‘ธรรมนัส’ อัปพาวเวอร์ รุกพรรคร่วม ขยายอาณาจักร

เป้าใหญ่ของหนุ่มเมืองกว๊าน ดูเหมือนจะหันเรดาห์ไปทางบุรีรัมย์มากกว่าที่ไหนๆ มวยคู่เอกทางการเมือง ที่ฟาดกันผ่านตัวแทนมาแล้ว อาจไม่แคล้วต้องโคจรมาพบกันจังๆ แมตซ์นี้น่าจะได้ชมกันนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
KEY
POINTS
- มีอยู่จริงสำหรับงูเห่าในรั
การเมืองกับ“งูเห่า”เป็นของคู่กัน แม้ในสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลผสมภายใต้การนำของ“แพทองธาร ชินวัตร” จะมีเสียง สส. สนับสนุนจากบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล มากถึง 322 เสียง จากทั้งหมดในสภา 493 เสียง ก็ยังไม่วายที่งูเห่าจะออกมาเผ่นผ่าน
จากเลือกตั้ง ปี 62 รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา เผชิญเสียงปริ่มน้ำ จนน่าเป็นกังวลว่า จะโดนคว่ำกลางสภาฯ ตอนนั้นก็ได้ค่ายน้ำเงิน ที่ได้ชื่อว่าพ่อบุญทุ่ม เดินเครื่องดูดงูเห่ามาเติมเต็มสูบ
มาถึงตอนนี้ “ธรรมนัส พรหมเผ่า”ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ที่เคยประกาศว่า 10 สส.ฝ่ายค้านจากหลายพรรค จะหันมาสนับสนุนแพทองธาร ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็พอจะได้เห็นหน้าเห็นหลังกันแล้ว
กลยุทธ์ของธรรมนัส และกล้าธรรม ขับเคลื่อนคู่ขนานในหลายมิติ การเดินหน้าจัดตั้งสาขาพรรคทั่วประเทศ รวมถึงการสร้างโมเมนตั้มให้พรรคดูเนื้อหอม มีแต่คนอยากเข้ามาร่วมชายคา ทั้งหมดก็เพื่อเตรียมสู่การเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป
ท่ามกลางการจับตาว่า ผลพลอยได้เฉพาะหน้าของการดึงงูเห่ามาสนับสนุนนายกฯ นั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในโควตารัฐมนตรี
ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งสิ้น ถึงแม้แพทองธาร จะประกาศว่าไม่ได้ต้องการงูเห่า รวมถึงยังไม่มีแผนจะปรับครม. หลังการอภิปรายรอบนี้ โดยระบุว่าได้พูดกับพ่อทักษิณแล้ว ก็ได้รับรู้ และตอบว่าโอเค แต่ก็ใช่ว่าธรรมนัส จะหมดลุ้นในระยะต่อไป
ที่สำคัญการเล่นบทหมองู คอยต้อนงูเห่าของธรรมนัส อาจต้องการสร้างบารมีข่มพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคก็ไม่แน่ เป็นการเบ่งกล้ามโชว์พลังที่มองเห็น และมองไม่เห็น โดยเฉพาะเพื่อหวังผลลดทอนกำลังของภูมิใจไทย ตั้งท่าพร้อมรบท้าชิงในหลายพื้นที่ และมีแนวโน้มสูงที่จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช เขต 8 เร็วๆ นี้
คนในปีกรัฐบาลต่างรู้ดีว่า ค่ายน้ำเงินยุคนี้ ไม่ใช่พ่อบุญทุ่มเหมือนสมัยคุมคมนาคม และคนที่รู้ดีที่สุดคือคนในนั่นเอง
หนึ่งในนั้นคือ “เอกราช ช่างเหลา”สส.ขอนแก่น ที่ถูกตัดน้ำเลี้ยง ทุกอย่างที่เคยได้รับ ชนวนเหตุมาจากการขอการสนับสนุนสู้ศึกนายก อบจ.ของลูกชาย จนทำให้ผู้มีบารมีสีน้ำเงินตัวจริงไม่พอใจอย่างหนัก
กรณีเช่นนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะที่ขอนแก่น อีกหลายจังหวัดที่เดียวดายต้องยืนสู้ด้วยลำแข้งตัวเองในสนาม อบจ. ต่างหมดใจไปหลายคน ระหว่างนี้ แค่รอเวลาเปลี่ยนที่เปลี่ยนทาง
“เอกราช” เองยอมรับว่า ภูมิใจไทยเตรียมขับพ้นพรรค หลังธรรมนัส และอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าภูมิใจไทย ได้คุยกันแล้ว กรณีนี้หากกรรมการบริหารพรรคมีมติเมื่อไหร่ ก็นับว่าเสียเหลี่ยมทางการเมืองเมื่อนั้น แค่คุยกันเฉยๆ มันจะจบแบบที่ผู้กองชนะอย่างง่ายดาย แทบไม่ต้องเหนื่อยเลยหรือ
ท่ามกลางข้อสังเกต การที่แกนนำภูมิใจไทย หรืออนุทิน ยอมเดินเกมขับเอกราช ให้เข้าทางธรรมนัส เพื่อแลกดีลล้มกระดานตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟเขาใหญ่ของครอบครัวชาญวีรกูล ส่อรุกที่ สปก.หรือไม่ หลัง“รถถังน้อย” ธนดล สุวัณณะฤทธิ์ มือทำงานของกระทรวงเกษตรฯ หรือเด็กผู้กอง ลุยปะฉะดะ
เคยหลังทำสำเร็จมาครั้งหนึ่ง ที่ไร่ภูนับดาว กรณีใช้ที่ดิน สปก.ผิดวัตถุประสงค์ และมีเส้นเงินโยงถึงหวานใจนักการเมือง ก่อนจะนำมาสู่การที่พลังประชารัฐ ตัดสินใจขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัส พ้นพรรค ไปสร้างอาญาจักรกล้าธรรมจนทุกวันนี้
ขุมกำลังของผู้กองเวลานี้ นับว่าครบเครื่อง หาตัวจับยาก ถ้าต้องลุยก็พร้อมบู๊ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม แทรกซึมไปในกลไกหลายส่วน ที่มีอิมแพ็คต่อนักการเมืองตรงข้าม หรือคนที่อยากดึงมาอยู่ด้วย
เป้าใหญ่ของหนุ่มเมืองกว๊าน ดูเหมือนจะหันเรดาห์ไปทางบุรีรัมย์มากกว่าที่ไหนๆ มวยคู่เอกทางการเมือง ที่ฟาดกันผ่านตัวแทนมาแล้ว อาจไม่แคล้วต้องโคจรมาพบกันจังๆ แมตซ์นี้น่าจะได้ชมกันนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป