ไขปม พท. เบรกกฎหมาย ‘คอมเพล็กซ์’ ‘สีน้ำเงิน’ เล่นใหญ่ ‘สัญญาณพิเศษ’

ไขปม พท. เบรกกฎหมาย ‘คอมเพล็กซ์’  ‘สีน้ำเงิน’ เล่นใหญ่ ‘สัญญาณพิเศษ’

เดิมพันระหว่างค่ายสีแดง และค่ายสีน้ำเงิน อาจยกระดับความรุนแรงยิ่งขึ้น แต่จะสั่นคลอนหรือไม่ อยู่ที่การตัดสินใจของ “นายใหญ่” ว่าจะให้น้ำหนัก “สัญญาณพิเศษ” หรือไม่

KEY

POINTS

  • หากไ

หากไม่มีอะไรในกอไผ่ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร คงไม่ถอยฉากส่งสัญญาณเลื่อนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถาบันเทิงครบวงจร พ.ศ… หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทั้งที่ ที่ประชุมสภาฯ ลงมติให้เป็นวาระเร่งด่วน นัดหมายถกกันวันที่ 9-10 เม.ย.68

โดยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้น นายกฯแพทองธาร ซึ่งอีกสถานะหนึ่ง คือ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกประชุมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ 

เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม วราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ

หลังจบการประชุม “นายกฯ อิ๊งค์” เปิดเผยประเด็นการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเพียงว่า มีการหารือกันหลายเรื่อง และมีการทำงานร่วมกันอย่างเป็นขั้นตอน

โดยตอนหนึ่ง นายกฯ ระบุว่า “เดี๋ยวดูว่าในสภาฯ จะอย่างไรต่อ ซึ่งที่คุยกับพรรคร่วมฯ ก็เอาเรื่องที่เร่งด่วนก่อน อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ถอนหรือดึงร่างกลับมา ระหว่างนี้ก็รับฟังความคิดเห็นได้เรื่อยๆ ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นว่า เราควรจะเรียงลำดับความสำคัญ”

ขณะเดียวกันในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย “หัวหน้าอิ๊งค์” ทำความเข้าใจกับ “ลูกพรรคเพื่อไทย” กลางวงประชุมใหญ่สามัญของพรรคโดยระบุว่า “ไม่ได้ถอย แต่น่าเสียดายที่ถูกไปบิดเบือน สิงคโปร์ ฮ่องกง เขาก็ทำแต่ไม่มีใครทำกาสิโนขนาดใหญ่ ทำเล็กๆ เหมือนกัน แต่สร้างรายได้ แต่เราถูกบิดเบือน เสมือนว่าเป็นบ่อนถูกกฎหมาย ช่วงปิดสมัยประชุม ขอฝาก สส.รวมถึงรัฐมนตรีที่กำกับดูแลเรื่องนี้ ให้ช่วยกันชี้แจง”

สัญญาณจาก นายกฯ แพทองธาร ชัดเจนว่า ยังเดินหน้าผลักดัน ร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต่อ ในสมัยประชุมหน้าอย่างแน่นอน แม้จะต้องสะดุด เนื่องจากแรงต้านหลายทิศหลายทาง จึงต้องใช้การอธิบาย และสื่อสารให้สังคมเข้าใจมากกว่านี้ 

ทว่า ในเบื้องลึก ปัจจัยหลักในการถอยฉากของ “นายใหญ่-นายกฯหญิง” อยู่ที่แรงกดดันจากหลายภาคส่วน อาทิ พรรคฝ่ายค้าน - กลุ่มอดีต สว. - กลุ่มอดีต สปช. - นักวิชาการ รวมถึงม็อบคณะหลอมรวมประชาชน

ต้องยอมรับว่ายี่ห้อ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร แม้จะยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับเครือข่ายอนุรักษนิยม แต่ยังไม่เป็นที่ไว้วางใจมากนักจาก “หัวขบวนอนุรักษ์”

