'พริษฐ์' จับอาการ พท-ภท.ร้อนรน กังขายื่นหมู-แมวปม พ.ร.บ.กาสิโนฯ

'ไอติม พริษฐ์' จับอาการ 'เพื่อไทย-ภูมิใจไทย' ดูร้อนรน กังขายื่นหมูยื่นแมวแลก 'พนันในกาสิโน-พนันออนไลน์' แล้วหรือไม่ ชวนคิดแค่ 5-6 เดือน เสียงเปลี่ยน
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2568 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขออย่ามองรัฐบาลเร่งรัดดันร่างกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ว่า เราไม่ได้ถามเรื่องสิทธิเสนอกฎหมายเข้าสภาฯ เราถามเรื่อง ทำไมรัฐบาลมีอาการร้อนรนเป็นพิเศษ ดันให้พิจารณาวาระ1 ให้ทันสมัยประชุมนี้ ที่จะปิดวันที่10เม.ย. พยายามจะแซงคิวปกติที่รออยู่ก่อนแล้วตามระเบียบวาระ อย่างน้อย 11 ฉบับ
ยิ่งไปกว่านั้น ประเด็นสำคัญที่ทางนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ ยอมรับว่ารัฐบาล ยังไม่มีการทำรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ หรือ Feasibility Study ก่อนเสนอร่างกฎหมายเข้าสภาฯ แต่จะดันทำ Feasibility Study หลังกฎหมายผ่าน และมีการตั้งคณะกรรมการนโยบาย และคณะกรรมการต่างๆ ขึ้นมาแล้ว ซึ่งเป็นการลำดับขั้นตอนแปลกประหลาด เพราะสมมติ ถ้าผ่านกฎหมายไปแล้ว ตั้งคณะกรรมการฯแล้ว แต่ปรากฏว่า ผลการศึกษาบอกว่า ไม่ควรเดินหน้า คำถามคือ เราจะเสียเวลาผ่านกฎหมายตั้งคณะกรรมการต่างๆ ขึ้นมาทำไม แทนที่จะพยายามนำกฎหมายนี้มาแซงคิวกฎหมายอื่น ทำไมรัฐบาลไม่ใช่ช่วงเวลาการปิดสมัยประชุม ไปทำ Feasibility Study มาก่อน และค่อยมาเสนอร่างกฎหมายในสมัยประชุมถัดไปก็ได้
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทำไมรัฐบาลไม่สลับลำดับ ให้มันเป็นตามที่ควรจะเป็น 1.ศึกษาเรื่องผลกระทบต่อการท่องเที่ยวให้ละเอียด 2.ศึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขพ.ร.บ.การพนัน คู่ขนาน 3.และไปศึกษาอย่างละเอียดเรื่องจำนวนที่ตั้ง หรือแม้แต่เรื่องเกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบกิจการ อย่างไร ให้มีหลักประกันในตัวกฎหมาย แทนที่จะตีเช็คเปล่า ให้กับคณะกรรมการนโยบาย หากผลลัพธ์ ออกมาแล้วรัฐบาลต้องการเดินหน้าต่อ ก็ค่อยเสนอเข้าสภาฯ ในสมัยประชุมถัดไป นอกจากอาการเร่งรีบ ลัดคิว ผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้ว เราไม่เคยเห็นรัฐบาล มีความพยายามใช้วิธีการเร่งรัดเป็นพิเศษกับกฎหมายอื่นมาก่อนเลย ความจริงมีกฎหมายหลายฉบับที่ตน และพรรคปชน.มองว่าสำคัญและเข้าคิวรออยู่ เช่น ร่างพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ร่างพ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ที่รอมาเป็นปีแล้ว
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า กรณีนายชูศักดิ์ และรัฐบาลพูดตลอดว่า คาสิโนมีพื้นที่แค่10 เปอร์เซ็นต์นั้น ในเชิงพื้นที่อาจแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ทว่า นิยามสถานบันเทิงครบวงจรในกฎหมายของรัฐบาล เขียนชัดว่า สถานบันเทิงครบวงจร จะมีบริการอื่นๆ หลากหลาย อาทิ สวนน้ำ โรงแรม ห้าง สวนสนุก แต่จะไม่มีกาสิโนไม่ได้ ดังนั้น มันเป็น10เปอร์เซ็นต์ที่เป็นหัวใจในข้อเสนอของรัฐบาล อีกทั้ง กาสิโนหลายแห่ง เช่น มาเก๊า มีคาสิโน แค่10เปอร์เซ็นต์ ก็จริง แต่ในส่วนกาสิโน คิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั้งหมด ดังนั้น ถ้าพูดถึงสัดส่วนพื้นที่อาจจะฟังดูน้อย แต่ในเชิงรายได้นั้น ถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ พรรค ภท. ค้าน ร่างกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ หัวชนฝา ที่เร่งรีบผลักดัน เพราะคุยกันหลังม่านแล้วหรือเปล่า นายพริษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่13 ส.ค. 2567 พรรค ภท.แถลงว่าไม่เห็นด้วย 4 ประเด็น มาวันนี้ร่างกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ฉบับรัฐบาลเสนอมา ก็ยังไม่แก้ไขใน4 ประเด็นนั้น ฉะนั้น ก็ต้องถามกลับไปที่ พรรคภท. ว่า เหตุใดจึงมีการเปลี่ยนจุดยืน หรืออย่างพรรคปชป.เอง ก็มีสมาชิกพรรค เสนอให้ทำประชามติ ด้วยซ้ำ
เมื่อถาม ว่า หากมีการซูเอี๋ย แบ่งเค้ก กันจริง ๆ จะทำอะไรได้ ฝ่ายค้านจะตรวจสอบอย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนเคยตั้งข้อสังเกตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า สิ่งที่สังคมเขามีความกังวล ก็คือว่า มันอาจจะมีการดีลกันหรือเปล่า ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ในการแลกกันระหว่าง การทำคาสิโนในพื้นที่ กับการทำการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย อย่างที่บอกว่า เมื่อวันที่13 ส.ค. 2567 พรรค ภท. ออกมาแถลงชัดเจน ไม่เห็นด้วย 4 ประเด็น พอผ่านมา 5-6 เดือน แม้4 ประเด็นไม่ถูกแก้ไขเลย กลายเป็นว่า ดูเหมือนพรรคภท.จะมีท่าทีที่ยอมรับกฎหมายคาสิโนแล้ว
“ที่แตกต่างจากเดิม คือมันมีการพูดถึงการแก้ไขพ.ร.บ.การพนัน ที่จะทำให้การพนันออนไลน์ ถูกกฎหมายเพิ่มขึ้นมา ซึ่งผมยืนยัน ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขปัญหาการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายได้ แต่กลับไปให้ดุลพินิจอย่างมหาศาล ให้กับกระทรวงมหาดไทย หรือไม่ ซึ่งก็นำโดยหัวหน้าพรรคภท. ในการออกใบอนุญาต การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย มันก็เลยเกิดคำถามว่า หรือว่าท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลที่เปลี่ยนแปลงไป ภายใน 5-6 เดือน หรือว่า มีการแลกกันหรือเปล่า ระหว่างการพนันในกาสิโน กับการพนันออนไลน์ หรือไม่” นายพริษฐ์ กล่าว