตำรวจเอกไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปกำกับดูแล ซึ่งขณะนี้ชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คน ได้เดินทางถึงประเทศจีนแล้ว โดยทั้งหมดได้รับการตรวจสุขภาพ และเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งทางการจีนรับปาก ทั้งเรื่องความปลอดภัย ที่อยู่ และให้ญาติมารอรับที่มณฑลซินเจียง โดยหลังจากนี้ก็จะมีวงรอบในการตรวจสอบความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ทั้งหมดเพื่อความมั่นใจ
เมื่อถามว่า เครือข่าย NGO นำเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยื่นขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนเองยังไม่ทราบรายละเอียด
เมื่อถามว่า เพราะเหตุใดกระบวนการส่งต่อชาวอุยกูร์ออกจาก ตม.สวนพลู ต้องปิดทึบรอบคันรถ และมีการปิดบังโลโก้ รวมถึงยานพาหนะที่ใช้ซึ่งไม่ใช่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ ระบุว่า ขบวนการทั้งหมดเป็นเทคนิค และยุทธวิธีเพื่อความปลอดภัย ความเรียบร้อย รวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่เห็นได้ว่าขบวนการทั้งหมดทำให้ชาวอุยกูร์ปลอดภัย และถึงปลายทางอย่างปลอดภัย รวมถึงการส่งตัวในช่วงกลางดึกเพื่อไม่ให้กระทบกับการจราจรของประชาชน และสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ถึงแม้ว่าชาวอุยกูร์ที่อยู่กับเรามานานกว่า 10 ปี แต่ก็เป็นภาระที่เราต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการดูแล
เมื่อถามว่า การขนย้ายชาวอุยกูร์ จะสร้างผลกระทบและความโกรธแค้นเหมือนในอดีตกับไทยหรือไม่
พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานความมั่นคง มีมาตรการในการตั้งรับ ดูแลประชาชน สถานที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อความไม่ประมาท และไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
พร้อมยืนยันว่า การขนย้ายชาวอุยกูร์เป็นไปได้ด้วยดี ไม่มีการบังคับหรือขัดขืน โดยมีตำรวจขึ้นไปกำกับดูแลความเรียบร้อยบนรถทุกคันเพื่อความเหมาะสม พร้อมกันนี้ ผบ.ตร. ยังขอความเห็นใจให้ตำรวจ หากกักตัวต่อไปก็จะเกิดกระแสเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่พอปล่อยตัวกลับไปก็จะถูกตำหนิว่าทำถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ ดังนั้นขอให้เข้าใจตำรวจด้วยว่าเรารักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
”การส่งตัวผู้กระทำผิดหลบหนีเข้าเมือง ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ผมว่าเป็นเรื่องปกติที่เราส่งไป ทำไมเวลาเราจับคนต่างชาติ และเราส่งกลับล่ะ? ชาวอุยกูร์ ผมว่าก็ไม่ต่างกัน ยังไงก็ต้องส่งกลับ เขาเป็นมนุษย์ เขาควรจะได้กลับบ้าน“ ผบ.ตร.กล่าวและว่า
ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ทำหนังสือเสนอแนะไปยังรัฐบาลมาโดยตลอด เกี่ยวกับเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์ให้ทางการจีนตามคำร้องขอ