ร้าวลึก ‘ภูมิใจไทย’ ไฟต์ ‘เพื่อไทย’ สภาฯ ดับชนวน ‘ล้มรัฐบาล’

ขบเหลี่ยมชิงแต้ม แลกกันคนละหมัด รอยร้าวหนักภายในพรรคร่วมรัฐบาลชัดเจน ฉายภาพหน้าฉากทางการเมือง “ภูมิใจไทย” 70 สส. พรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 2 กำลังงัดข้อ ประลองกำลัง เปิดศึกแย่งแต้มการเมืองกับ “พรรคเพื่อไทย” 142 สส.

ด้วยวาระของร้อน กับพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงวร ในวาระที่ 1 หรือร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แรกเริ่มท่าที “ภูมิใจไทย” ดูเหมือนจะตกปากรับคำกับ “วิปรัฐบาล” ในปีกพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี พร้อมสนับสนุน พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กช์ 

เมื่อจังหวะสนับสนุน ให้เปลี่ยนระเบียบวาระ เอาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระที่ประชุมสภาฯ เป็นลำดับที่ 1 เรื่องด่วนก่อน เพื่อพิจารณาในวันที่ 9 เม.ย. 2568 จู่ๆ “ไชยชนก ชิดชอบ” สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ก็เปิดฉากใหญ่ ประกาศจุดยืนคัดค้าน“กาสิโน”กลางสภาฯ ชนิดที่ ผ่ากลางญัตติด่วนสภาฯ ที่กำลังพิจารณาศึกษาผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกา

“ลูกชายคนโตของนายเนวิน และนางกรุณา ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน และไม่ใช่แค่พ.ร.บ.ฉบับนี้แต่ทุกๆ พ.ร.บ.หลังจากนี้ แม้กระทั่งพ.ร.บ.ของพรรคภูมิใจไทย ที่เราคิดขึ้นมา และเสนอเพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ผมก็จะไม่พิจารณา”

ก่อนหน้านี้ เพียงวันเดียว “พรรคเพื่อไทย” ปรับแผนกะทันหัน เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2568 ด้วยการชะลอร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ไว้ก่อน เพื่อนำญัตติด่วน เรื่องการศึกษาผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกา ขึ้นมาแก้เกมกลางที่ประชุมสภาฯ

ดับกระแสร้อนภายในรัฐบาล และม็อบต้านกาสิโนนอกสภาฯ ถึงแม้ “จตุพร พรหมพันธุ์” จะประกาศขึงขังไม่เอาด้วยกับแนวทางเลื่อนระเบียบวาระออกไปก่อน เพราะต้องการคำตอบเดียวคือ ยกเลิก “กาสิโน”เท่านั้น

สอดรับกับท่าทีของ สว.สีน้ำเงิน ที่เดินเกมคัดค้านช่วงเช้า 8 เม.ย. 2568 ในจังหวะเดียวกับที่นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร”กำลังนั่งหัวโต๊ะ ที่ประชุม ครม.

หลังประชุม ครม. “แพทองธาร” นำแกนนำ หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ยืนแถลงท่าที เบรกกระแสร้อน พ.ร.บเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ โดยย้ำว่า มีสัดส่วนกาสิโนเพียง 10% ออกไปก่อน

ท่าทีนายกฯ แพทองธาร ถึงขั้นบ่นหลังไมค์กับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ว่า “คนละหมัด เหนื่อยแล้วอย่างนี้ไม่ไหว”

“หัวจะปวด” ยังเป็นคำอุุทาน ถึงสภาวะการเมืองตึงเครียดที่ “นายกฯ อิ๊งค์” เปรยผ่าน “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง

ห้วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา ปีที่ 2 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 เม.ย. 2568 รัฐบาลจะต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ สส.ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนนอกสภาฯ ว่าการมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ได้เป็นการทำบ่อนการพนัน 100%

เรื่องนี้ คีย์แมนรัฐบาลมอบหมาย “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง ทำหน้าที่รวมรวมประเด็นคำถามต่างๆ ที่ถาโถมกระหน่ำรัฐบาล เพื่อเคลียร์ความชัดเจนให้กระจ่างต่อสาธารณะ

ปิดสมัยประชุมรัฐสภา 3 เดือนถัดจากนี้ เพื่อไทยจึงมีโอกาสผ่อนคลายกระแสร้อน ทั้งม็อบต้าน พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค

เรื่องร้อน อีกวาระ ที่รัฐบาลต้องบริหารจัดการให้ดี ผ่านกลไกฝ่ายบริหาร คือ วิธีการแก้ปัญหากำแพงภาษีของสหรัฐฯ นโยบายประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่ง“ไทย” เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 36

นายกฯ แพทองธารได้ตั้งรับ เรียกประชุมคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา 9 คน เพื่อติดตามสถานการณ์การขึ้นภาษีครั้งนี้ โดยคณะทำงานชุดนี้ มี “พันศักดิ์ วิญญรัตน์” ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น รวมถึง “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นหัวหน้าทีมคณะเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ

แผนและประเด็นการเจรจากับผู้นำสหรัฐฯ มีประเด็นดังนี้ 1.ปรับลดภาษีสินค้านำเข้าบางรายการ 2.เพิ่มการนำเข้าสินค้าบางรายการที่ยังไม่เคยนำเข้า 3.ลดเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเข้า

