‘เอนเตอร์เทนเมนต์’ ลุ้น 9 เม.ย. จับตารัฐบาลถอย- โยนเผือกร้อนกมธ.?

กฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จับตา 9 เม.ย.รัฐบาลจะเลือกใส่เกียร์เดินหน้า เพื่อโหวตวาระแรก หรือจะถอยวาระร้อนดังกล่าว เพื่อลดแรงเสียดทาน ที่มากขึ้นทุกที
KEY
POINTS
- จังหวะ
การพบกันระหว่าง “ครูใหญ่สีน้ำเงิน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ดและ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี 2 ครั้งในรอบ 2 สัปดาห์
ครั้งแรก วันที่ 19 มี.ค. 2568 ครูใหญ่เนวิน ได้พานายกฯแพทองธาร เยี่ยมชมนิทรรศการผ้าไทย Colors of Buriram 2025 ที่บริเวณลานด้านหน้าสนามช้างอารีนา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
ครั้งที่สอง วันที่ 3 เม.ย. 2568 เนวิน ได้พานายกฯแพทองธาร เยี่ยมสถานที่จัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ MotoGP
นักข่าวไปถาม “นายกฯ อิ๊งค์” ว่า การเจอนายเนวินครั้งนี้ ทำให้ความสัมพันธ์พรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย ดีขึ้นหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า “ไม่ได้ทะเลาะกันอยู่แล้ว..ปัดโธ่”
มีการตั้งข้อสังเกตว่า ภายหลังปรากฎข่าวที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พา “ครูใหญ่เนวิน” ไปพบ “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่เพื่อไทย ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าครั้งล่าสุด สถานการณ์ความขัดแย้งของ 2 พรรคดูเหมือนจะเคลียร์กันได้ในระดับหนึ่ง
ไม่ต่างจังหวะก้าวย่างของ “2 บิ๊กเนม” ทั้ง “เนวิน” และ “นายกอิ๊งค์” ในฐานะนายน้อยเพื่อไทย ถูกตีความไปถึงสัญญาณทางการเมืองระหว่าง 2 พรรคร่วมรัฐบาลคือ “เพื่อไทย” และ“ภูมิใจไทย” ที่อาจยังต้องพึ่งพาอาศัยกันภายใต้เงื่อนไขต่อรองจากหลายหลายปมร้อน ที่ซุกซ่อนอยู่ในเวลานี้
ก่อนรูดม่านปิดสมัยประชุมสภาฯในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ซึ่งจะทิ้งช่วงยาวกว่า3 เดือน ก่อนจะเปิดสมัยประชุมอีกครั้งในวันที่ 3 ก.ค.ความตั้งใจของพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาลในขณะนี้ คือการผลักดันวาระสำคัญเข้าสภาฯ ให้ได้ก่อนปิดสมัยประชุมนี้
โดยเฉพาะวาระร้อน อย่างร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “กฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เห็นได้ชัดถึงการใช้ "เกมสภาฯ" ด้วยมติ 249 ต่อ137 เสียง เลื่อนวาระดังกล่าว จากเดิมถูกบรรจุอยู่ในเรื่องด่วนที่ 15 ซึ่งอาจไม่ทันทันสมัยประชุมนี้ ขึ้นมาอยู่ในลำดับต้นๆ เพื่อให้ทันโหวตวาระแรกในวันที่ 9 เม.ย.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุม
อย่าลืมว่า นอกเหนือจาก “กฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ” แล้ว ยังมีกฎหมายอีกหนึ่งฉบับ ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการนั่นคือ ร่างพ.ร.บ.พนัน ซึ่ง “อนุทิน” ในฐานะเจ้ากระทรวงกระทรวงมหาดไทย พยายามโชว์บทบาทเป็นเจ้าภาพ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจรัฐมนตรี ในการรักษาการตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว
"ไชยชนก ชิดชอบ" สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย พูดถึงจุดยืนพรรคภูมิใจไทย ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ยังเหมือนเดิม ต้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างชัดเจน มีวิธีการลดปัญหาสังคม มีมาตรการเก็บ “ภาษีบาป” ที่นำงบประมาณไปขับเคลื่อน และสร้างประโยชน์ให้ประเทศมากขึ้น และชัดเจน อย่างน้อยๆ ต้องมีเรื่องเหล่านี้
ท่าทีของภูมิใจไทยเวลานี้ ถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจกำลังเล่นบทตามน้ำไปก่อน เพราะโดยปกติของการเมือง หากพรรคการเมืองเคลียร์กันได้ กฎหมาย “ส่วนใหญ่” ก็มักจะถูกโหวตผ่านในวาระแรก ซึ่งเป็นเพียงวาระ “รับหลักการ” แล้วค่อยไปต่อรองยื่นหมูยื่นแมวกันในชั้นถัดไป โดยเฉพาะการพิจารณาของ กมธ. ตรงนี้ต่างหาก ที่น่าจะมีการวัดพลังกันอย่างดุเดือด
