ผ่าขุมธุรกิจ เปิดตัว 2 คนไทยถือหุ้น ‘ทุนจีน’ สร้างตึก สตง. 2.1 พันล.

ผ่าขุมข่ายธุรกิจ ‘CRCC’ บริษัทเอกชนในเครือรัฐวิสาหกิจจีน ร่วมสร้างตึกใหม่ สตง. 2.1 พันล้าน เปิดหมด 9 บริษัทที่ตั้งเดียว CRCC มีทั้งธุรกิจขายอุปกรณ์ยานยนต์ ทำอสังหาฯ
KEY
POINTS
- ผ่าขุมข่ายธุรกิจ ‘CRCC’ บริษัทเอกชนในเครือรัฐวิสาหกิจจีน ร่วมสร้างตึกใหม่ สต
เงื่อนงำอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (อาคาร สตง.) แห่งใหม่ มูลค่าการก่อสร้างกว่า 2,136 ล้านบาท พังถล่มลงมาภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวศูนย์กลางที่มัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา โดยส่งผลกระทบมาถึง กทม.เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
เพราะจากข้อมูลพบว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าว มีการก่อสร้างถึงชั้นสูงสุด (ชั้น 33) แล้ว นอกจากนี้ยังก่อสร้างโครงสร้างฐานรากแล้วเสร็จไปแล้วด้วย ไฉนถึงพังถล่มลงมาได้ หากเทียบกับอาคารก่อสร้างอื่น ๆ ใน กทม.ที่แทบไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หรือแม้แต่อาคารร้างที่ก่อสร้างไม่เสร็จอย่าง “ตึกร้างสาธร” ก็ยังตั้งตระหง่านแข็งแรงดีอยู่ ทั้งที่สร้างมาหลายสิบปีแล้ว
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารหลังดังกล่าว กรุงเทพธุรกิจสืบค้นข้อมูลข้อเท็จจริง สรุปได้ 3 ประเด็น ได้แก่
1.โครงการนี้ มีการชงของบประมาณเพื่อขอก่อสร้างมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2550 หรือราว 18 ปีก่อน ต่อมามีการขอปรับเปลี่ยนงบประมาณในปี 2563 ออกเป็น 2 แบ่งเป็น
งานก่อสร้างอาคารดังกล่าว วงเงิน 2.1 พันล้านบาทเศษ ดำเนินการโดย กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด)
งานผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้าง วงเงิน 74.6 ล้านบาทเศษ ดำเนินการโดย กิจการร่วมค้า PKW (บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนตส์ จํากัด และ บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด)
2.รายงานข่าวจาก สตง.ว่า นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่า สตง.ได้เรียกประชุมผู้บริหารภายใน สตง.เพื่อหารือแก้ไขปัญหานี้โดยด่วนเมื่อ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง สตง.ยืนยันว่า ตึกนี้ได้ก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 30% และ สตง.ได้ตรวจรับงานไปแล้ว 20%
3.พบ “เอกชนจีน” ที่มาร่วมเป็นกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี ดำเนินการก่อสร้างอาคาร สตง.ดังกล่าวคือ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด โดยจากการตรวจสอบพบมีชื่อจีนว่า บริษัท จงเที่ยสือจวี่จี๋ตวน (China Railway No.10 Engineering Group – CRCC) หนึ่งในบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจจีนขนาดใหญ่ โดยสื่อจีนเคยรายงานข่าวเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมาว่า บริษัทแห่งนี้ ดำเนินงานในโครงสร้างหลักของอาคารเสร็จสมบูรณ์แล้ว ความสำเร็จครั้งนี้ไม่ใช่เพียงความคืบหน้าในระดับกายภาพ แต่ยังถือเป็น โครงการอาคารสูงพิเศษ (超高层建筑) แห่งแรกในต่างประเทศของบริษัท ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันด้านวิศวกรรมจีนที่กำลังก้าวรุกเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด
จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2561 ทุนปัจจุบัน 100 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 493 ซอยพุทธบูชา 44 แยก 11 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ เกี่ยวกับการบริการด้านการทรัพยากรมนุษย์และรับเหมาก่อสร้างอาคาร อาคารพาณิชย์ อาคารที่พักอาศัย สถานที่ทำการ ทางรถไฟ ทางรถสาธารณะ ทางรถไฟฟ้าใต้ดิน กรรมการ 2 คน ได้แก่ นายชวนหลิง จาง นายโสภณ มีชัย
นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป คัมปะนี (สัญชาติจีน) ถือหุ้นใหญ่สุด 49% โสภณ มีชัย ถือ 40.8% ประจวบ ศิริเขตร ถือ 10.2% มานัส ศรีอนันท์ ถือ 3 หุ้น
