'ปชน.'ชำแหละอัครา 'ดีลแลกประเทศ' พท.ประเคนเก้าอี้รมต.รทสช.

'ปชน.'ชำแหละอัครา 'ดีลแลกประเทศ' พท.ประเคนเก้าอี้รมต.รทสช.

"สส.ขอนแก่น ปชน." ย้อนเกร็ด “พท.” ยกปมเหมืองทองอัครา ไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร” ซัดจงใจดอง-ล้มคดี เชื่อเป็นการแลกดีล ตั้งรัฐบาล รวม “รทสช.”

ที่รัฐสภา นายอิทธิพล ชลธนาศิริ สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ วาระอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ต่อประเด็นการดำเนินกรณีเหมืองทองอัครา โดยยกการอภิปราย ของน.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้านและได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ต่อประเด็นเหมืองทองอัครา ว่าน.ส.แพทองธาร มีเจตนาเป็นนั่งร้านช่วยเหลือบุคคลให้ไม่ต้องรับผิดและอาจต้องเสียค่าโง่เป็นหมื่นล้าน    

ทั้งนี้ในสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านได้อภิปรายเรื่องเหมืองทองอัคราทั้งมาตรา151 และ152รวมถึง5ครั้ง เช่นนี้จะไม่เป็นเรื่องสำคัญได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะน.ส.จิราพร ที่ได้อภิปรายไว้อย่างน้ำไหลไฟดับแต่เมื่อมาเป็นรัฐบาลกลับล้มเหลวที่จะทำตามคำพูดที่เคยพูดไว้ทุกเรื่อง

ความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของน.ส.แพทองธาร มีสาเหตุสำคัญมาจากปัญหาทางการเมืองซึ่งท่านทำทุกวิถีทางให้ได้มาซึ่งอำนาจจนประเทศได้รัฐบาลไม่ตรงปกโดยไม่มีความรับผิดชอบต่อประชาชน ยอมละทิ้งสัจจะเพื่อให้ได้เป็นรัฐบาล และยอมแลกเพื่อให้ได้นำบุคคลในครอบครัวกลับบ้าน
 

 

นายอิทธิพล ยังอภิปรายว่า ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นจากคำสั่ง ตามมาตรา44 ในรัฐบาลคสช. นำมาสู่การฟ้องร้องจากบริษัทคิงเกตฯ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทอัคราได้ฟ้องร้องรัฐบาลในอดีต ต่ออนุญาโตตุลาการที่ประเทศสิงคโปร์  จนต้องมีการนำภาษีประชาชนมาต่อสู้คดีกว่า700ล้านบาท

\'ปชน.\'ชำแหละอัครา \'ดีลแลกประเทศ\' พท.ประเคนเก้าอี้รมต.รทสช.

อีกทั้งสมัยรัฐบาลที่แล้วพรรคเพื่อไทยเคยอภิปรายไว้ว่ารัฐบาลเวลานั้นมีความผิดหลายเรื่อง ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคยมีข้อเสนอ4ข้อ

1.ดำเนินคดีกับพล.อ.ประยุทธ์ เอาคนผิดมาลงโทษ

2.ไม่เลื่อนวันออกคำสั่งชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ

3.หยุดประเคนผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง

4.หยุดการล้มคดีทั้งหมดให้กับบริษัทคิงเกตฯ ทว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมา2ปีแต่กลับยังไม่มีคำชี้ขาดออกมา จากน้ำไหลไฟดับเวลานี้กลับเป็นน้ำท่วมทุ่งไปแล้ว

นายอิทธิพล ยังอภิปรายว่า วันนี้แทนที่จะมีการเด็ดหัวสอยนั่งร้าน แต่กลับเป็นนั่งร้านเสียเอง อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีอุตสาหกรรม ซึ่งพวกท่านเคยด่า เวลานี้เป็นรัฐมนตรีคมนาคมในรัฐบาลแพทองธาร การที่ท่านระบุว่าจะปิดสวิตซ์ "3ป." ท่านจะปิดเมื่อไหร่ 
 

"ผมไม่ได้พูดเองแต่เป็นสิ่งที่ท่านเคยพูดไว้เอง โดยเฉพาะท่านจิราพร  สินธุไพร ท่านรัฐมนตรีน้ำที่ได้รับฉายานักฆ่าขนตางอนเจ้าของวลีแห่งความหวังที่จะกระชากคอเผด็จการท่านเคยอภิปรายน้ำไหลไฟดับในสภาแห่งนี้"

นายอิทธิพล ยังกล่าวว่า น.ส.จิราพรเคยย้ำในสภาแห่งนี้ว่าจะแสวงหาข้อเท็จจริงจนถึงที่สุด แต่พอพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลตั้งแต่ในสมัยของนายเศรษฐา ทวีสิน  จนกระทั่งสมัยน.ส.แพทองธาร กลับเอาคนในพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  คอยดูแลคดีเหมืองทองอัคราคอยสกัดหน้าระวังหลังให้กับพล.อ.ประยุทธ์ วันนี้มีแต่การหลับหูหลับตาเพื่อตั้งเครือข่ายเพื่อช่วยให้พ้นผิด

