'เพื่อไทย' สะดุด ‘เกมกดเวลา’ งานยาก ป้อง ‘นาย’ ศึกซักฟอก

'เพื่อไทย' สะดุด ‘เกมกดเวลา’ งานยาก ป้อง ‘นาย’ ศึกซักฟอก

บทจบเวลาอภิปรายซักฟอก "ฝ่ายค้าน" ได้เวลา 28 ชั่วโมง ถือว่ากำชัยเหนือ "พท." ที่พยายามกดเวลาให้แค่ 20 ชั่วโมง ถือเป็นงานยากในสภาฯ ที่ขุนพล "รัฐบาล" จะป้อง "นายใหญ่" จากสงครามน้ำลาย

KEY

POINTS

  • ผลหารือเรื่องกรอบเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ "แพทองธาร" มีข้อสรุปหลังยื้อมา 2 สัปดาห์
  • "ฝ่ายค้าน" คว้าเวลาอภิปรายรวม 28 ชั่วโมง แม้จะไม่ได้เต็ม 30 ชั่วโมง แต่ถือว่า ยกนี้ได้ชัยชนะ
  • หลังจากที่เจอเกมเคี่ยวจาก "พท." ที่เล่นเกมกดเ

ในที่สุด การตกลงเรื่องเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ คนที่ 31 ระหว่าง “ตัวแทนฝ่ายค้าน” และ “ตัวแทนฝ่ายรัฐบาล” ก็ได้ข้อสรุป หลังจากยืดเยื้อมากว่า 2 สัปดาห์

สิ่งที่เป็นข้อสรุปจากห้องหารือ เมื่อ 19 มี.ค.68 ที่ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง จากเพื่อไทย เป็นประธาน คือ ฝ่ายค้านได้เวลาอภิปราย 28 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐมนตรี และสส.พรรคร่วมรัฐบาล 7 ชั่วโมง และประธานของที่ประชุม 2 ชั่วโมง รวมเวลาทั้งสิ้น 37 ชั่วโมง

การอภิปรายจะเริ่มในวันที่ 24 มี.ค.68 เวลา 08.00 น. และพักการประชุมเวลา 05.30 น. ของวันที่ 25 มี.ค.68 รวมเวลาวันแรก 21 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่ายค้านอภิปรายซักฟอก 11 ชั่วโมง เวลาที่ฝ่ายรัฐมนตรีชี้แจง 3 ชั่วโมงครึ่ง และเวลาของประธานสภาฯ 1 ชั่วโมง

โดยเวลาที่กะเกณฑ์ไว้นี้ อาจเป็นครั้งแรกที่การซักฟอก “นายกฯ” คนเดียว ยิงยาวจนถึงเช้า 

\'เพื่อไทย\' สะดุด ‘เกมกดเวลา’ งานยาก ป้อง ‘นาย’ ศึกซักฟอก

และในวันที่ 25 มี.ค.68 เริ่มประชุม 08.00 น. และเลิกประชุม 23.30 น. รวมเวลาที่จะใช้ 15 ชั่วโมงครึ่ง แบ่งเป็น ฝ่ายค้านอภิปรายซักฟอก 11 ชั่วโมง เวลาที่ฝ่ายรัฐมนตรีชี้แจง 3 ชั่วโมงครึ่ง และเวลาของประธานสภาฯ 1 ชั่วโมง กรณีที่มีการประท้วงให้หักเวลาจากฝ่ายของผู้ประท้วง

ส่วนการลงมติ ได้นัดไว้ ในวันที่ 26 มี.ค.68 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

 

แม้จะมีข้อยุติ แต่นอกห้องหารือกลับมีเงื่อนไขที่งอกขึ้นมาเพิ่ม โดยเฉพาะกติกาที่สามารถ “ยืดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจได้” 

“ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงกับสื่อมวลชนว่า “มีเงื่อนไขที่ประชุมตกลงร่วมกันคือ หากมีการประท้วงจนทำให้ฝ่ายค้านใช้เวลาไม่หมด หรืออภิปรายได้ไม่ครบ เพื่อไม่ให้เกิดการอภิปรายนอกสภาฯ ต้องให้สิทธิฝ่ายค้านอภิปรายได้ต่อ แม้จะเกินเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละวัน”

ผลที่ตามมาคือ “อาจทำให้ต้องเลื่อนการลงมติ จากเดิมที่กำหนดในวันที่ 26 มี.ค.68 ไปเป็นวันที่ 27 มี.ค.68” 

ประเด็นสำคัญที่ต้องมีเงื่อนไขนอกห้องหารือ เพื่อไม่ให้ “ฝ่ายค้าน” ถูกประท้วงพร่ำเพรื่อ ขัดจังหวะการอภิปราย ซึ่งเป็นประเด็นที่ฝ่ายค้านรู้ดีว่าจะต้องเกิดขึ้น เนื่องจากในญัตติซักฟอก ระบุเนื้อหาไว้ชัดเจนว่า “นายกฯ ไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ เพียงเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตนเอง ครอบครัว และพวกพ้องเป็นตัวตั้ง อยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม”

