ฝ่ายค้าน ขอ30 ชม.แลกถอยญัตติซักฟอกรัฐบาล 'ณัฐพงษ์​' ลั่นไม่มีมวยล้ม

ฝ่ายค้าน ขอ30 ชม.แลกถอยญัตติซักฟอกรัฐบาล 'ณัฐพงษ์​' ลั่นไม่มีมวยล้ม

"วันนอร์" เรียกถก​"ฝ่ายค้าน​-ฝ่ายกฎหมาย​ถกญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ​ เชื่อเริ่ม อภิปรายได้ 24​มี.ค. ด้าน'ณัฐพงษ์​' เผย ฝ่ายค้าน ขอ30 ชั่วโมง แลกยอมถอยแก้ญัตติ ลั่นไม่มีมวยล้ม

เวลา 13:00 น. ที่รัฐสภานายวันมูหะมัดนอร์​ มะทา​ ประธานสภาผู้แทนราษฎร​ ร่วมหารือกับฝ่ายค้าน​ นำโดยนายณัฐพงษ์​ เรืองปัญญาวุฒิ​ สส. บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคประชาชน​ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่มาพร้อมด้วย​นายปกรณ์​วุฒิ​ อุดม​พิพัฒน์​สกุล​ สส.บัยชีรายชื่อพรรคประชาชน ฬนฐานะ ประธานวิปฝ่านค้าน และนายรังสิมันต์​ โรม​ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน 

นอกจากนี้ยังมีนายพิเชษฐ์​ เชื้อเมืองพาน​ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1  ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์​ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร​ และฝ่ายกฎหมาย​ของสภาผู้แทนราษฎร​ ร่วมหารือ​เกี่ยวกับ ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ​ 

โดยประธานสภาฯกล่าวว่า​ จะร่วมหารือเพื่อ ให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเชื่อว่า ทุกอย่างจะได้ข้อสรุปภายในวันนี้และสามารถเริ่มอภิปรายได้ในวันที่ 24มี.ค.

ฝ่ายค้าน ขอ30 ชม.แลกถอยญัตติซักฟอกรัฐบาล \'ณัฐพงษ์​\' ลั่นไม่มีมวยล้ม

จากนั้นนายนายณัฐพงษ์​ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือว่าที่ประชุมได้ข้อสรุปยืนยันว่ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เชื่อว่าเป็นความก้าวหน้าที่ดีในการเจรจาพูดคุยส่วนกรอบในการปรับญัตติมีการปรับคำตามที่มีการหารือในห้องประชุมสภาตามที่ประธานจะบรรจุญัตติ

ส่วนรายละเอียดว่าจะปรับคำเป็นอย่างไรคงต้องมีการเจรจาพูดคุยในเรื่องของกรอบระยะเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคงต้องรอการประชุมวิป3ฝ่ายภายในวันนี้ประมาณ 16.00 น.

แต่สิ่งที่ได้กรอบชัดเจนในการพูดคุยอย่างน้อยระยะเวลาที่ทางฝ่ายค้านควรจะต้องได้รับไม่ควรจะต่ำกว่า 30 ชั่วโมงส่วนจะอภิปรายกี่วันยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องรอฟังคณะรัฐมนตรีและรัฐบาลจะใช้ระยะเวลาในการชี้แจงเท่าไหร่

ฝ่ายค้าน ขอ30 ชม.แลกถอยญัตติซักฟอกรัฐบาล \'ณัฐพงษ์​\' ลั่นไม่มีมวยล้ม

ผู้นำฝ่ายค้าน ย้ำว่า ในการประชุมเราได้มีการพูดคุยว่า ถ้าจะให้เรามีการปรับคำ ทุกคนเห็นตรงกันว่าจะต้องให้เวลาฝ่ายค้านในการทำหน้าที่ในการอภิปรายอย่างเหมาะสมที่สุดซึ่งพวกเรายืนพื้นไว้ว่าเฉพาะเวลาของฝ่ายค้านจะต้องมีเวลาอย่างน้อย 30 ชั่วโมง

ส่วนที่ตนมีการหารือในที่ประชุมหากยอมตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกประธานจะต้องไม่เบรคการอภิปรายมองว่าในที่ประชุมประธานได้พูดไว้อย่างชัดเจนตราบใดที่บรรจุการอภิปรายลงไปได้สมาชิกสามารถอภิปรายได้ทุกอย่างอยู่แล้วหากมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกแล้วเกิดความเสียหายก็เป็นความรับผิดชอบของสมาชิกเองไม่ได้เกี่ยวกับประธานสภาฯเพราะมีหน้าที่แค่ควบคุมความเรียบร้อยในที่ประชุมเท่านั้น