เหนือไปกว่านั้น ยังมีด่านสภาสูง ที่จะประทับตรากฎหมายด่านสุดท้าย เห็นชัดจากอาการของ “สว.สีน้ำเงิน” นำโดย “พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์” โฆษกวิปวุฒิสภา ออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า “จากการพูดคุยกับ สว.ส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยมากกว่า จึงอยากให้ทำประชามติถามประชาชนก่อน ว่าต้องการให้มีกาสิโนหรือไม่ อย่าอ้างว่าเป็นแค่เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพราะปัจจุบันมีอยู่แล้ว แต่เราไม่มีกาสิโน”
การส่งสัญญาณ จากฝั่งสว.ที่เวลานี้กำลังเผชิญวิบากกรรมในคดี"โพยฮั้ว" ท่ามกลางสัญญาณเกมล้างกระดานสีน้ำเงิน ที่อาจเกิดขึ้นในเร็ววัน ถูกจับตาว่าจะกลายเป็นการสร้างเงื่อนไขต่อรองหรือเป็นเกมเอาคืนหลังจากนี้หรือไม่
เป็นเช่นนี้จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า ท่าทีของสว.และภูมิใจไทย ที่มองเผินๆ ดูเหมือนจะตรงกันข้ามกับสว.อย่างสิ้นเชิง หรือลึกๆแล้วจะเป็น“เกมซ้อนเกม” แบ่งบทกันเล่น
จริงอยู่ที่เวลานี้ เริ่มปรากฎภาพ แรงเคลื่อนทั้ง “ใน-นอกสภา” ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชน ในฐานะแกนนำฝ่ายค้านที่ตั้งคำถามถึงความจำเป็นเร่งด่วนทั้งที่อยู่ในช่วงเหตุการณ์ตึกถล่ม
หรือสัญญาณจาก “ค่ายบ้านป่าฯ” ส่งผ่านลูกพรรคพลังประชารัฐ ขยี้ปมลุกลี้ลุกลนเสมือนเป็นการช่วยเหลือกลุ่มทุน
ไม่ต่างไปจากม็อบนอกสภา ที่ฉวยจังหวะที่ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์เข้าสภาฯ นัดชุมนุมหยุดกาสิโน หวังม็อบจุดติด เปิดเกมลงถนน
มีการตั้งข้อสังเกตว่า ม็อบเหล่านี้อาจถูกจุดกระแสมาจากเครือข่ายเดียวกันกับที่กำลังเคลื่อนไหวในสภาฯ โดยเฉพาะอดีตสว.บางกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่หลังฉากม็อบหยุดกาสิโนในเวลานี้ ว่ากันว่ามีมือประสานกับเครือข่ายอำนาจเก่า โดยเฉพาะฝั่ง “บ้านป่าฯ” อยู่เป็นระยะ
ลึกๆ แล้วการที่รัฐบาลใส่เกียร์เดินหน้านี้เช่นนี้ อาจเป็นเพราะประเมินแล้ว เงื่อนไขปลุกระดมยังไม่ถึงขั้นนำไปสู่การเมืองที่สุกงอม ต่อให้ผ่านวาระแรก ก็ยังต้องไปต่อสู้ฟาดฟันกันอีกหลายชั้น
โดยเฉพาะประเด็นการมีกาสิโน ที่กำหนดให้ผู้เล่นต้องมีเงินฝากในบัญชีฯ ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ก็เป็นฝั่งรัฐบาลเองที่ยอมรับว่า เรื่องนี้ต้องไปถกเถียงกันในชั้น กมธ. เพื่อชี้ขาดหลังจากนี้
จับอาการ “นายกฯอิ๊งค์” เวลานี้ เลือกที่จะโยนเผือกร้อนไปที่สภาฯ ให้เป็นผู้ชี้ขาด โดยนายกฯ มองว่า เรื่องนี้ไม่รีบ ให้เป็นกระบวนการของสภาฯ ไป แต่ว่าในพรรคร่วมรัฐบาลที่คุยกันนั้น ก็คุยกันอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว ถ้ามีในส่วนที่อยากจะปรับอะไร ก็คุยในรายละเอียดกัน ไม่มีหายไป ก็อัปเดตกันเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะต้องผ่านสภาฯ ก่อนปิดสมัยประชุมนี้หรือไม่นั้น ให้เขาคุยกันก่อนว่า จะอย่างไร เพราะตอนนี้ยังไม่ได้คุยแบบลงรายละเอียด แต่ได้คุยหัวหน้าพรรคร่วมในภาพรวม
นายกฯ ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนของ สว. ใช่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีเวลาก็ต้องพูดคุยกัน เพื่ออธิบายในเรื่องที่ยังไม่มีความเข้าใจ ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของ สส.ก่อน
เช่นนี้จึงต้องจับตา 9 เม.ย.นี้ ซึ่งสภาฯ จะมีการพิจารณาวาระดังกล่าว ต้องลุ้นว่ารัฐบาลจะเลือกใส่เกียร์เดินหน้าโหวตวาระแรก แล้วโยนเผือกร้อนไปที่กมธ.วัดพลังกันในช่วงปิดสมัยประชุมสภา3เดือน หรือจะยอมถอยวาระร้อนดังกล่าว เพื่อลดแรงเสียดทาน ที่อาจสุ่มเสี่ยงมากขึ้นทุกที