\'เพื่อไทย\' สะดุด ‘เกมกดเวลา’ งานยาก ป้อง ‘นาย’ ศึกซักฟอก

“สมัครใจยินยอมให้บุคคลในครอบครัว ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นการกระทำอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบุคคลในครอบครัวเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ”

เท่ากับว่า เป็นการขยายสิทธิการอภิปราย ตามมาตรา 151 ที่กำหนดไว้เฉพาะนายกฯ และรัฐมนตรี ไปยังบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นที่รู้กันคือ คนในตระกูล “ชินวัตร” ที่พรรคเพื่อไทย ไม่มีทางยอมให้พาดพิงถึงได้ง่าย และต้องมีแอ็กชันปกป้อง “นายใหญ่-นายหญิง” ให้ถึงที่สุด

ดังนั้น เกมต่อรองเวลา ที่ “พรรคเพื่อไทย” เสียงแข็ง กดเวลาฝ่ายค้านให้อภิปรายได้น้อยที่สุด คือ 20-23 ชั่วโมง แต่กลับเพลี่ยงพล้ำในตอนสุดท้าย จน “พรรคประชาชน” ต่อรอง ได้เวลาบวกเพิ่มถึง 28 ชั่วโมง 

ผลที่ออกมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า ย่อมกระทบต่อการแก้เกมสภาฯ ที่ “นายกฯ แพทองธาร” ต้องยืนเป็นหนังหน้าไฟแทน “รัฐมนตรี” จากพรรคร่วมรัฐบาล และเผชิญทุกข้อกล่าวหา การโจมตีจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน

\'เพื่อไทย\' สะดุด ‘เกมกดเวลา’ งานยาก ป้อง ‘นาย’ ศึกซักฟอก

ขณะที่เวลาชี้แจง หรือตอบโต้ กลับไม่เป็นไปตามสิ่งที่เตรียมไว้ คือ เดิมจะได้เวลาอย่างน้อย 10 ชั่วโมง เพื่อให้ นายกฯ โชว์ผลงาน และใช้เกมประท้วง เพื่อเบรกฝ่ายค้านไม่ให้พาดพิง “นายใหญ่-นายหญิง” รวมถึง “ผู้ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาล” ได้อย่างสบายปาก แต่กลับถูกหั่นเวลา

ต่อเรื่องนี้ “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธานวิปรัฐบาล ยอมรับว่าเวลาที่รัฐบาลได้สิทธิชี้แจง 7 ชั่วโมงนั้นไม่มากพอ เท่ากับว่าพรรคฝ่ายค้าน ใช้เงื่อนเวลาปิดปากรัฐบาลที่จะสื่อสารผ่านเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ

\'เพื่อไทย\' สะดุด ‘เกมกดเวลา’ งานยาก ป้อง ‘นาย’ ศึกซักฟอก

ทำให้พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องปรับกระบวนเพื่อรับมือ โดยยอมจำกัดการประท้วงของฝ่ายตัวเอง ให้เหลือไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อให้นายกฯ และรัฐมนตรี มีเวลาชี้แจง-โต้ตอบ อีกประมาณ 5 ชั่วโมง

ดังนั้น การจำกัด “สิทธิประท้วง” ให้เหลือเฉพาะในนาทีที่จำเป็น และสำคัญ พรรคเพื่อไทยจึงต้องเฟ้นคนที่เชี่ยวชาญงานสภาฯ ระดับ “ขงเบ้ง” เพื่อคุมเกม โดยวางตัวหลักไว้ คือ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว - ประยุทธ์ ศิริพานิชย์-สุทิน คลังแสง” 

ขณะเดียวกันยังมีวอร์รูมที่ทำหน้าที่มอนิเตอร์การซักฟอก เพื่อส่งประเด็นให้นายกฯ ชี้แจง ซึ่งอาจไม่ลุกขึ้นทันที แต่ต้องหาจังหวะที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ใจคนฟังมากที่สุด

เพียงแค่เปิดเกมเข้าสู่ศึกซักฟอก ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า “เพื่อไทย” เสียรังวัด 100% ดังนั้นประเด็นร้อนโหมโรงที่ฝ่ายค้านพาดหัวไว้ว่า “ดีลแลกประเทศ” ทีมเพื่อไทยต้องแก้เกมให้ได้ คุมเวลาให้อยู่ อย่างน้อยต้องไม่ทำให้ “นายน้อย-ตระกูลชินวัตร”บอบช้ำคาสภาฯ.

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์