‘พท.-ภท’ร้าวหนัก หัก'กาสิโน' ปลุกรัฐพันลึก ชิง‘เบอร์1’อนุรักษนิยม

“ผมนายไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโตของนายเนวินและนางกรุณา ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน” 

ไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย พูดกลางสภาระหว่างพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาขอให้สภาฯพิจารณาศึกษาผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกา 

การที่ “ลูกนก” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนายใหญ่สีน้ำเงิน หาญกล้าประกาศ “หักดิบ” คว่ำร่างพ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “กฎหมายเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”ที่พ่วง “กาสิโน” ไม่เกิน10% กลางสภาฯ เช่นนี้ ไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไร 

แม้ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ผู้เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะบอกว่า เป็นแค่เรื่อง "ผิดคิว" ไม่ใช่มติพรรคก็ตาม

แต่กลับยิ่งตอกย้ำถึงกระแสข่าวเกมขู่จากบางพรรคร่วมรัฐบาล โดยมี“ผู้นำหลังม่าน”เป็นผู้ส่งสัญญาณ เป็นที่มาของการที่รัฐบาลยอมถอยร่างกฎหมายเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปสมัยประชุมหน้าในที่สุด 

จับอาการ“ค่ายสีน้ำเงิน” ก็เห็นสัญญาณชัดเจนมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วเสียด้วยซ้ำ ทั้งกรณีที่ “เนวิน ชิดชอบ” นายใหญ่สีน้ำเงินบรรยายพิเศษต่อนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ. เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ออกแนวประชดประชัน 

"การเสนอกฎหมายให้อำนาจท้องถิ่น คงไม่เร่งด่วนเท่าเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์... เชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะไม่มีคนค้าน เพราะเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจประชาชนโดยตรง”

สอดรับกับ“เกมสภาสูง” ที่เห็นฉากการเคลื่อนไหวของ กลุ่ม “สว.สีน้ำเงิน” ชิงซีนใหญ่ ก่อนถึงวาระพิจารณากฎหมายแถลงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ที่กำหนดให้มีกาสิโน พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการออกเสียงประชามติต่อร่าง พ.ร.บ. หากไม่ทำ อาจเข้าข่ายทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 172 รวมถึงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) มาตรา 123/1 

"สว.สีน้ำเงิน" ยังเปิดเกมขู่ หากสภาฯ ยังโหวตรับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว สว.จะขอดำเนินการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรม

 เกมร้าวรัฐบาล สัญญาณ“หักเรือธง” 

แน่นอนว่า สัญญาณที่มีการส่งต่อกันเป็นทอดๆ เช่นนี้ ย่อมถูกตีความไปถึงสารพัดเกม การต่อรองยื่นหมูยื่นแมวเป็นระยะในซีกรัฐบาล สะท้อนถึงปมปัญหา ที่กลายเป็นรอยร้าวลึก และพร้อมหักดิบกันได้ตลอดเวลา 

ก่อนหน้านี้ มีการจับสัญญาณว่า หลังการพบกันระหว่าง“นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ “เนวิน ชิดชอบ” ที่ จ.บุรีรัมย์ “เมืองหลวงสีน้ำเงิน” เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจมีดีลแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ร่วมกันแบบวิน-วิน ระหว่างการโหวตผ่าน “กฎหมายเอนเทอร์เทนเมนต์ฯ" แลกกับการต่อสัญญา “โมโตจีพี” ซึ่งถือเป็น “เรือธง” สีน้ำเงิน

ซึ่งก่อนหน้านายกฯให้ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา “สรวงศ์ เทียนทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย รับเรื่องไปศึกษาตัวเลขงบประมาณและความคุ้มค่า 

ทว่า ความเห็นอีกมุม ยังเชื่อว่า ลึกๆ แล้วความตั้งใจของ “พรรคเพื่อไทย” ที่แท้จริง คือการสานต่อ การจัดการแข่งขัน F1 ซึ่งเป็น “เรือธงสีแดง” ที่ริเริ่มไว้ตั้งแต่ยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่ถึงขั้นเคยเดินทางไปหารือกับคณะผู้บริหาร พร้อมเยี่ยมชมสนาม Autodromo Enzo e Dino Ferrari ที่เมืองโบโลญญา ประเทศอิตาลี ก่อนเกิดอุบัติเหตุการเมืองไม่นาน

