‘นายกฯ’ ลั่น ‘จีน’ การันตี ‘อุยกูร์’ ปลอดภัย ไม่ถูกดำเนินคดี

"แพทองธาร" ลั่น จีน การันตีความปลอดภัย "อุยกูร์" ไม่ถูกดำเนินคดีอีก คืนสู่สังคม แจง ไทยต้องชัวร์ถึงกล้าส่งกลับ ยัน ไร้ประเทศที่ 3 ขอรับตัว เปิดทาง รมต.ไทย เยี่ยมได้
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งตัวชาวอุยกูร์ กลับไปยังประเทศจีน ว่า เรื่องนี้เราได้ตรวจสอบว่าทำอะไรได้บ้างเนื่องจากชาวอุยกูร์เข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย ติดคุกในประเทศไทย 11 ปีแล้ว ซึ่งเป็นการลงโทษที่นาน และ 11 ปีที่ผ่านมา ก็ได้เช็กข้อมูลเรียบร้อย ยังไม่เคยมีประเทศไหน หรือประเทศที่ 3 ขอรับตัว ไปอยู่ในประเทศนั้นๆ ทั้งนี้ทางประเทศจีนติดต่อมา มีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคนจีน จริงๆ ถ้าเป็นเรื่องของประเทศอื่นๆ เมื่อยืนยันได้ว่าเป็นคนของประเทศไหนก็ต้องส่งกลับประเทศนั้น ไม่ได้ทำผิดกฎสหประชาชาติ หรือกฎสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด
“การที่จะไป เราทราบดีเรื่องสิทธิมนุษยชน การที่เขามาอยู่ที่นี่ 11 ปี มันก็เป็นการละเมิดสิทธิอยู่แล้วว่าเขาถูกกักขังในการเข้าเมืองผิดกฎหมายมา 11 ปีแล้ว แต่ตอนนี้เราได้คุยกับทางการจีนแล้ว จีนยืนยันอย่างเป็นทางการ ถ้าเราส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไป เขาจะไม่ต้องถูกดำเนินคดีแล้ว ไม่มีการสอบสวนอะไร สามารถกลับไปอยู่กับครอบครัวในสังคมได้” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ตอนเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ก็ได้คุยกับผู้นำในหลายระดับ รวมถึงรัฐมนตรีด้วย พอมีการนั่งรับประทานข้าวได้คุยกับรัฐมนตรีความมั่นคง คุยด้วยตัวเอง เขาก็ยืนยัน และตนคิดว่าเรื่องนี้เขาได้ให้คำมั่นสัญญากับทางไทยแล้วว่า ทุกคนที่กลับไปจะปลอดภัย ไม่เช่นนั้นเราก็คงไม่ดำเนินการส่งตัวแน่นอน ถ้าไม่ได้รับการยืนยันแบบนี้ ซึ่งเป็นการยืนยันที่ต้องประสานกัน พยายามทำทุกอย่างให้ราบรื่นที่สุด จะได้เห็นรูปอยู่แล้วว่าพอกลับไปก็กลับสู่อ้อมกอดครอบครัว ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี และจากนี้ทางการจีนก็ยังอนุญาตให้ประเทศไทยสามารถบินไปเยี่ยมหรือสอบถามได้ว่าชาวอุยกูร์ที่กลับไปแล้วมีความเป็นอยู่มีชีวิตที่ดีหรือไม่ เขาไม่ได้ปิดกั้นตรงนี้กับเราเลย
นายกฯ กล่าวว่า เมื่อกระบวนการมาถึงแบบนี้แล้ว เราไม่มีทางส่งตัวกลับไปโดยไม่ทราบว่าเขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร อย่างนั้นเราไม่ทำแน่ เราเน้นเรื่องสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีความชัวร์เรื่องนี้ เราถึงได้ดำเนินการ และยืนยันไม่มีการแลกเปลี่ยนทางการค้าใดๆ กับเรื่องนี้ ไม่มีเลย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวทั้งสิ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนไม่เกี่ยวอะไรกับสินค้า คนไม่ใช่สินค้าไม่แลกกันแน่นอน
