'อุยกูร์ เอฟเฟ็กต์' ไทยยกระดับ สแกนประเทศ-ล็อกเป้าหมาย

'อุยกูร์ เอฟเฟ็กต์' ไทยยกระดับ  สแกนประเทศ-ล็อกเป้าหมาย

อัปเดตคดี "อาเด็ม-ยูซุฟู" ผู้ต้องหาวางระเบิด ศาลพระพรหมเอราวัณ ชาวอุยกูร์ ในเรือนจำความมั่นคง เดือน มี.ค.นี้มีนัดสืบพยานโจทก์กว่า100ปาก

KEY

POINTS

  • หน่วยงานความมั่นคง เฝ้าระวังสถานที่สำคัญ ระบบคมนาคมขนส่ง สนามบิน สถานที่เชิงสัญลักษณ์ แหล่งท่อง

ใกล้จะครบ 10 ปี เหตุ ระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ (17 ส.ค.58 ) และ ท่าเรือสาธร (18 ส.ค.58) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 20 คน บาดเจ็บ 130 คน หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นการตอบโต้รัฐบาลไทยที่ส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ให้จีน 

ขณะนั้นตำรวจออกหมายจับผู้ต้อหาทั้งหมด 17 คน แต่จับกุมได้เพียง 3 คน ประกอบด้วย นายบิลาล โมฮำเหม็ด หรือ อาเด็ม นายคาราดัก  เมียไรลี ยูซุฟู  และ น.ส.วรรณา สวนสัน 

ปัจจุบัน "อาเด็ม-ยูซุฟู" ถูกควบคุมตัวที่เรือนจำชั่วคราวแขวงทุ่งสองห้อง ซึ่งอยู่ภายในกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน ร.มทบ.11) ถ.แจ้งวัฒนะ 
เรือนจำที่ตั้งขึ้นใหม่ สังกัดเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ใช้เป็นที่ควบคุมผู้ต้องขังคดีความมั่นคง

ส่วน น.ส.วรรณาได้รับการประกันตัวอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ขณะนี้อาศัยอยู่ที่บ้านพักใน จ.พังงา

นายชูชาติ กันภัย ทนายความผู้ต้องหา เปิดเผยว่า คดีอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ยังไม่เสร็จสิ้น และในเดือนมีนาคมนี้มีนัดสืบพยานกว่า100ปาก สำหรับความเป็นอยู่ของ อาเด็มกับยูซุฟูยังปกติที่ผ่านมายอมรับว่าได้รับการประสานให้ติดต่อญาติ แต่ติดต่อไม่ได้ หลังญาติลี้ภัยไปอยู่ประเทศตุรกี

"ผมยังไม่พบข้อมูลมีบุคคลภายนอกไปเยี่ยมผู้ต้องหาทั้ง2คน มีเพียง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ไปตรวจสอบดูแลความเป็นอยู่ เช่น ช่วงเดือนรอมฎอนจะซื้ออาหารฮาลาลไปฝาก ที่ทราบก็มีเพียงเท่านี้ เพราะผมไม่ได้ไปเยี่ยมมาประมาณครึ่งเดือนแล้ว และยืนยันว่าคดีนี้กว่าจะเสร็จขั้นตอนสืบพยานน่าจะใช้เวลาอีกเป็นปี" ทนายชูชาติ ระบุ

แม้ทนายชูชาติ จะไม่ยืนยันว่าการไปเยี่ยมผู้ต้องหาทั้งสองรายของพ.ต.อ.ทวี ไปในฐานะ รมว.ยุติธรรม หรือ พรรคประชาชาติซึ่งเป็นสัญลักษณ์คนมุสลิม และมีการพูดคุยประเด็นอื่นใดหรือไม่

เพราะเหตุการณ์เมื่อ10ปีที่แล้ว ยังเหลือผู้ต้องหา 15 คน ที่ทางการไทยยังจับกุมตัวไม่ได้ และยังไม่ได้รับการยืนยันว่าทั้งหมดอยู่ภายในประเทศไทยหรือหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ท่ามกลางข้อกังวลประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หลังรัฐบาล "แพทองธาร ชินวัตร" ตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์ให้จีนในช่วงกลางดึกวันที่26 ก.พ.ที่ผ่านมา แม้จะนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายมายืนยันว่าชาวอุยกูร์อยู่ในความดูแลของจีนปลอดภัยดีทุกคน

ทว่า นานาประเทศ ออกมาประณามการกระทำของรัฐบาลไทย พร้อมแจ้งเตือนพลเรือนของตัวเอง ให้ระวังการก่อการร้ายที่ในประเทศไทย

นายปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ  กล่าวว่า มีประเด็นต้องคำนึงคือความปลอดภัยคนในประเทศไทย ต้องพิจารณาให้ดี เพราะรอบที่แล้วเกิดปัญหา กลายเป็นคดีก็ยังไม่ชัดเจน ตอนนี้ยังจับกุมไม่ได้อีก10กว่าคนต้องไปตรวจสอบว่ามีใครบ้าง เครือข่าย เฝ้าระวังของเขา ก็กำลังเฝ้าดูอยู่ และทราบข่าวล่วงหน้าจะมีการส่งชาวอุยกูร์ มีการถ่ายรูป ซึ่งคนในเครือข่ายนี้ ถูกขึ้นบัญชีเฝ้าระวังอยู่แล้ว 

นอกจากนี้ต้องดูปฏิกิริยา ของสองกลุ่ม คือชาติตะวันตก ที่ชัดเจนแล้วว่าออกมาประณามไทย ส่วนผลกระทบของประเทศกลุ่มมุสลิม ยอมรับว่าประเมินยาก เพราะเราไม่มีผู้เชี่ยวชาญ เขาอาจจะไม่พูดโดยตรง แต่ขบวนการสุดโต่ง อาจมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น จะทำให้ประเทศไทยโดนต่อต้าน จากประเทศมุสลิม หรือโลกอาหรับ มากขึ้นหรือไม่

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ไทยประกาศว่าได้ดูแลผู้ลี้ภัย แต่ส่งไปประเทศที่ 3 ทำไม่ได้เพราะเหตุใด ก็ต้องชี้แจงให้ชัดเจน หากประเทศที่ 3 ไม่รับ เพราะสาเหตุใด ไม่รับทั้งครอบครัว หรือไม่รับเฉพาะตัวบุคคล และรัฐบาลจีนได้ปรับเปลี่ยนนโยบายที่เคยแข็งกร้าวกับชาวอุยกูร์แล้วหรือไม่

" แน่นอนว่า คนไทยพอใจในระดับหนึ่งเพราะไม่ต้องรับภาระ แต่หาก ชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับไปจีน ไม่ปลอดภัย เราก็จะยุ่งมาก ก็ต้องกำชับ ทีมความมั่นคงของเรา อีกทั้งการตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์กลับจีน คงมีการประเมินและวิเคราะห์แล้ว  น่าจะรู้ ตื้นลึกหนาบางดี อะไรปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย แต่ต้องไม่กลัวเกินกว่าเหตุว่าจะมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นอีก แต่ก็ไม่ควรประมาท ยอมรับว่าเป็นเรื่องน่ากังวล"นายปณิธาน กล่าว

สอดคล้องกับความเคลื่อนไหวหน่วยงานความมั่นคง ภายใต้บูรณาการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ยกระดับการดูแลรักษาความปลอดภัย อาทิ
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม หน่วยข่าวกรองเหล่าทัพ ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

โดยเน้นข้อมูลงานด้านการข่าว 
แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับต่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับก่อการร้าย เกาะติดความเคลื่อนไหวทุกกลุ่ม ที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชี

ปูพรหม สแกนพื้นที่ เฝ้าระวังสถานที่สำคัญ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ สถานทูต สถานที่ท่องเที่ยว สนามบิน ขนส่ง สาธารณูปโภค รถไฟฟ้า รถใต้ดิน รวมถึงชุมชนมุสลิมใน กทม. ปริมณฑล และจังหวัดชายแดนภาคใต้

แม้หน่วยงานความมั่นคงมั่นใจว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย เพราะเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีก่อนกับปัจจุบันแตกต่างกัน

เหตุเพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นเครื่องมือ ในการแกะรอย ติดตามกลุ่มเป้าหมาย จึงเชื่อว่าการก่อเหตุ ไม่สามารถทำได้โดยง่ายดาย ครอบคลุมถึงการก่อเหตุคนเดียว ที่เรียกว่า โลนวูล์ฟ

เข้าสู่วันที่3  Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ทยอยอัปเดตชีวิตชาวอุยกูร์ 40 คน ถูกส่งตัวกลับประเทศจีน โดยระบุว่า “ผู้ถูกส่งกลับจีนล้วนได้กลับบ้านของตนแล้ว"

แต่ภาพถ่ายชาวอุยกูร์ นั่งล้อมวงร่วมกับคนในครอบครัว มีอาหารเต็มโต๊ะ พร้อมรอยยิ้ม ไม่ได้บรรเทาสถานการณ์ตึงเครียดภายในประเทศไทยได้แม้แต่น้อย