หากประคองสถานการณ์ไปได้ เมื่อกลับมาเปิดประชุมรัฐสภา ในอีก 3 เดือนข้างหน้า เริ่ม 3 ก.ค. ก็ยังมี ร่าง พ.ร.บ.อีก 4 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างสังคมสันติ และนิรโทษกรรมให้กับประชาชน จ่อคิวพิจารณาต่อจาก พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งคิวร้อนนิรโทษ ก็สามารถจุดชนวนร้อนนอกสภาฯ ขึ้นมาได้อีก หากเพื่อไทย แก้เกมไม่ดี อาจถูกตีรวนว่า เป็นการนิรโทษกรรมให้กับผู้มีส่วนได้เสียทางการเมือง

ในห้วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา พรรคเพื่อไทยโดยปีกแกนนำ นปช.จะต้องทำเข้าความเข้าใจกับประชาชนนอกสภาฯ ที่อกหักกับจุดยืนของพรรค และยังมีเอฟซี “แดงเพื่อไทย” ที่รอความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา

กระแสร้อน ร้าวลึกบาดแผลใหญ่ คงหนีไม่พ้นการต้าน“กาสิโน”ในพรรคร่วม ที่ทำตัวเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาล

เกมต้านเกมคว่ำ "พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์" เกิดขึ้นก่อนประชุมสภาฯ 9 เม.ย. 2568 ไล่ตั้งแต่ปล่อยข่าวว่า "นายใหญ่" เพื่อไทย จะตะเพิดพรรคร่วมรัฐบาลหากไม่เห็นชอบกับ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว

ขุนพลคีย์แมน "พรรคสีน้ำเงิน"ออกมารับลูกกระแสข่าว เดินเกมต้านการพนัน ไล่ตั้งแต่ "ชาดา ไทยเศรษฐ์" สส.อุทัยธานี  "สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล" จนมาถึง "ไชยชนก" ประกาศท่าทีคัดค้านกลางสภาฯ รวมถึง สว.สีน้ำเงินที่ประกาศผ่านที่ประชุมวุฒิสภา คัดค้านกาสิโนอย่างหนัก

สัญญาณไม่น่าเป็นใจดังกล่าว ว่ากันว่า คีย์แมนในสภาฯ ของพรรคเพื่อไทยต้องส่งสัญญาณถึงนายกฯ แพทองธาร ให้ถอยฉากร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เอาไว้ก่อน ถึงแม้สัดส่วน 90% จะไม่ใช่กาสิโนก็ตาม อีกทั้งร่างกฎหมายนี้ ยังเป็นกฎหมายการเงิน สุ่มเสี่ยงที่“พรรคภูมิใจไทย” จะเล่นบท โหวตคว่ำ ร่าง พ.ร.บ.ได้

เกมนี้จึงถูกส่งสัญญาณผ่านผู้มีอำนาจสูงสุดในพรรค ให้ชะลอไว้ก่อน ถึงแม้จะต้องกลืนเลือดก็ตาม

“พรรคเพื่อนซี้” ทำท่าจะทำให้ “พรรคเพื่อไทย” ถึงจุดจบ หากเดินหมากไม่ดี มีผลถึงขึ้น “แพทองธาร” ร่วงจากนายกฯ

 เกม “ภูมิใจไทย” ไฟต์ “เพื่อไทย” ถูกถอดรหัสว่า เป็นการชิงเหลี่ยมคะแนนนิยมทางการเมือง จากฝ่ายคัดค้านกาสิโน เพราะถ้าร่างกฎหมายนี้ ต้องคว่ำลง อาจลุกลามบานปลาย เข้าทางม็อบนอกสภาฯ เรียกร้องให้ยุบสภา หรือกดดันให้ “แพทองธาร” ลาออก

ยังไม่นับหลายนโยบายที่ “พรรคภูมิใจไทย” ไม่รับลูก “พรรคเพื่อไทย” ที่เห็นออกหน้าสื่อ รวมทั้งที่ยังไม่ออกหน้าสื่อ ว่ากันว่า กระทรวงมหาดไทย ไม่รับลูกบางนโยบายสำคัญของรัฐบาล ตั้งแต่สมัยนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ด้วยซ้ำ

การเลือกเดิมเกมเพลย์เซฟให้ “นายกฯอิ๊งค์”ก่อน จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสม เพราะบรรดานักเลือกตั้งทั้งหลาย ยังไม่พร้อมเลือกตั้งในเวลานี้

สอดคล้องกับท่าที “นายใหญ่” ประกาศสัญญาณชัดถึง สส.พรรคเพื่อไทยเมื่อ 8 เม.ย. 2568 ว่า เลือกตั้งจะไม่ใช่เร็ววันนี้ แต่จะเป็นปี 2570 

ก่อนไปถึงจุดนั้น “เพื่อไทย” กับ “พรรคสีน้ำเงิน” จะยังคงประคองกอดคอกันไปหรือไม่ ต้องดูเกมต่อไป ในจังหวะเปิดประชุมรัฐสภาสมัยหน้าให้ดี

“เมื่อพรรคร่วมอันดับ 2 แสดงท่าทีคัดค้านกฎหมายของรัฐบาลขนาดนี้ ก็ต้องปรับ ครม.ไปเลย ช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา เอาพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลือเพียงพออยู่แล้ว” แหล่งข่าว ในทำเนียบฯ มองทางลงที่ควรจบได้แล้วครับนาย

ความเปราะบาง ร้าวหนัก ชัดเจน ตุกติกแบบ “ภูมิใจไทย” ทำให้ ผู้มีอำนาจใน “เพื่อไทย” ต้องแก้เกมหลายตลบ ดีดลูกคิดให้รอบคอบ ทิ้งไพ่วางเกมให้ “แพทองธาร” อยู่เซฟโซน เป็นทางหนีทีไล่เกมขู่ เกมเขี้ยวของพรรคเพื่อนสีน้ำเงิน