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 สินทรัพย์รวม 2,804,535,819 บาท หนี้สินรวม 2,952,877,175 บาท รายได้รวม 206,253,951 บาท รายจ่ายรวม 354,955,976 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 50,967,848 บาท ขาดทุนสุทธิ 199,669,872 บาท
อ่านข่าว: เปิดที่มา ‘เอกชนจีน’ อวดสร้างตึกใหม่ สตง. ก่อนถล่มหลังแผ่นดินไหว
อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบข้อมูลผ่านเว็บไซต์ Creden.co ซึ่งใช้ฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ที่ตั้งของ CRCC ในไทยดังกล่าว เป็นที่ตั้งของบริษัทที่ส่อเข้าข่ายเป็น “เครือข่ายทุนจีน” เปิดอยู่อย่างน้อย 9 แห่ง ได้แก่
1. บริษัท ยูไนเต็ด สตาร์ กรุ๊ป จำกัด วัตถุประสงค์ นำเข้า ขายส่ง ขายปลีก เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ จดทะเบียนวันที่ 13 ส.ค. 2557 นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2566 รายได้รวม 181,834 บาท รายจ่ายรวม 919,369 บาท ขาดทุนสุทธิ 737,535 บาท
2. บริษัท วีล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด วัตถุประสงค์ประกอบกิจการขายปลีกชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริมใหม่ของยานยนต์ จดทะเบียนวันที่ 18 พ.ค. 2558 นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2566 รายได้รวม 336,023,204 บาท รายจ่ายรวม 331,623,133 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 641,241 บาท เสียภาษีเงินได้ 1,301,110 บาท กำไรสุทธิ 2,457,719 บาท
3. บริษัท สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด วัตถุประสงค์ การเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นเพื่อเป็นที่พักอาศัยจดทะเบียนวันที่ 24 ส.ค. 2558 นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2566 ไม่มีรายได้ รายจ่ายรวม 11,500 บาท ขาดทุนสุทธิ 11,500 บาท
4. บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด วัตถุประสงค์ประกอบกิจการบริการพิธีการศุลกากรเพื่อนำเข้า ส่งออกสินค้า และจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ จดทะเบียนวันที่ 24 ต.ค. 2560 นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 รายได้รวม 6,321,912 บาท รายจ่ายรวม 5,886,909 บาท เสียภาษีเงินได้ 28,789 บาท กำไรสุทธิ 406,213 บาท
5. บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด วัตถุประสงค์ ร้านขายปลีกวัสดุก่อสร้างหลายชนิด รวมถึงวัสดก่อสร้าง จดทะเบียนวันที่ 16 พ.ย. 2560 นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2566 รายได้รวม 302,937,666 บาท รายจ่ายรวม 300,173,772 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 249,415 บาท เสียภาษีเงินได้ 561,437 บาท กำไรสุทธิ 1,953,041 บาท
6. บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด วัตถุประสงค์ เกี่ยวกับการบริการด้านการทรัพยากรมนุษย์และรับเหมาก่อสร้างอาคาร อาคารพาณิชย์ อาคารที่พักอาศัย สถานที่ทำการ ทางรถไฟ ทางรถสาธารณะ ทางรถไฟฟ้าใต้ดิน จดทะเบียน วันที่ 10 ส.ค. 2561 ตามที่นำเสนอไปแล้วข้างต้น
7. บริษัท สแตร์ ลาเบล อินเตอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด วัตถุประสงค์ : ขายส่งเคมีภัณฑ์ทางอุตสาหกรรม จดทะเบียน วันที่ 25 ก.ค. 2565 นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2566 มีรายได้รวม 3,424,445 บาท รายจ่ายรวม 3,008,900 บาท เสียภาษีเงินได้ 19,835 บาท กำไรสุทธิ 395,709 บาท
8. บริษัท โมเยนเน่ (ประเทศไทย) จำกัด วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการซื้อ ขายสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิด เช่นเครื่องแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในครัวเรือน จดทะเบียน วันที่ 22 ส.ค. 2565 นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 รายได้รวม 12,894,731 บาท รายจ่ายรวม 10,735,002 บาท เสียภาษีเงินได้ 279,486 บาท กำไรสุทธิ 1,880,242 บาท
