‘วอร์รูมพท.’ จัดทีมข้อมูลป้อง‘นายกฯ’-‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ปมเสี่ยง

‘วอร์รูมพท.’ จัดทีมข้อมูลป้อง‘นายกฯ’-‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ปมเสี่ยง

‘วอร์รูมพท.’เกมรุกสู้ซักฟอก จัดทีมข้อมูลป้อง‘นายกฯ’-‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ปมเสี่ยง วัดพลัง ‘แดง-ส้ม’ ชำแหละแผล เวทีสภา

KEY

POINTS

  • ภายหลัง "พรรคประชาชน" ยอมถอยถอนชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" ออกจากญัตติซักฟอก โอกาสลับฝีปากในสภาฯมี

แม้พรรคประชาชน ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน จะยอมถอย ถอนชื่อ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อเปิดทางให้ศึกซักฟอกเดินหน้าต่อ

ทว่าการประชุมวิป 3 ฝ่าย กลับตกลงระยะเวลาศึกซักฟอกกันไม่ได้ เนื่องจาก “ขั้วฝ่ายค้าน” ขอกรอบอภิปรายเอาไว้ 30 ชั่วโมง แต่ “ขั้วรัฐบาล” กุมความได้เปรียบหลายด้าน เปิดเกมรุกไล่ งัดข้อเพื่อบีบเวลาการอภิปรายเหลือแค่23ชั่วโมง อีก7ชั่วโมงเป็นในส่วนของรัฐบาลที่จะชี้แจง 

อ่านเกมได้ไม่ยากรัฐบาลหวังตัดตอนให้การอภิปรายอยู่ในกรอบแค่2วัน แถมยังเซฟ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ไม่ให้โดนรุมสกรัมมากเกินไปอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเมื่อประเมินท่าทีของ “ขั้วฝ่ายค้าน” ที่ยอมถอยครึ่งทาง “ขั้วรัฐบาล” ที่ยังขอช่วงชิงความได้เปรียบ แต่หลังการต่อรองเสร็จสิ้น โอกาสที่ศึกซักฟอก “นายกฯอิ๊งค์” เพียงคนเดียวมีโอกาสเกิดขึ้นสูง

โดยพรรคเพื่อไทยมี “ทีมวอร์รูม” ที่เคยคอยหาข่าวจากเครือข่าย “ขั้วฝ่ายค้าน” เพื่อเก็งข้อสอบให้ “นายกฯอิ๊งค์” เพราะหากรู้ว่าคู่แข่ง-คู่แค้น มีประเด็นอะไรที่จะอภิปราย จะสามารถเตรียมข้อมูลเอาไว้ชี้แจงได้ทันที

“ทีมวอร์รูม” พรรคเพื่อไทย ไม่ค่อยกังวลกับการโจมตีทางการเมือง เนื่องจาก “นายกฯอิ๊งค์” โดนสื่อมวลชนสอบถามหลายครั้ง และสามารถเอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง

โฟกัสหลักปม “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ระหว่างรับโทษ โดยไม่เข้าเหยียบบริเวณเรือนจำแม้แต่วินาทีเดียว ซึ่งมีแนวโน้มจะชี้แจงว่า ระหว่างที่ “ทักษิณ” เข้ารับโทษตัวของ “นายกฯอิ๊งค์” ยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งนายกฯ และไม่มีตำแหน่งในฝ่ายบริหาร โดยอยู่ในช่วงรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน

ปมครอบงำที่ “ทักษิณ” มักจะออกมาแสดงทัศนะเชิงนโยบายของรัฐบาล ก่อนที่บรรดา “รัฐมนตรี” ในกระทรวงที่พรรคเพื่อไทยรับผิดชอบจะนำไปแอ๊คชั่นตาม ก็สามารถอธิบายเหมือนเดิมได้ว่า “ทักษิณ” เคยมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ เมื่อมีทัศนะออกมาจึงนำมาเป็นแนวทางในการทำงาน ดังเช่นที่“ทักษิณ” เคยพูดถึงบทบาทของตนเองไว้บนเวทีหาเสียงว่า นอกจากจะเป็นพ่อนายกฯแล้วยัง เป็น “สทร.” อีกด้วย 

สำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินนโยบาย อาทิ แจกหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งโดนโจมตีไม่ตรงปกกับที่หาเสียงเอาไว้ การทุจริตในสำนักงานประกันสังคม เป็นต้น มีแนวโน้มสูงที่ “นายกฯอิ๊งค์” จะมอบหมายให้ “รัฐมนตรี” ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตอบคำถามด้วยตัวเอง

ทว่าประเด็นที่ “วอร์รูมเพื่อไทย” ค่อนข้างหนักใจมากเป็นพิเศษ คือการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ เนื่องจาก “นายกฯอิ๊งค์” นั่งอยู่ในคณะกรรมการการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ตั้งแต่ยุครัฐบาลเศรษฐ โดยนั่งเก้ารองกรรมการ ก่อนจะขยับมานั่งประธานกรรมการ และรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของนโยบายซอฟต์พาวเวอร์

โดยมี “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขานุการกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็นคนบริหารจัดการทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง

ว่ากันว่าการวางโครงการต่างๆผ่านการคัดกรองจาก “หมอเลี้ยบ” ซึ่งจะตรวจดูความถูกต้องความคุ้มค่าอย่างละเอียด แต่ติดปัญหาที่โครงการของซอฟต์พาวเวอร์ที่ส่วนใหญ่จะหั่นงบรายจ่ายประจำจากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องนำมาขับเคลื่อน ยังไม่มีกฎหมายมารองรับ

มีกระแสข่าวว่า “ข้าราชการ” ที่ต้องลงนามอนุมัติโครงการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ บางคนใจดีสู้เสือยอมลงนามอนุมัติงบประมาณ แต่มีบางคนไม่กล้าเสี่ยงลงนามอนุมัติโครงการ เนื่องจากเกรงว่าจะมีภัยมาถึงตัวในภายหลัง

บรรดา “ข้าราชการ” รู้ว่าทุกโครงการของหน่วยงานรัฐ ต้องมีเกณฑ์ในการประเมินผลสัมฤทธิ์ที่จะตามมา แต่โครงการซอฟต์พาวเวอร์ยังไม่มีเกณฑ์ประเมินที่ชัดเจน

ส่งผลให้ประเด็นการเบิกจ่ายงบประมาณ “ซอฟต์พาวเวอร์” ค่อนข้างอ่อนไหวมากที่สุด ซึ่งต้องวัดใจว่า “ขั้วฝ่ายค้าน” มีข้อมูลมากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม “ทีมนายกฯอิ๊งค์” มั่นใจว่าการเบิกจ่ายงบประมาณไม่มีข้อผิดพลาดแต่อย่างใด

จากนี้ต้องติดตามว่าการประชันกันระหว่าง “ทีมข้อมูล” ของ “ค่ายสีแดง” และ “ค่ายสีส้ม” ฝั่งไหนจะชำแหละแผล ฝั่งไหนจะอุดช่องโหว่ เพื่อสู้ศึกซักฟอกได้มากกว่า