ปชน.โหนออสการ์ โชว์ร่าง กม.ภาพยนตร์ ถูกดอง จี้นายกฯเซ็นให้กี่โมง

ปชน.โหนกระแสรางวัล 'ออสการ์' โชว์สาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ 'พรรคส้ม' เผยยื่นไปตั้งแต่ยุค 'ก้าวไกล' ถูกดอง 1 ปียังไม่บรรจุเข้าสภา จี้นายกฯเซ็นให้กี่โมง
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2568 พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พรรคประชาชน - People's Party ระบุถึงร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ ของพรรคที่เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกล แต่ผ่านมา 1 ปี ยังไม่ได้รับการบรรจุเข้าสภาฯ ว่า หนังไทยไปออสการ์ไม่ใช่ความฝัน เริ่มต้นด้วยการปลดล็อกโซ่ตรวนทางกฎหมาย ผ่านไปแล้วสำหรับงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ที่หลายคนถือเป็นจุดสูงสุดของคนในโลกภาพยนตร์ ที่วัดฝีมือและความสามารถของทั้งผู้กำกับ นักแสดง และทีมงาน
แม้จะดูเป็นเรื่องที่ห่างไกลเหลือเกินสำหรับวงการภาพยนตร์ไทยราวกับความฝัน แต่เราเชื่อมั่นมาเสมอว่าวงการภาพยนตร์ไทยเต็มไปด้วยคนมีฝีมือและความสร้างสรรค์ที่พร้อมนำภาพยนตร์ไทยไปสู่จุดนั้นได้ ขอเพียงโครงสร้างพื้นฐานด้านวัฒนธรรมของประเทศไทยถูกยกระดับ ทลายอุปสรรค และได้รับการปลดล็อกออกจากกฎระเบียบและความเคยชินที่เป็นมา
นี่จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้พรรคประชาชน นับตั้งแต่สมัยยังเป็นพรรคก้าวไกล เสนอหนึ่งในร่างกฎหมายสำคัญนั่นก็คือร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ เพื่อแทนที่กฎหมายเก่าอย่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ 2551 ไปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เนื่องด้วยร่างดังกล่าวถูกตีความเป็นกฎหมายว่าด้วยการเงิน ทำให้ยังไม่ได้รับการบรรจุเข้าสู่วาระของสภา และรอเพียงลายเซ็นของนายกรัฐมนตรีเพียงเท่านั้น ซึ่งผ่านมา 1 ปีเต็มจนถึงวันนี้ นายกฯ ยังไม่เซ็นให้เข้าสภาฯ เสียที
พรรคประชาชน ระบุว่า กฎหมายที่ล้าหลัง : หนึ่งในโซ่ตรวนล่ามวงการภาพยนตร์ไทย วงการหนังไทยยังไม่สามารถไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ได้เป็นเพราะข้อจำกัดหลายๆ ด้าน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหตุผลสำคัญมาจากกฎหมายและโครงสร้างรัฐ ที่ครอบทั้งวงการวัฒนธรรมไทยเอาไว้ให้อยู่ในกะลา หนึ่งในนั้นก็คือ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ 2551 ที่เต็มไปด้วยปัญหา ไม่ว่าจะเป็น
- นิยาม “วีดิทัศน์” ที่ครอบคลุมไปถึงเกมและคาราโอเกะ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์
- คนทำงานสร้างสรรค์ไร้อำนาจในโครงสร้างที่มีหน้าที่กำหนดนโยบายเกี่ยวกับภาพยนตร์โดยตรง
- คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดีทัศน์แห่งชาติไม่มีพื้นที่ของตัวแทนประชาชน มีแต่ข้าราชการระดับสูง
- รัฐยังมีอำนาจในการสั่งแบนภาพยนตร์ สั่งยุติกองถ่าย ลิดรอนเสรีภาพในการทำภาพยนตร์
- การเปิดโรงภาพยนตร์เป็นไปได้ยาก ต้องขอใบอนุญาตถึง 2 ชั้น - ต้องได้ใบอนุญาตโรงมหรสพก่อน แล้วถึงมาขอใบอนุญาตโรงภาพยนตร์อีกรอบ
งานสร้างสรรค์คืองานที่ต้องอาศัยเสรีภาพเป็นหัวใจหลักในการผลิต แต่เมื่อกฎหมายของไทยปัจจุบันเต็มไปด้วยข้อจำกัดที่กีดขวางการใช้เสรีภาพ ให้อำนาจคนแค่ไม่กี่หยิบมือเป็นผู้กำหนดนโยบายและมีอำนาจในการสั่งแบนสั่งห้าม แล้ววันไหนหนังไทยจะไปถึงออสการ์ได้?
