‘ศึกใน-ศึกนอก’ประชิด 'นายกฯ' โจทย์ใหญ่ ความ(ไม่)มั่นคง

“ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯและรมว.กลาโหม สั่งทุกเหล่าทัพเตรียมข้อมูลสนับสนุนประเด็นที่คาดว่าฝ่ายค้านหยิบยกมาโจมตี “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ในศึก อภิปรายไม่ไว้วางใจ 24-26 มี.ค.นี้ ท่ามกลางปัญหารุมเร้ารอบด้านทั้งการเมืองภายในและนอกประเทศ

การปฏิรูปกองทัพ ลดนายพล เรื่องเดิมถูกนำมาเขย่าเก้าอี้ นายกฯแพทองธาร แม้กระทรวงกลาโหมจะคลอดสมุดปกขาว กางไทม์ไลน์ชัดเจนปี 2570 ด้วยข้อครหา เขตทหาร ห้ามเขา รัฐบาลพลเรือนแตะต้องไม่ได้ แต่ประเด็นดังกล่าว ถูกมองเป็นเพียงน้ำจิ้มในเกมซักฟอก เพราะฝ่ายค้านเล็งเป้าไปที่ความล้มเหลวการป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชายแดนไทย กับประเทศเพื่อนบ้าน

ตามสถิติการรับแจ้งคดีอาชญากรรมออนไลน์ ระหว่างวันที่ 1-31 ม.ค.68 มีคดี 31,159 คดี หลังใช้มาตรการตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต น้ำมัน มีทั้งสิ้น 25,487 คดี ลดไปเพียง 5,672 คดี ซึ่งถือว่าน้อยมาก

สอดรับกับข้อมูล คนไทยถูกหลอกจากแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่เป็นคนไทยด้วยกันเข้าร่วมขบวนการ ฝังตัวในปอยเปต ประเทศกัมพูชา แต่รัฐบาลกลับมุ่งเน้นฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ชายแดนไทย-เมียนมา

ขณะฝั่งปอยเปตกลับใช้มาตรการเบากว่า คือการประสานรัฐบาลกัมพูชา โดยใช้กลไกตำรวจนำตัวคนไทยอยู่ในขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์กลุ่มแรกกลับประเทศได้เพียง 119 คน จากข้อมูลที่มีเกือบหมื่นคน

ทำให้รัฐบาลถูกมองว่า ไม่กล้างัดยาแรงจัดการแก๊งคอลเซนเตอร์ ปอยเปต เด็ดขาดเหมือนฝั่งเมียนมา ผูกโยงความสัมพันธ์แนบชิดระหว่าง ทักษิณ ชินวัตร กับ ฮุนเซน จุดอ่อนสั่นคลอนรัฐบาลแพทองธาร

เช่นเดียวกับความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม สถานการณ์ในพื้นที่ไม่ค่อยสู้ดี แต่ไม่มีท่าทีจากระดับนโยบาย ตั้งแต่นายกฯ จนถึง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม

แม้ ภูมิธรรม ตั้งใจใช้เวทีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(จีบีซี) เคลียร์ปัญหาพิพาทชายแดนร่วมถึงแก๊งคอลเซนเตอร์ กับ “เตีย เซ็ยฮา” รองนายกฯ และรมว.กลาโหมกัมพูชา แต่ดูเหมือนสถานการณ์ไม่เป็นใจ เมื่อ“เตีย เซ็ยฮา”แจ้งขอเลื่อนประชุมจีบีซีออกไป อ้างติดงานของฮุนเซน ประธานสภาฯ กัมพูชา อย่างมีนัยสำคัญ

อีกทั้ง ไฟใต้ ยังปะทุหลังจาก ทักษิณ ชินวัตร ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับภูมิธรรม และ ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมเพื่อขออภัยความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น กรณีตากใบ

พร้อมขอให้ผู้แทนกลุ่มบีอาร์เอ็นคณะพูดคุยกับฝ่ายไทย พิสูจน์ว่าเป็นตัวจริง ด้วยการหยุดเหตุรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน แต่สถานการณ์กลับตรงกันข้าม มีเหตุลอบวางระเบิดทำคนบาดเจ็บ-เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง

ปัญหาไฟใต้ยืดเยื้อจากรุ่นพ่อ มาถึงรุ่นลูก จนนายกฯแพทองธาร ตกเป็นเป้าซักฟอกของฝ่ายค้าน 

ซ้ำเติมด้วยกรณีส่ง 40 ชาวอุยกูร์กลับจีน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ที่เกี่ยวข้องถูกสหรัฐอเมริกาประกาศงดวีซ่า และยังไม่รู้ว่าจะลามไปถึงระดับใด ตั้งแต่นายกฯแพทองธาร รองนายกฯภูมิธรรม รมต.ทวี หรือสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

หลังไทยถูกชาติตะวันตกรุมประณามในเรื่องนี้ ว่าเป็นการละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศภายใต้ หลักการไม่ส่งกลับ (Non-refoulement) และอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานฯ และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย 

แม้ ภูมิธรรมจะยกคณะไปเยือนซินเจียง เพื่อพิสูจน์ชีวิตความเป็นอยู่ 40 ชาวอุยกร์ ว่ายังปลอดภัย แต่ฝ่ายค้านกลับตั้งข้อกังขาเป็นการจัดฉาก ชี้ประเด็นชวนสงสัย ภาพหญิงชาวอุยกูร์นับถือศาสนาอิสลาม แต่กลับสวมกอด“ภูมิธรรม”

ขณะที่ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ที่เร่งเจรจาทางลับทั้งสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศยุโรป ก็แต่ยังไม่รู้ว่า จะได้ผลมากน้อยเพียงใด 

สิ่งที่น่ากังวล ไทยอาจถูกลดอันดับการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2568 (TIP Report)ที่จะประกาศประมาณเดือน มิถุนายนนี้ ซึ่งปัจจุบันไทยอยู่ในระดับ Tier 2

ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงยกระดับการดูแลรักษาความปลอดภัย ป้องกันก่อการร้ายพื้นที่เฝ้าระวังสถานที่สำคัญ สถานที่เชิงสัญลักษณ์ ระบบคมนาคม ชุมชนมุสลิม กทม. ปริมณฑล และจังหวัดชายแดนภาคใต้

ประเด็นร้อน งานความ(ไม่)มั่นคง กำลังถูกฝ่ายค้านนำมาเขย่าเก้าอี้นายกฯ "แพทองธาร" ในสถานการณ์ขาลง ที่ยังน่าเป็นห่วง