เจาะไทม์ไลน์ 2 ‘ตัวละครลับ’ พันปม สปส. ลงทุนซื้อตึก 7 พันล้าน

ดังนั้น 2 ตัวละครสำคัญในเรื่องนี้ และเข้าไปอยู่ใน อนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด สปส. คือ “นาย ธ.” และ “นายรู”
KEY
POINTS
- ขมวดไทม์ไลน์ ไล่ที่มา สปส.ควัก 7 พันล้านบาท
เงื่อนปมกองทุนประสังคม ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) นำงบประมาณราว 1 หมื่นล้านบาท จัดตั้ง “กองทุนทรัสต์” เพื่อลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด โดยใช้เงินเฉียด 7 พันล้านบาท นำไปซื้อ “บริษัท” ที่มีหนี้สินราว 2 พันล้านบาท เพื่อได้มาซึ่งอาคาร Skyy9 บริเวณพระราม 9 ถนนอโศก-ดินแดง โดยมีข้อครหาว่า การลงทุนซื้ออาคารแห่งนี้ ส่อเอื้อประโยชน์ให้ใครหรือไม่
โดย 2 สส.พรรคประชาชน (ปชน.) นำโดย รักชนก ศรีนอก สส.กทม. และสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี เปิดโปงว่า ขั้นตอนที่ “กองทุนทรัสต์” ของกองทุนประกันสังคมไปซื้อ “บริษัท” แห่งนี้เมื่อปี 2565 นั้น มี “บิ๊กเนมการเมือง” โยกย้าย “เด็กหน้าห้อง” ของ “อดีตรัฐมนตรี” เพื่อนั่งในอนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด สปส. ก่อนที่ไม่นานอนุกรรมการฯ ชุดนี้จะเคาะเงินลงทุนซื้อ “บริษัท” ดังกล่าว
"สหัสวัต" เคยแถลงข่าวตอนหนึ่งว่า เรื่องนี้มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองในการเข้าซื้อสินทรัพย์ต่าง ๆ หรือไม่ โดยเรื่องน่าสนใจอยู่ที่ว่า รมว.แรงงาน ขณะนั้น มีการแต่งตั้งโยกย้าย “เด็กหน้าห้อง” ตัวเอง มาอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า กลุ่มงานบริหารความเสี่ยงและกำกับการลงทุน เพื่อทำแผนรายปีในการตัดสินใจว่าจะซื้ออะไร
เท่านั้นไม่พอ จะต้องตั้งอนุกรรมการชุดหนึ่ง ถูกเรียกว่า “อนุฯการลงทุนนอกตลาด” คนหน้าห้องคนเดิมก็เข้าไปอยู่ในอนุฯชุดนั้นด้วย
ยังไม่พอ ในชุดนั้นมีที่ปรึกษา รมว.แรงงาน เข้ามาอยู่ในอนุกรรมการฯ ด้วย สมมติว่าชื่อ “นายพี” (ซึ่งต่อมาใช้ชื่อย่อว่า นาย ธ.) และมีอดีตเด็กหน้าห้องชื่อสมมติ “นายรู” เข้ามาอยู่ อนุกรรมการการลงทุน ที่เป็นคนชี้ ตัดสินใจให้เกิดการซื้ออสังหาริมทรัพย์ตึกใดตึกหนึ่งเกิดขึ้น
เบื้องต้น “สุชาติ ชมกลิ่น” อดีต รมว.แรงงาน (ปัจจุบันเป็น รมช.พาณิชย์) แถลงต่อสื่อ และให้สัมภาษณ์ผ่านหลายรายการ ยืนยันข้อเท็จจริงตรงกันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในดีลการซื้ออาคาร Skyy9 และไม่เคยส่ง “หน้าห้อง” ไปเป็นหนึ่งในอนุกรรมการที่ปรึกษาสินทรัพย์นอกตลาด ซึ่งมีส่วนตัดสินใจในการลงทุนต่าง ๆ แต่อย่างใด
ดังนั้น 2 ตัวละครสำคัญในเรื่องนี้ และเข้าไปอยู่ใน อนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด สปส. คือ “นาย ธ.” และ “นายรู”
โดย “นาย ธ.” นั้น กรุงเทพธุรกิจ สืบค้นจนพบแล้วว่าคือ “ธีระวิทย์ วงศ์เพชร” อดีตคณะทำงานที่ปรึกษา รมว.แรงงาน (สุชาติ ชมกลิ่น) ปัจจุบันยังคงเป็นคณะทำงานที่ปรึกษา รมว.แรงงาน (พิพัฒน์ รัชกิจประการ) โดยเขายืนยันว่า ถูกเสนอจากบอร์ดใหญ่ประกันสังคมให้เข้าไปนั่งเป็นอนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาดจริง แต่ไม่มีอำนาจหรือบทบาทในการตัดสินใจ เพียงแค่เข้าไปร่วมประชุม เพื่อรับฟัง และรับทราบการลงทุนเท่านั้น
คำถามต่อมาคือ “นายรู” เป็นใคร? กรุงเทพธุรกิจ ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า “นายรู” คือ “ธีระพันธุ์ พืชผล” ที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศสิงคโปร์
โดย “ธีรพันธุ์” เคยมีตำแหน่งเป็นนักวิชาการแรงงานชำนาญการ กองบริหารการลงทุน สปส. โดยเข้าไปเป็นอนุกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการในอนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด
เมื่อ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังสำนักงานแรงงานในสิงคโปร์ เพื่อต้องการสอบถามข้อเท็จจริง “ธีระพันธุ์ พืชผล” ตามเบอร์ติดต่อ 65 6224 9940 และ 65 6224 1797 แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ดังนั้น คงต้องรอเขาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ “ธีระวิทย์ วงศ์เพชร” และ “ธีระพันธุ์ พืชผล” ยังมิได้ถูกสอบสวน หรือถูกกล่าวหาในเรื่องเกี่ยวกับปัญหากองทุน สปส.ไปซื้อบริษัทเอกชน 7 พันล้านบาท ที่มีสินทรัพย์เป็นอาคาร Skyy9 แต่อย่างใด ทั้งคู่จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
สำหรับไทม์ไลน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ พบว่า อาคารดังกล่าวถูกสร้างช่วงปี 2540 กระทั่งเจอ “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ทำให้การก่อสร้างอาคารไม่แล้วเสร็จ ถูกทิ้งร้าง และปล่อยให้เป็นหนี้เสียหรือ NPL ต่อมามีการซื้อขายเปลี่ยนมือกัน จนไปอยู่ในมือของ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด มหาชน (BAM) หลังจากนั้นมี “กลุ่มทุนห้างสรรพสินค้าชื่อดัง” ไปซื้อต่อมาด้วยวงเงินราว 1,000 ล้านบาท และมีการนำมารีโนเวท เป็นตึก I.C.E. Tower
หลังจากนั้น เมื่อปี 2563 มีการขายต่อให้กับบริษัท แคส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จำกัด ซื้อมารีโนเวท ภายใต้ชื่อใหม่ Cas Centre โดยทำการรื้อหรือทุบบางส่วนออก และทำใหม่ โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จมีมูลค่าของตึกราว 2.2 พันล้านบาท และค่าที่ดินราว 1.5 พันล้านบาท รวมมูลค่าราว 3.7 พันล้านบาท ณ ช่วงเวลานั้น
ต่อมาเมื่อ Cas Centre รีโนเวทแล้วเสร็จ มีการขายต่อให้กับ “บริษัท” กลุ่มหนึ่งในปี 2565 หลังจากนั้นไม่นาน กองทุนประกันสังคม โดยอนุกรรมการที่ปรึกษาการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด ได้ตั้ง “กองทุนทรัสต์” ขึ้นมาโดยนำเงิน 7 พันล้านบาท นำไปซื้อ “บริษัท” แห่งนี้
โดยกรุงเทพธุรกิจตรวจสอบพบว่าคือ บริษัท ไพร์ม ไนน์ เรียลเอสเตท จำกัด หรือเดิมชื่อบริษัท เอจีอาร์อี101 จำกัด โดยบริษัทแห่งนี้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2560 ทุนปัจจุบัน 3,250,000,000 บาท ตั้งอยู่ที่ 554 ถนนอโศก-ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร (ที่ตั้งเดียวกับอาคาร Skyy9) วัตถุประสงค์ การให้เช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย
ปรากฏชื่อกรรมการ 4 ราย นายรชต ตราชูวณิช นางสาวณัฐรี พนัสสุทรากร นางสาวภัคชาภา วงศ์เกษมสกุล นายกุลวิชญ์ นุ้ยเพชร ปรากฏรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 29 เม.ย. 2567 บริษัท ไพร์ม เซเว่น จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 324,999,998 หุ้น มูลค่า 3,249,999,980 บาท คิดเป็นสัดส่วน 100% ส่วนนายรชต ตราชูวณิช และ น.ส.ณัฐรี พนัสสุทรากร ถือคนละ 1 หุ้น
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 สินทรัพย์รวม 3,667,320,534 บาท หนี้สินรวม 1,861,907,276 บาท ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 2,304,094 บาท มีรายได้รวม 12,916,993 บาท รายจ่ายรวม 237,854,613 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 53,679,094 บาท ขาดทุนสุทธิ 278,616,714 บาท
ขณะที่ บริษัท ไพร์ม เซเว่น จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดใน “ไพร์ม ไนน์ เรียลเอสเตท” นั้น จดทะเบียนเมื่อ 22 ก.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 5 พันล้านบาท ตั้งอยู่ที่อาคาร Skyy9 วัตถุประสงค์ กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก ปรากฏชื่อกรรมการ 3 ราย นางสาวณัฐรี พนัสสุทรากร นายรชต ตราชูวณิช นางสาวภัคชาภา วงศ์เกษมสกุล