ถามย้ำว่ากรอบเวลา 30 ชั่วโมงในการอภิปรายของฝ่ายค้าน ชัดเจนใช่หรือไม่ว่า ฝั่งรัฐบาลเห็นด้วย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องบอกว่า ท่านประธานสภาฯเห็นด้วยกับพวกเรา ก็เชื่อมั่นว่าเวลาที่ได้รับถ้าฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ดีก็เป็นภาพดีของฝ่ายค้านแต่ถ้าฝ่ายค้านเต็มเนื้อหาไม่ดีก็อาจจะเป็นภาพที่ไม่ดีกับฝ่ายค้านด้วยเช่นกัน

ดังนั้นตนเชื่อว่าความเป็นเป็นผู้ใหญ่ของประธานรัฐสภาทางฝั่งรัฐบาลก็น่าจะยอมรับแต่ตนก็ผู้แทนไม่ได้คงต้องรอ การประชุมเว็บสามฝ่ายในช่วงเย็นวันนี้

ถามย้ำอีกว่า คำว่าปรับคำมีการปรับจากคำว่านายทักษิณเป็นพ่อนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่  นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องรายละเอียดคำยืนยันว่ามีการปรับคำแน่นอนเพื่อให้สามารถบรรจุญัตติได้แต่อย่างที่ได้นำเรียน เรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับการเจรจา กรอบระยะเวลาในการอภิปรายด้วยดังนั้นเลือกว่าจะปรับเป็นคำไหนเดี๋ยวรอการประชุมวิสามฝ่ายช่วงเย็นวันนี้เพื่อให้เว็บได้พูดคุยพร้อมกันซึ่งจะได้คำตอบพร้อมกันในเรื่องของคำและกรอบระยะเวลา

ฝ่ายค้าน ขอ30 ชม.แลกถอยญัตติซักฟอกรัฐบาล \'ณัฐพงษ์​\' ลั่นไม่มีมวยล้ม

อย่างไรก็ดีเรื่องนี้มองว่า การแก้ไขญัตติพรรคประชาชนไม่ได้เสียหลักการอะไรเพราะตามหนังสือที่ประธานสภาได้มีหนังสือถึงตนก็ระบุว่าปรับคำได้โดยที่สาระสำคัญยังคงอยู่ซึ่งประธานสภาก็ได้ยืนยันต่อที่ประชุมแล้วว่าสมาชิกสามารถอภิปรายพาดพิงบุคคลภายนอกได้โดยที่สมาชิกต้องรับผิดชอบเอง

เพราะฉะนั้นเมื่อประธานได้พูดไว้ชัดเป็นบันทึกในที่ประชุมจึงเชื่อว่าคำพูดของประธานสภา ย่อมผูกมัดกับรองประธานสภาทุกคนเป็นหลักการในการทำหน้าที่
ผู้นำฝ่ายค้าน ย้ำว่าในการพูดคุยระบุเพียงแค่การตัดชื่อบุคคลออกโดยที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงสาระในเนื้อหาของญัตติแต่อย่างใด

การอภิปรายในครั้งนี้เราอภิปรายที่ตัวนายกรัฐมนตรีคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แต่ก็หนีไม่พ้นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในทุกครั้งจะมีการพาดพิงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในญัตติได้เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า อภิปรายนายกในแง่ที่ยอมให้นายทักษิณ ชินวัตรชี้นำชักใยอยู่เบื้องหลัง

เพราะฉะนั้นครั้งนี้ไม่ว่าเราจะอภิปรายพาดพิงใครก็ตาม ตามกรอบญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจเราอภิปรายแพทองธาร แต่เพียงผู้เดียว

“ การหารือถือว่าทำให้พวกเรามีความมั่นใจมากขึ้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องรอเพื่อมาใช้เวทีสภาที่มีการถ่ายทอดสดและพูดเป็นบันทึกในที่ประชุมในการหารือกับท่านประธานก่อน เชื่อว่าเวทีแบบนี้เป็นเวทีที่ผูกมัดพวกเราทุกคนเพราะเรามีความรับผิดชอบต่อคำพูดตัวเองไม่ใช่มีอะไรตกลงกันข้างนอกโดยที่ประชาชนไม่รับรู้"