‘เอนเทอร์เทนเมนต์’ถอยไม่ถอน? ‘น้ำเงิน’ขยับเกม‘สายตรง’คุมกมธ.

อีกราว 3 เดือน สภาจึงจะเปิดสมัยประชุมแน่นอนว่าจังหวะนี้เองที่อาจได้เห็นการเปิดฉากต่อรองยื่นหมูยื่นแมวภายในพรรคร่วมรัฐบาล
KEY
POINTS
- จับอาการของแต่ละฝ่ายที่มีต่อวาระร้อนอย่าง ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือ "เอนเทอร์เ
อีกราว 3 เดือน สภาผู้แทนราษฎรจึงจะเปิดสมัยประชุมในวันที่ 3 ก.ค. แน่นอนว่าจังหวะนี้เองที่อาจได้เห็นการเปิดฉากต่อรองยื่นหมูยื่นแมวภายในพรรคร่วมรัฐบาลท่ามกลางสารพัดปมร้อนที่ค้างคาอยู่ในเวลานี้
จับอาการของแต่ละฝ่ายที่มีต่อวาระร้อนอย่าง ร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือ "เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" เวลานี้ ฝั่งพรรคเพื่อไทย ยังคงยืนยัน “ถอย” แต่ “ไม่ถอน”
เห็นชัดจากท่าทีของ “สทร.” ทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่เพื่อไทย พูดเมื่อวันที่13เม.ย.ที่ผ่านมา แสดงความมั่นอกมั่นใจ ประเด็นที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค และ สว. คัดค้านว่า “เป็นเรื่องของสว. รัฐบาลมีเสียงพอ”
หรือแม้แต่ท่าทีจาก “สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่พูดถึงมิติทางการเมือง ที่ต้องเดินหน้าทำความเข้าใจทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงการเดินหน้าเจรจากับทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในเรื่องนี้
อย่างที่รู้กันหลังจากที่ “ไชชนก ชิดชอบ” เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภา “ไม่มีทางเห็นด้วยกับกาสิโน” กระทั่ง “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาแก้เกี้ยวว่า เป็นอาการผิดคิว ไม่ใช่ดำเนินการในนามพรรค จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่สิ้นข้อสงสัยที่ว่า ตกลงแล้ว “ผิดคิว” หรือ “วางบิล” กันแน่
เพราะไม่ว่าจะเป็นท่าทีจาก “สว.สีน้ำเงิน” ที่ยื่นคำขาดต้องมีการประชามติ เพื่อถามความเห็นประชาชนไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 172 รวมถึงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) มาตรา 123/1 และอาจสุ่มเสี่ยงต่อการยื่นตรวจสอบจริยธรรม
หรือล่าสุดกรณีที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ให้ความเห็นชอบญัตติพิจารณาผลกระทบจากการดำเนินการเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึง “เกมชักเย่อ” ระหว่าง “มุมแดง” และ “มุมน้ำเงิน” อย่างเห็นได้ชัด
เหนือไปกว่านั้นที่ต้องจับตาคือ การประชุมกมธ.ศึกษากฎหมายเอนเทอร์เทนเมนต์ ของ สว. นัดแรก ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ซึ่งมีวาระเลือกประธาน รองประธานกมธ. ที่ว่ากันว่าที่ประชุมเตรียมเสนอ “ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์” อธิบดีกรมการปกครอง นั่งประธานกมธ. ในสัดส่วนกมธ.คนนอก
เป็นที่รู้กันว่า “อธิบดีไชยวัฒน์” ผู้นี้ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน แต่ถือเป็นสายตรง“ครูใหญ่บุรีรัมย์” แถมยังเคยปรากฏชื่อได้รับการปลุกปั้นจากครูใหญ่เป็น “ตัวเต็ง” ที่จะขึ้นแท่น “ปลัดกระทรวงมหาดไทย” เสียด้วยซ้ำ แน่นอนว่าการส่งสายตรงบุรีรัมย์เข้าคุมทีมกมธ.แทบจะไม่ต้องตีความเป็นอื่น
มีการตั้งข้อสังเกตว่า กมธ.ศึกษาชุดถูกเซ็ตขึ้น ไม่ใช่หวังผลการศึกษาที่เป็นเชิงวิชาการ แต่อาจถูกใช้เพื่อให้เป็น “เกมต่อรอง” ทางการเมืองระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคภูมิใจไทย” ล้วนๆ
เป็นเช่นนี้ต้องจับตาสารพัดวาระที่ค้างคาอยู่ในเวลานี้ อาจกำลังเป็นเกมวัดพลังฉากใหม่ ทั้งร่างแก้ไขพ.ร.บ.การพนัน รองรับ “พนันออนไลน์” ถูกกฎหมาย ที่เห็นการโชว์บทบาทการเป็นเจ้าภาพทั้งในส่วนที่ของกระทรวงมหาดไทย ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพรรคภูมิใจไทย กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่อยู่ภายใต้การดูแลของพรรคเพื่อไทย
ก่อนหน้านี้ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดีอี พูดถึงไทม์ไลน์ คาดว่าจะนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.ได้ภายในเดือน เม.ย.นี้
นอกจากนี้ ยังมีประเด็น“โพยฮั้ว สว.” ท่ามกลางสัญญาณ “ล้างกระดาน” การเมืองเพื่อนำไปสู่การเขย่าสูตรในอนาคต ไม่ต่างจากฉากวัดพลังที่ต่างฝ่ายต่างเปิดฉากสวนหมัดกันแบบไม่ยั้ง
ต่างๆเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงฉากการเมืองท่ามกลางเกมต่อรองที่ต้องจับตา ฉะนั้นข่าวคราว “ปรับครม.” ซึ่งถูกคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววัน น่าสนใจว่า จะกลายเป็นอีกหนึ่งเงื่อไขในการเปิดเกมต่อรองเหล่านี้หรือไม่อย่างไร