9. บริษัท สยาม ไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ จำกัด วัตถุประสงค์ ประกอบกิจการผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออกวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆและเครื่องสำอางค์ทุกชนิด จดทะเบียน วันที่ 29 ก.ย. 2565 นำส่งงบการเงินล่าสุดปี 2567 รายได้รวม 38,047 บาท รายจ่ายรวม 13,825 บาท กำไรสุทธิ 24,222 บาท
อย่างไรก็ดีทั้ง 9 บริษัทข้างต้น ยังมิได้ถูกร้องเรียนตรวจสอบ ถึงปัญหาในการจดทะเบียนบริษัท หรือปัญหาในการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐแต่อย่างใด
ทั้งนี้ มี 3 ตัวละครที่น่าสนใจเข้าไปเป็นกรรมการบริษัท หรือถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว ได้แก่
โสภณ มีชัย เป็นกรรมการบริษัท 4 บริษัท คือ
1. บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด
2. บริษัท ไซเบอร์ เทเลคอม จำกัด
3. บริษัท ไฮห่าน จำกัด
4. บริษัท เอที แคปปิตอล โซลูชั่น จำกัด (เสร็จชำระบัญชีแล้ว)
โสภณ ยังถือครองหุ้น 5 บริษัท ได้แก่
1. บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ถือ 40.8%
2. บริษัท เอที แคปปิตอล โซลูชั่น จำกัด (เสร็จชำระบัญชี)
3. บริษัท ไฮห่าน จำกัด ถือ 51%
4.บริษัท ยูไนเต็ด สตาร์ กรุ๊ป จำกัด ถือ 25.5%
5. บริษัท สยาม ไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ จำกัด ถือ 10%
ส่วนมานัส ศรีอนันท์ เป็นกรรมการบริษัท 9 บริษัท ได้แก่
1. บริษัท วีล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด
2. บริษัท สยาม ไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ จำกัด
3. บริษัท สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
4. บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด
5. บริษัท สแตร์ ลาเบล อินเตอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด
6. บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
7. บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต(ประเทศไทย) จำกัด
8. บริษัท โชคนิมิต บิสซิเนส แอนด์ เซอร์วิส จำกัด
9. บริษัท บี เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (เสร็จชำระบัญชี)
มานัส ยังถือครองหุ้น 12 บริษัท
1. บริษัท เลนเยส อี-พาวเวอร์ จำกัด ถือ 51%
2. บริษัท สแตร์ ลาเบล อินเตอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ถือ 31%
3. บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถือ 52.1%
4. บริษัท โชคนิมิต บิสซิเนส แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ถือ 40%
5. บริษัท บี เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด ถือ 1%
6. บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด
7. บริษัท สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ถือ 30%
8. บริษัท ยูไนเต็ด สตาร์ กรุ๊ป จำกัด ถือ 25.5%
9. บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด ถือ 48%
10. บริษัท สยาม ไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ จำกัด ถือ 70%
11. บริษัท วีล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ถือ 45.03%
12. บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต(ประเทศไทย) จำกัด ถือ 62.48%
ส่วน BINGLIN WU หรือบิงลิน วู บุคคลสัญชาติจีน เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด
ถือหุ้น 4 บริษัท
1. บริษัท เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต(ประเทศไทย) จำกัด ถือ 0.05%
2. บริษัท วีล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ถือ 5.9%
3. บริษัท สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด ถือ 42%
4. บริษัท เอวาน่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ถือ 20%