"การที่ยอมกลืนน้ำลายตนเองแบบนี้ มีเหตุผลเดียวคือดีลจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทยต้องการเป็นรัฐบาลนายกฯแพทองธารอยากให้คนในครอบครัวกลับบ้านก็ต้องยอมยกเก้าอี้กระทรวงอุตสาหกรรมให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นการเอาผลประโยชน์ประเทศไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตนท่านนายกฯแพทองธารท่ายทรยศหักหลังประชาชนที่เขาเคยเชื่อท่าน"

นายอิทธิพล ยังกล่าวว่า วันนี้การที่จะตั้งกรรมการสอบง่ายๆยังไม่ยอมทำ การที่น.ส.แพทองธารไม่ทำก็เพราะเป็นหนึ่งดีลที่จะเอาผลประโยชน์ของชาติไปช่วยคนที่ทำผิดเพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง  ในรัฐบาลที่แล้วพรรคเพื่อไทยเคยยืนยันว่าการเลื่อนวันออกคำสั่งชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ เพราะทุกครั้งที่เลื่อนหมายไปถึงการยกผลประโยชน์ของชาติไปประเคนให้บริษัทต่างชาติ  ทว่าพอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลสิ่งแรกที่นายกฯของพรรคเพื่อไทยทั้ง2คนทำคือ การขอเลื่อนวันออกคำชี้ขาดอย่างน้อย3ครั้ง การเลื่อนเช่นนี้เป็นการประวิงเวลาเพื่อแก้ไขความผิดพลาดในอดีตเพื่อแลกผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง 
\'ปชน.\'ชำแหละอัครา \'ดีลแลกประเทศ\' พท.ประเคนเก้าอี้รมต.รทสช.

นายอิทธิพล ยังกล่าวว่า พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล มา 2 ปี แต่กลับไม่เอาผิดใคร ซึ่งเรื่องดังกล่าวพรรคเพื่อไทยว่าผิดกฎหมายตั้งแต่เป็นฝ่ายค้าน แต่ปัจจุบันเป็นรัฐบาล มีน.ส.แพทองธาร เป็น นายกฯ แต่กลับไม่แก้ไขหรือเพิกถอนใบอนุญาตการให้ทำเหมืองแร่ผิดกฎหมายในแหล่งสุบรรณ และแหล่งโชคดี ในอ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก

“รัฐบาลนี้คงไม่เอาผิดใคร เพราะเป็นดีลจัดตั้งรัฐบาล หากเพิกถอนทำเหมืองแร่ เท่ากับว่าจะมีคนทำผิดกฎหมาย จะทำให้ดีลตั้งรัฐบาลล่ม ดังนั้นต้องปล่อยเข้ามาหาประโยชน์จากทรัพยากรแร่อย่างผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดีน.ส.จิราพร เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเรื่องดังกล่าวมีผลประโยชน์มีการแลกหมูและแมว และมีความพยายามล้มคดีความต่างๆ ที่บริษัทอัคราถูกฟ้องร้องกว่า 10 คดี ดังนั้นเมื่อมีความปรองดองกัน ร่วมรัฐบาลกันได้ คดีจึงไม่คืบหน้า”  นายอิทธิพล อภิปรา

นายอิทธิพล อภิปรายด้วยว่าในเรื่องการตรวจสอบเหมืองทองอัคราพบว่ามีการตรวจสอบในชั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งล่าสุดดีเอสไอได้ส่งเอกสารมาให้กับกรรมาธิการวิสามัญพิจารณายกเลิกประกาศคำสั่งคสช.  พบว่าคดีความต่างๆ ไปไม่ถึงไหน บางเรื่องค้างที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และมีบางคดีที่ดีเอสไอทำเสร็จแล้ว เช่น การรุกที่หลวง ที่พบว่ามีการทำสำนวนให้อ่อน ซึ่งมีการทักท้วงแล้ว แต่การตั้งข้อกล่าวหากับบริษัทอัครา ซึ่งไม่มีประเด็นการไม่ขออนุญาตประทานบัตร อาจทำให้เป็นมวยล้มต้มคนดูได้ อีกทั้งบางคดีอัยการสังฟ้องแล้วแต่ปีกว่ายังไม่จับตัวผู้บริหารบริษัทมาดำเนินคดี

“นายกฯ จริงใจแค่ไหน หรือเป็นการประวิงเวลาต่อรองเพื่อช่วยล้มคดี ที่ นายกฯ ได้ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ สืบต่อจากรัฐบาลที่แล้วที่ด่าเขา แต่พอเป็นรัฐบาลกลับทำเหมือนเขา อยู่ข้างล่างชี้ด่าว่าเปื้อนโคลน แต่ปีนขึ้นมาได้กลับมากลิ้งในเลน แบบนี้คำตอบคือ เป็นดีลจัดตั้งรัฐบาล กับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยนายกฯ ไม่เอาผิดใคร อะไรที่รัฐบาก่อนหน้านั้นทำผิด จะถูกปล่อยไว้ เพื่อพยายามรักษาดีลกับพรรคร่วมรัฐบาลไว้ทุกข้อ แต่ละเลยกับสิ่งที่พูดไว้กับประชาชน  นายกฯ ฐานะที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อ้างว่าไม่รู้ไม่ทราบไม่ได้   นายกฯ กำลังเอาผลประโยชน์ชาติแลกประโยชน์กับครอบครัว ดึงเวลาเจรจากับคิงส์เกตเพื่อรักษาหน้าให้รัฐบาลที่แล้ว ทั้งที่รู้ดีว่าทำผิด แต่ยอมปล่อย ดองและล้มคดี” นายอิทธิพล อภิปราย