ตอกย้ำจากการที่ “นายกฯอิ๊งค์” ให้การต้อนรับประธานฯ บริษัท Formula One Group เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมเน้นย้ำว่า รัฐบาลพร้อมศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน F1 ได้ในอนาคต ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจากรัฐบาลเศรษฐา และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการยกระดับไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการจัดงานระดับโลก

สัญญาณ “หักดิบ” ที่ทำให้ “นายกฯอิ๊งค์” บ่น “หัวจะปวด” ในเวลานี้ ย่อมล่วงรู้ไปถึง “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้นำหลังม่านพรรคเพื่อไทย และต้องจับตาว่า จะมีแผนแก้เกมเอาคืนหรือไม่อย่างไร หลังจากนี้ 

โดยเฉพาะเกม "ปรับครม." ที่อาจเป็นมีสัญญาณเร่งให้เกิดขึ้นในเร็ววัน โดยเฉพาะภูมิใจไทยที่คุมกระทรวงสำคัญอย่างมหาดไทย

อย่างที่รู้กัน “เกมหักดิบ” กาสิโน ไม่ใช่เรื่องเดียวที่ตอกย้ำรอยร้าวระหว่าง “เพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” ที่ผลัดกันตบ ไม่มีจูบ

ยังมีสารพัดปมร้อนที่รออยู่เบื้องหน้า  ทั้งฝั่งภูมิใจไทย ที่กำลังเผชิญวิบากกรรม “นิติสงคราม” สอบโพยฮั้วสว. ท่ามกลางสัญญาณล้างกระดาน “สีน้ำเงิน” ที่อาจเกิดขึ้นเร็ววัน

โดยก่อนหน้านี้ ทีมคดีพิเศษ มั่นใจว่ามีหลักฐานเตรียมเชือด สว.สีน้ำเงิน อย่างน้อย 30 ราย สอดคล้องกับสมการเปลี่ยนเกมดุลอำนาจสภาสูง ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ 

ปลุกเกม“วังวนพันลึก”เขย่าสีแดง

ขณะที่ฝั่ง “สีแดง” ที่แม้ยังเชื่อลึกๆ ว่า เกมเคลื่อนของม็อบนอกสภาฯ จะไม่ซ้ำรอยสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ดันพ.ร.บ.นิรโทษสุดซอย นำมาสู่การเมืองที่สุกงอม และถูกยึดอำนาจ

ทว่า การเลื่อนวาระดังกล่าวออกไป นั่นเป็นเพราะหวั่นวิตกว่า กระแสคัดค้าน “กาสิโน” ที่ขยายวงไปอย่างรวดเร็ว และถูกตีขนาบรอบด้านเพื่อไทยในเวลานี้  ไม่ใช่แค่การขับเคลื่อนในลักษณะของ“แฟลชม็อบ” หรือ “ออร์แกนิกม็อบ” ที่เป็นแค่การรวมตัวแสดงสัญลักษณ์กดดัน เขย่าเรตติ้งรัฐบาลเท่านั้น

แต่เบื้องลึก เกม“นอกสภาฯ” ที่ถูกจุดกระแสในเวลานี้ มีความพยายามเชื่อมโยงไปที่ “เครือข่ายอำนาจ” ในซีก “อนุรักษนิยม” 

บางกระแสตีความไปถึงขั้นที่ว่า หากเพื่อไทยยังขืนดันทุรังดันกาสิโน ก็จะกลายเป็นเกมเข้าทางในการผลัก “ค่ายสีแดง” ตกไปอยู่ใน “วังวนพันลึก” เหมือนยุคนิรโทษสุดซอย

แน่นอนว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่พรรคร่วมรัฐบาลคู่เทียบ รอจังหวะช่วงชิงเกมดุลอำนาจอยู่ในเวลานี้

ในเชิงสัญลักษณ์ ที่ “พรรคภูมิใจไทย” พยายามเล่นบทเลือดสีน้ำเงินเข้มข้น โดยการเปลี่ยนโลโก้จากเดิม “แดงน้ำเงิน” เป็น “สีน้ำเงินล้วน” ถูกตีความในแง่ตลกร้ายว่า โลโก้ใหม่ “ไร้สีแดง” 

 หากตีความในแง่การเมือง การเล่นบทน้ำเงินเข้มข้น ไปถึงเกมดุลอำนาจ สลัดสีแดง เพื่อชิง“เบอร์หนึ่ง”อนุรักษนิยม ผูกโยงกับการโชว์พลังหักดิบนายใหญ่สีแดง ย่อมเป็นการซื้อใจมวลชนฝั่ง“อนุรักษนิยม”อย่างปฏิเสธไม่ได้