ครม. ชงศาล เซฟนายกฯอิ๊งค์ นิยามซื่อสัตย์ ปูทาง‘สายล่อฟ้า’

ครม. ชงศาล เซฟนายกฯอิ๊งค์ นิยามซื่อสัตย์ ปูทาง‘สายล่อฟ้า’

ชื่อของธรรมนัส และ ชาดา อาจไม่น่าสนใจเท่าตัวละครลับของนายใหญ่ ที่อาจเตรียมส่งเข้ามาทำงานพิเศษบางอย่าง การเคลียร์เส้นทางให้โล่ง เพื่อความมั่นคงของนายกฯ เป็นสำคัญ

KEY

POINTS

  • ปิดประตูเสี่ยงทุกบานให้แพทองธาร เมื่อครม.ขอศาลรัฐธรรมนูญ นิยามให้ชัดถึงคนที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ 
  • เนื่องจากเมื่อสมัยเศรษฐา มีบทเรียนราคาแพง แต่งตั้ง พิชิต เป็นรัฐมนตรี จนหลุดเก้าอี้ 
  • ต้องลุ้นว่าศาลฯ จะรับคำร้อง หรือตีตก รอให้มีการแต่งตั้งบรรดาสายล่อฟ้าเป็นเสนาบดีก่อน เมื่อมีคนร้องถึงค่อยพิจารณา

 

สัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี ชัดขึ้นอีกสเต็ป หลังที่ประชุมครม. เมื่อ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะ โดยให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากที่ประชุม เพื่อหารือกันแบบลับ

โดยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งที่ประชุม อยากให้ครม.ทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอศาลรัฐธรรมนูญระบุให้ชัดถึงคำนิยามคนที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในครั้งไปต่อไป

กรณีนี้สืบเนื่องจากการที่เศรษฐา ทวีสิน เคยต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ จากการแต่งตั้งพิชิต ชื่นบาน ทนายถุงขนม เป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง

คงต้องติดตามกันต่อไปว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องของครม. เพื่อให้ตีกรอบหรือกำหนดนิยามดังกล่าวให้ชัดเจน หรือจะปล่อยให้มีการแต่งตั้งคนเป็นรัฐมนตรีร่วมครม. ไปก่อน หากมีผู้ยื่นศาลฯ วินิจฉัยเหมือนกรณีพิชิต ก็ค่อยมาว่ากัน ตรงนี้ก็ต้องลุ้น

การเตรียมยื่นศาลฯ ครั้งนี้ นัยคงต้องการเพลย์เซฟให้กับแพทองธาร จะได้เดินอยู่ในกรอบที่ไม่ต้องสุ่มเสี่ยง หรือหวาดเสียวจะพลาดท่าซ้ำรอยเศรษฐา ในการตั้งคนเข้ามาเป็นรัฐมนตรี

ทว่า อีกมุมก็มองได้เหมือนกันว่า ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลกำลังคิดอ่านเตรียมวางตัวบุคคลที่อาจจะเคยแปดเปื้อนมลทิน หรือพวกมีชนักปักหลังเข้าไปมีอำนาจหรือไม่อย่างไร ในโควตาพรรคเพื่อไทย

ขณะที่อีก 2 เกลอ ทั้งธรรมนัส พรหมเผ่า และชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่ยอมทิ้งเก้าอี้รัฐมนตรี หลังเศรษฐา พ้นตำแหน่ง โดยไม่เสี่ยงเสนอชื่อตัวเองร่วมรัฐมนตรีแพทองธาร นั่นก็เพื่อความสบายใจของนายใหญ่ในการปกป้องลูกสาวไม่ให้โดนร้องสอย จากเรื่องราวหนหลังของทั้งคู่ การเช็กคุณสมบัติรัฐมนตรี รวมถึงข้าราชการการเมืองรอบที่ผ่านมา จึงสแกนกันอย่างละเอียดยิบ

รอบนั้น ทั้งธรรมนัส และ ชาดา จึงแก้เกมโดยการส่งสายตรงหรือนอมินีมาคุมแทนตัวเอง โดยนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ส้มลูกใหญ่หล่นทับได้นั่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ และซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่ง รมช.มหาดไทย แทนพ่อชาดา

กระแสข่าวหนาหูในช่วงหลังว่าธรรมนัส เตรียมคัมแบ็คกลับมานั่งรมว.เกษตรฯ ตามเดิม ก็มีโอกาสเป็นไปได้ไม่น้อย หากการตรวจสอบคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ ไม่สะดุดหรือติดขัดอุปสรรค ก็น่าจะได้ลุ้นอยู่ไม่น้อย

ถ้าธรรมนัส คือมือไม้คนสำคัญของทักษิณ ชินวัตร จริง การเอามาร่วมครม.ก็น่าจะได้หลายเด้ง 

ทั้งการคอยระวังหน้าระวังหลัง ให้นายกฯ แพทองธาร ที่อาจไม่ทันเกมพวกเขี้ยวลากดิน หรือจะใช้งานคอยคานกับบรรดาพวกที่ทำตัวเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล โดยเฉพาะปฏิบัติการรุกไล่ทางการเมืองอย่างที่ใครไม่กล้า รวมถึงภารกิจหา สส. เติมเสียงรัฐบาล

ทว่า สิ่งที่น่าสนใจคงไม่ได้อยู่ที่ชื่อของธรรมนัส และ ชาดา เพราะเคยผ่านตำแหน่งเสนาบดีมาแล้วทั้งคู่ แต่ตัวละครลับของนายใหญ่ต่างหาก ที่น่าจับตา ว่าอาจเตรียมส่งใครบางคนเข้ามาทำงานพิเศษบางอย่าง การเคลียร์เส้นทางให้โล่ง โปร่งสบาย ตรงนี้จึงต้องจัดการก่อนให้เรียบร้อย เพื่อความมั่นคงของเก้าอี้นายกฯ เป้นสำคัญ

ภารกิจนี้ ครม.รับหน้าเสื่อไปเรียบร้อย โดยมอบหมายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รับผิดชอบทำหนังสือส่งศาลรัฐธรรมนูญ 

ขอให้นิยามให้ชัดว่าคนไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร พฤติกรรมมันมากน้อยแค่ไหนกันแน่ เพื่อปูทางให้บรรดาสายล่อฟ้าขึ้นมีอำนาจ จะได้ไม่ต้องจ่ายราคาแพงเหมือนตอนสังเวย“เศรษฐา”นั่นเอง