'พิธา' เย้ยศึกพท.-ภท. ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก มองแรงต้านกาสิโนกม.ส่อล่ม

'พิธา' เย้ยศึกงัดข้อเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก มองแรงต้านกาสิโน กฎหมายส่อล่ม ชี้ใครเคยเป็นเพื่อนอาจกลายเป็นคู่แข่ง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ในกรณีร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า เป็นเรื่องปกติ ซึ่งหากได้ติดตามการเมืองย้อนหลังในห้วงที่ผ่านมาช่วง 10 ปี หรือ 10 เดือนที่ผ่านมา มีความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาล 2 พรรคนี้มาโดยตลอดไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลกใจ ถ้าลงไปในระยะยาวระดับมหภาค โดยเฉพาะเป็นปีที่ 2-3 ของการจัดตั้งรัฐบาล
“ใครที่เคยเป็นเพื่อน ก็อาจจะกลายเป็นคู่แข่งทางการเมืองขึ้นมา เพราะฉะนั้นปะทุขึ้นมาก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ที่แปลกใจคือเรื่องร่าง พ.ร.บ.ที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ ผ่านมติ ครม.มาแล้ว จึงอยากเห็นวาระการประชุมวันนั้นว่า แต่ละพรรคมีจุดยืนต่อเรื่องนี้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเรื่องที่ไม่ได้คุยกันมาก่อน มีความรีบเร่งพอสมควร เป็นเรื่องที่แปลกใจว่า ผ่านมติ ครม. มาได้อย่างไร
สิ่งที่เกิดขึ้นในสภา 2-3 วัน ที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ แต่ไม่ได้แปลกใจที่สองพรรคการเมืองทะเลาะกัน หากใครตามการเมืองมาจะนึกถึงวลีเด็ดได้ ตอนที่ไปศรีสะเกษ เป็นเรื่องธรรมดาที่สองพรรคนี้มีความขัดแย้งกันมาโดยตลอด“ นายพิธากล่าว
เมื่อประเมินร่างกฎหมายดังกล่าว จะผ่านความเห็นชอบจากสภาหรือไม่ เพราะมีกระแสต้าน อยู่พอสมควรนั้น นายพิธากล่าวว่า จะต้องดูภาพใหญ่ว่า สำคัญสำหรับสถานการณ์การเมืองไทยและสถานการณ์การเมืองโลกในขณะนี้หรือไม่ ส่วนตัวเห็นว่า อันดับหนึ่ง ขณะนี้คือเรื่อง SMEs ที่มีความไม่มั่นคงในแต่ละพื้นที่ จะต้องดูแลดูแลอย่างไร ซึ่งจะต้องเป็นภารกิจหลักมากกว่า
“การสร้างบ้านต้องพื้นฐานให้เข้มแข็งเสียก่อน แทนที่จะไปสร้างหลังคา จึงถามว่า ความสำคัญในตอนนี้ใช่ เห็นว่ายังไม่ใช่ อันต่อมาเห็นว่าเรื่องนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ตอนที่เป็นก้าวไกล พูดในฐานะอดีตนักการเมืองตอนนั้น มีทั้งเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การฟอกเงินและ พ.ร.บ.การต่อสู้กับคอรัปชัน แล้วค่อยมาทำเรื่องคาสิโน ถ้าทำเป็นแพ็คเกจ 3 อันนี้เห็นว่า จะมีน้ำหนักที่ทำให้คนที่ต่อต้านพอรับฟังได้บ้าง แต่อันนี้คือจังหวะเศรษฐกิจก็ไม่ใช่ จังหวะการเมืองก็ไม่ใช่ เร่งรีบอีกแล้วยังไม่มีมุมมองเรื่องในการจำกัดข้อเสีย ซึ่งยังรวมมุมมองจุลภาคว่าตกลงจะกำหนดเงื่อนไข 50 ล้านบาทหรือไม่ หรืยังกลับไปกลับมา” นายพิธากล่าว