แอ็กชันของ “สว.สีน้ำเงิน” ส่งสัญญาณแรงไปยัง “นายใหญ่-นายกฯอิ๊งค์” หาก สส. โหวตรับร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ “สว.สีน้ำเงิน” จะดำเนินการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตรวจสอบ เอาผิดจริยธรรม

ว่ากันว่า “นายใหญ่” ไม่พอใจอย่างหนักต่อท่าที “สว.สีน้ำเงิน” ซึ่งมี “ครูใหญ่” บัญชาการอยู่หลังฉาก ทั้งที่สัปดาห์ที่แล้วนายกฯแพทองธาร จะลดเพดาน ในการไปเยือนบุรีรัมย์ เมืองหลวงสีน้ำเงิน พร้อมรับฟังเหตุผลเรื่องการสนับสนุนการจัดโมโตจีพี จนถูกตีความว่า "ดีล" ระหว่าง 2 ค่าย แลกโมโตจีพี กับเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะลงตัว

มาถึงเวลานี้ ชัดเจนแล้วว่า จุดยืนค่ายสีน้ำเงินยังเปลี่ยน มิหนำซ้ำยังเล่นใหญ่ ยกระดับขึ้นไปอีก 

มีกระแสข่าวว่า “ทีมสีน้ำเงิน” ทั้งบิ๊กเนม-ลูกพรรค-ลูกหาบ ต่างกล่าวอ้าง “สัญญาณพิเศษ” ส่งผ่าน “คนพิเศษ” ให้เลื่อนวาระดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องจากมี “หัวขบวนอนุรักษ์” บางสาย ข้องใจในความเร่งรีบของ “ขุนพลสีแดง”

อย่างที่รู้กันว่า แม้ “นายใหญ่” จะพยายามสานสัมพันธ์กับ “หัวขบวนอนุรักษ์” ในทุกระดับ แต่ยังมีช่องโหว่ อยู่ในบางระดับเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน

อย่างไรก็ตาม ในมุมของ “ขุนพลสีแดง” ยังคิดในมุมบวกว่า เป็นการลดความเสี่ยง เพราะการเลื่อนวาระร้อนนี้ออกไป ยังพอมีเรื่องดีอยู่บ้าง หากเทียบกับบทเรียนความรีบเร่งในอดีต 

ย้อนไปในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พบจุดจบอย่างไม่คาดคิด เมื่อพยายามผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ถูกถล่มหนักว่า ลักหลับ โหวตกันในช่วงกลางดึกในการประชุมสภาฯ ความเร่งรีบดังกล่าว กลายเป็นเงื่อนไขจุดชนวน “ม็อบต้าน” ทั่วประเทศ

สำหรับ ร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีตำหนิอยู่ที่ การเลื่อนวาระมาพิจารณา เป็น "วาระเร่งด่วน" แซงคิวกฎหมายอื่นกราวรูด จนเป็นเงื่อนไขให้ “กลุ่มต้าน” สามารถนำไปปลุกแนวร่วมออกมาชุมนุมได้

ทว่า การเลื่อนพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไป แม้นายกฯ ตั้งใจจะเดินหน้าต่อในสมัยประชุมหน้า แต่ในทางการเมือง เมื่อยอมถอยแล้ว ก็ยากที่จะนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง

ต้องจับตาเกมเอาคืนทางการเมืองต่อจากนี้ โดยเฉพาะการเปิดศึกระหว่าง “นายใหญ่” ปะทะ “ครูใหญ่” แม้ที่ผ่านมาจะพยายามสร้างภาพเสมือนเคลียร์ใจกันได้ แต่ฉากหลัง ต่างหักเหลี่ยมเฉือนคมชนิดไม่มีใครยอมใคร 

โดยเฉพาะเดิมพันระหว่างค่ายสีแดง และค่ายสีน้ำเงิน อาจยกระดับความรุนแรงยิ่งขึ้น แต่จะถึงขั้นสั่นคลอนพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ งานนี้อยู่ที่การตัดสินใจของ “นายใหญ่” ว่าจะให้น้ำหนัก “สัญญาณพิเศษ” หรือไม่

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์