ส่วนจะชี้แจงกับทางสหรัฐอเมริกาอย่างไรนั้น หลังออกแถลงการณ์คัดค้าน นายกฯ กล่าวว่า ตนทราบว่าหลายประเทศติดตามข้อมูล ซึ่งข้อมูลอัปเดตล่าสุดที่เราประสานอย่างจริงจังเป็นกิจลักษณะ ไม่ได้พูดกันเล่นๆ ซึ่งไม่พูดออกสู่สาธารณะในตอนแรก เพราะเป็นเรื่องความมั่นคง เป็นเรื่องของรัฐบาลด้วย แต่ตนนำข้อมูลนี้ไปเพื่อคุยเพื่อยืนยันรับรองถึงความปลอดภัยนี้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลรับทราบ และต้องการทำให้ปลอดภัยที่สุดไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุ หรือข้อขัดข้องแม้กระทั่งตอนเดินทาง หรือทำอะไรที่ไม่เคารพสิทธิของเขา เช่น กระทำรุนแรง หรือจี้ให้ไปนั้นไม่มี ไปด้วยความสงบเรียบร้อย อย่างที่เห็นภาพตั้งแต่ตอนลงเครื่องบิน ก็เห็นแล้วว่ากลับสู่ครอบครัวเขาจริงๆ เราลองคิดดูสมมติถ้าเกิดขึ้นในประเทศของเรา ภาพออกไปทั่วโลกแบบนี้ เราจะพลิกคำที่สัญญากับประเทศเพื่อนบ้านมันก็จะผิด ไม่ใช่ผิดแค่กับประเทศเพื่อนบ้าน มันก็จะผิดทั่วโลกก็มองเห็น ตนถึงมีความมั่นใจว่าเมื่อกลับไปแล้วทางการจีนจะดูแลคนกลุ่มนี้อย่างดี อย่างไรก็ตาม รายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ก็ได้ชี้แจงไปแล้ว ก็ขอให้ทางนั้นรายงานกระบวนการขั้นตอน เพราะเป็นผู้ที่ติดต่อโดยตรงกับฝ่ายความมั่นคงของจีน
นายกฯ กล่าวว่า ตามที่ได้คุยกับทางการจีน รัฐมนตรีของไทยสามารถเดินทางไปได้เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ด้วยตัวเองได้เลย แต่เรื่องสื่อไทยจะไปได้หรือไม่นั้นตนไม่ทราบจริงๆ
“ตอนที่คุย เขาพูดกับดิฉันเองเลยว่า จะให้ทุกคน Back to the society คือ กลับเข้าไปสู่สังคมแบบเป็นปกติ แล้วที่คุยกันมาไม่ได้มีการที่จะ คือ เขาไม่ได้เป็นอาชญากร เขาเข้าเมืองผิดกฎหมายแล้วถูกกักมาแล้ว 10 กว่าปีมันนานมากแล้ว ถูกกัก 10 กว่าปีมันต้องเป็นการก่ออาชญากรรมที่ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งอันนี้มันไม่ได้เป็น เขาก็กลับไป ทางจีนก็พูดเองว่าจะไม่มีการทำอะไรอย่างนี้เพิ่มเติม ก็ให้ไปกลับสู่สังคมสู่ครอบครัว ก็ให้ครอบครัวมารับเลย ดิฉันที่ได้เห็นจากรูปก็ไม่เห็นกุญแจมือ เป็นการสมัครใจ ไม่เช่นนั้นต้องลาก มันไม่มีการลาก เดินขึ้นปกติไม่มีอะไรทั้งนั้น” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า การตัดสินใจครั้งนี้ จะกระทบความสัมพันธ์กับประเทศมุสลิมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วต้องอาศัยเวลาในการอธิบาย และต้องดูด้วยว่ามันเกิดแบบนี้เขากลับไปแล้วปลอดภัยจริงหรือไม่ ถ้าเขาปลอดภัยแบบนี้ก็น่าจะเป็นเครื่องหมายในการอธิบายได้แล้วว่าเราได้มีการทำงานกันหลังบ้านว่าถ้ามันไม่ชัวร์เราไม่ทำอยู่แล้ว ลองคิดสภาพตนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนี้เมื่อส่งกลับไปแล้วเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ตนก็คงรับไม่ได้เช่นกัน เราเข้าใจทุกคนเช่นกัน เพราะฉะนั้นต้องชัวร์ ชัวร์แล้วชัวร์อีก ไม่เช่นนั้นก็คงไม่กล้าส่งกลับ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์