สำหรับรายละเอียดร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ ฉบับพรรคประชาชน ถูกร่างขึ้นเพื่อมุ่งทลายข้อจำกัดและอุปสรรคที่ฉุดรั้งวงการภาพยนตร์ไทยให้ไปไม่ถึงไหน และถูกกำหนดชี้นำจากนโยบายของคนบนหอคอยงาช้าง เช่น
- ยกเลิกกฎหมายส่วนที่เกี่ยวข้องกับเกมและวีดิทัศน์ทั้งหมด ที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับภาพยนตร์
- เปิดพื้นที่ให้คนทำงานสร้างสรรค์เข้ามามีอำนาจและปากเสียงในคณะกรรมการภาพยนตร์แห่งชาติ ลดพื้นที่ฝ่ายรัฐและราชการ
- จากกฎหมายเดิมที่มี 16 คนจากฝ่ายรัฐและราชการ กับ 11 คนที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากการแต่งตั้ง
- เปลี่ยนเป็น 4 คนจากฝ่ายรัฐและราชการตามตำแหน่ง กับ 15 คนที่ได้รับแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนผู้สร้างภาพยนตร์ ผู้ประกอบกิจการภาพยนตร์ องค์กรคุ้มครองผู้บริโภค และแรงงานสร้างสรรค์
- ปรับเกณฑ์อายุการจัดเรตติ้งใหม่ และยกเลิกอำนาจในการสั่งแก้ไข ตัดทอน หรือห้ามฉายภาพยนตร์โดยกองเซ็นเซอร์
- โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กไม่ต้องขอใบอนุญาต ใช้เป็นการจดแจ้งแทน
พรรคประชาชน ระบุด้วยว่า ยื่นไปปีกว่าแล้ว จะต้องผ่านอีกกี่ออสการ์นายกฯ ถึงจะเซ็นให้? โดยร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ถูกยื่นไปตั้งแต่สมัยเป็นพรรคก้าวไกล จนวันนี้เป็นพรรคประชาชน ผ่านไปหนึ่งปีเต็มกว่าแล้วขั้นตอนยังอยู่ในการพิจารณาของนายกรัฐมนตรีอยู่เลย ใช่แล้ว! นายกรัฐมนตรีคนที่เคยพูดถึง “ซอฟต์พาวเวอร์” แทบจะตลอดเวลาคนเดียวกันคนนั้นนั่นล่ะ!
หากเป็นตัวจริงเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ นายกฯ ย่อมต้องรู้ดีว่าเสียงสะท้อนของคนในวงการภาพยนตร์และความทนทุกข์ที่พวกเขาได้รับมาตลอดเวลาหลายปีนานข้ามทศวรรษคืออะไร และย่อมต้องรู้ดีว่าหนึ่งในสิ่งที่ต้องถูกปลดล็อกก็คือเรื่องของกฎหมายที่ล้าหลังและกำลังบั่นทอนวงการภาพยนตร์ไทยอยู่ในปัจจุบัน
"คำถามคือจะต้องผ่านไปอีกกี่ออสการ์ นายกฯ ถึงจะยอมเซ็นให้ พ.ร.บ.ภาพยนตร์ผ่านเข้าสู่การบรรจุวาระในสภาผู้แทนราษฎร? ถ้านายกฯ ยังไม่มีคำตอบแม้แต่ว่าจะเซ็นให้ตอนกี่โมง ก็อย่าหวังว่าจะมีคำตอบว่าหนังไทยจะได้ไปออสการ์ตอนไหน" พรรคประชาชน ระบุ