สภาฯ เสียงเอกฉันท์รับหลักการ ร่างกม.กอช. เปิดทาง 'หวยเกษียณ'

สภาฯ เสียงเอกฉันท์ 401 เสียง รับหลักการ ร่างแก้ไขกม.กอช. ทำคลอด "หวยเกษียณ" หวังกระตุ้นการออม "เผ่าภูมิ" ย้ำเป็นนโยบายรัฐบาลให้คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ... (พ.ร.บ.กอช.) ซึ่งแก้ไข พ.ร.บ.กอช. ปี2554 เพื่อเปิดทางให้ กอช. ออกและจำหน่ายสลาก กอช. หรือ หวยเกษียณ ว่า มีสส.ร่วมสนับสนุนการแก้ไขกฎหมาย กอช.ดังกล่าว เนื่องจากมองว่าจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการออมเพื่อใช้ยามเกษียณได้
อย่างไรก็ดีในการอภิปรายของสส.ก่อนรับหลักการนั้น มีข้อเสนอแนะไปยังกรรมาธิการวิสามัญที่น่าสนใจ อาทิ การทบทวนให้การดำเนินการหวยเกษียณนั้นมีความยืดยุ่น โดยเฉพาะการนำเงินออมจากหวยเกษียณออกมาใช้จ่ายก่อนครบกำหนดการจ่ายคืนที่อายุ 60ปี เพื่อให้สอดคล้องกับปัจจัยการใช้ชีวิตของประชาชนที่มีสิทธิเข้าโครงการ เช่น ใช้การกู้เงินของตนเองออกมาใช้จ่ายตามความจำเป็นต่อการรักษาพยาบาลตนเอง หรือใช้จ่ายในชีวิตเพื่อความมั่นคง เพราะการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่สามารถเข้าโครงการหวยเกษียณที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป กว่าจะครบกำหนดการได้เงินต้นและดอกผลคืน ที่อายุ 60 ปี เป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน นอกจากนั้นแล้วควรพิจารณาเรื่องผลตอบแทน หรือ เพิ่มเงินรางวัล หรือจำนวนรางวัลต่อรอบ ที่ต้องไม่น้อยกว่าสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมถึงพิจารณาต่อการนำไปลดหย่อนภาษีได้ เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีข้อเสนอแนะให้ปรับปรุงกฎหมายเพื่อกำหนดการการันตีของผลตอบแทนขั้นต่ำในเงินที่ลงทุน เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงิน เพื่อสร้างแรงจูงใจการออมเพิ่มเติม การกำหนดให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเพื่อกำกับการนำเงินออมหวยเกษียณไปใช้ลงทุนในกองทุน ซึ่งทุกกองทุนมักมีความเสี่ยง หากไม่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา การนำเงินของประชาชนไปลงทุนแม้จะเป็นกองทุนที่ความเสี่ยงต่ำ แต่อาจทำให้เกิดผลกระทบกับเงินของประชาชนได้ เนื่องจากว่ามีการคำนวณเงินที่จะได้จากการซื้อหวยเกษียณ ปีละ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก นอกจากนั้นยังแสดงความกังวลของการนำเงินไปใช้ที่ไม่โปร่งใส ไม่คุ้มค่า โดยเปรียบกับการใช้เงินกองทุนประกันสังคมไปซื้อตึกมูลค่าสูง
ทั้งนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตไปยังรัฐบาลด้วยว่า ให้จัดหลักสูตรการเงินและการออมให้กับคนไทย ตั้งแต่ระดับประถมวัย รวมถึงการดำเนินการหวยเกษียณต้องควบคู่กับการให้ความรู้เรื่องการทำบัญชีรายรับรายจ่ายครัวเรือเพื่อลดการเป็นหนี้และทำให้รู้จักการออมเพื่อความมั่นคงในวัยเกษียณ นอกจากนั้นแล้วต้องคำนึงถึงการป้องกันไม่ให้เกิดการมอมเมาประชาชนจากการพนันด้วย
อย่างไรก็ดีหลังจากที่สส. อภิปรายแล้วเสร็จ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ชี้แจงว่าในข้อสังเกตต่อการกำหนดระยะเวลาการถือครอง การกำหนดหลักเกณฑ์ลดหย่อนภาษี จะนำไปพิจารณาในชั้นกรรมาธิการเพื่อให้ พ.ร.บ.กอช. มีประโยชน์กับประชาชนมาที่สุดซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อสร้างนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อให้ประชาชนมีกิน มีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรีตามนโยบายของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ
ทั้งนี้นายเผ่าภูมิ ได้ชี้แจงต่อประเด็นคำถามถึงการเพิ่มผลตอบแทนเมื่อมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นน ว่า ในหลักการจะมีการพิมพ์สลาก 5 ล้านฉบับ จะมีเงินรางวัลสัปดาห์ละ 15ล้านบาท เมื่อรวม 4 สัปดาห์เท่ากับ 60 ล้านบาท รางวัลหนึ่งปี เท่ากับ 760 ล้านบาท โดยประมาณ ซึ่งคำนวณเป็นค่าตอบแทน 6-7% ต่อการระดมเงินออมแต่หากมีความต้องการซื้อเกิน 5 ล้าน จะมีการพิมพ์สลากเพิ่มขึ้นและเพิ่มเงินรางวัล เช่น มีการออก10 ล้านฉบับ เงินรางวัลจะเท่ากับ 1,500 ล้านบาทเพื่อรักษาผลตอบแทนที่ 6%-7%
จากนั้นเป็นการลงมติโดยที่ประชุมสภาฯ เสียงเอกฉันท์ รับหลักการ 401 เสียง จากนั้นได้ตั้งกมธ.วิสามัญขึ้นมาพิจารณา.