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 29 เม.ย. 2567 มีกองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนไพร์ม แอสเซท โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะทรัสตี (ของกองทุนประกันสังคม) ถือหุ้นใหญ่สุด 499,999,998 หุ้น มูลค่า 4,999,999,980 บาท คิดเป็นสัดส่วน 100% มีนายรชต ตราชูวณิช และ น.ส.ณัฐรี พนัสสุทรากร ถือคนละ 1 หุ้น
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 6,995,398,724 บาท หนี้สินรวม 2,000,872,826 บาท ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 27,181 บาท รายได้รวม 53,838,425 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 49,747,361 บาท รายจ่ายรวม 3,133,818 บาท เสียภาษีเงินได้ 150,437 บาท กำไรสุทธิ 806,809 บาท
ข้อสังเกตที่น่าสนใจ 1.กองทรัสต์ของ “กองทุนประกันสังคม” ดังกล่าวที่เข้าซื้อหุ้นในบริษัท ไพรม์ เซเว่น จำกัด ในฐานะ “โฮลดิ้ง” ของบริษัท ไพร์ม ไนน์ เรียลเอสเตท จำกัด นั้น แจ้งมีสินทรัพย์ รวม 6,995,398,724 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับงบอนุกรรมการที่ปรึกษาลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด นำไปลงทุนกับตึก Skyy9
2.บริษัท ไพรม์ เซเว่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท “โฮลดิ้ง” พบว่า มีหนี้สินคาไว้ 2,000,872,826 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับข้อมูลที่มีการเปิดเผยมาก่อนหน้านี้ว่า กองทุนประกันสังคมใช้งบไปซื้อบริษัทเพื่อลงทุนซื้อตึก Skyy9 ทั้งที่บริษัทดังกล่าวมีหนี้ราว 2 พันล้านบาท
แหล่งข่าวจาก สปส.ชี้แจงว่า ไม่ทราบว่าราคาประเมิน 3 พันล้านบาทนั้น เป็นข้อมูลมาจากไหน ในปี 2565 มีการยืนยันว่า ตัวเลข 4 พันล้านบาทนั้น เป็นมูลค่าทางบัญชีของบริษัทที่เป็นเจ้าของตึกอยู่ ซึ่งมีมูลค่าหนี้ที่ใช้ในการก่อสร้างด้วย
“เหมือนเราซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาท ดาวน์ 1 ล้าน กู้ 1 ล้าน มีคนมาขอซื้อต่อก็ต้องขาย 2 ล้าน ไม่ใช่ 1 ล้านตามเงินดาวน์ หลักการคล้ายกัน แต่ในทางการลงทุนจะใช้วิธีการประเมินแบบ Income Cost Approach ตามที่ผู้ประเมินอิสระ มีเล่มประเมินมา”
โดยต้นทุนในการก่อสร้างจริง วัสดุก่อสร้างและคุณภาพของอาคารที่ปัจจุบันได้รับมาตรฐาน Leed gold ตึกกรองฝุ่น Pm 2.5 ทั้งอาคาร มีการพิจารณาราคาใช้ราคาประเมิน โดยผู้ประเมินที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระประกอบการพิจารณา ซึ่งไม่มีหน้าห้องรัฐมนตรีโอนย้ายไปอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว
การลงทุน รัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ เป็นเรื่องของบอร์ดและเลขาธิการประกันสังคมต้องทำตามขั้นตอน ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออาคารในราคา 7 พันล้านบาทนั้น ต้องมีผู้ประเมินอิสระที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. 2 ราย ควบคู่กับความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ และหลังจากการซื้อแล้วต้องมีการประเมินจากผู้ประเมินอิสระทุกปี ล่าสุดเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 มีการประเมินอาคารตึกนี้ ในราคา 7,200 ล้านบาท
ปัจจุบันเรื่องนี้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงมหาดไทย ที่มีปลัดมหาดไทยเป็นประธาน ได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว