'ผู้นำฝ่ายค้าน' หนุน ไทยผนึกพลังอาเซียน เพิ่มต่อรอง 'สหรัฐฯ'

"ณัฐพงษ์" หนุน ผนึกพลังกลุ่มประเทศอาเซียน เพิ่มอำนาจต่อรอง-เจรจาการค้ากับ "สหรัฐฯ" ค้าน "ไทย" เลือกข้าง จีนหรือ สหรัฐ หวั่นมีผลกระทบมาก
ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามดึงอาเซียนร่วมเจรจา กับสหรัฐอเมริกาถึงประเด็นการตั้งกำแพงภาษีว่า ทุกการเจรจา อยากให้กำลังใจรัฐบาลในการเจรจาทุกรอบ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด แต่สิ่งสำคัญการเจรจาขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯเป็นหลัก
เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธารเปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในวันนี้(17 เม.ย.) จะใช้โอกาสนี้ผนึกกำลังในการเจรจาอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทิศทางใหญ่ๆ ตนคิดว่าเห็นตรงกันว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างอำนาจต่อรอง การร่วมมือกันในภูมิภาค เช่น เวทีอาเซียน และสิ่งสำคัญคือรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า มองว่านายกฯมาถูกทางแล้วใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดที่จะพูดคุย ขอย้ำว่าการพูดคุยเรื่องความเป็นประชาธิปไตย และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของเมียนมาก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเป็นปึกแผ่นของอาเซียนให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นในเวทีสากล
ซึ่งในเวทีระดับนานาชาติ
"ผมมไม่อยากให้เลือกข้างใดข้างหนึ่ง ไม่ว่าจีนหรือสหรัฐ อาจได้รับผลกระทบ ดังนั้นถ้ายึดหลักความเป็นประชาธิปไตย ยึดหลักสร้างความร่วมมือในอาเซียน จะทำให้เรามีอำนาจต่อรองมากขึ้นในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ" นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่าส่วนการที่วันนี้(17 เม.ย.)นายกฯจะพบกับ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและหัวหน้ารัฐบาลทหารเมียนมา จะเกิดผลกระทบอะไรตามมาหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องระมัดระวังท่าที เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่าท่าทีของไทยที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน การที่เราจะเจรจากับพล.อ.อาวุโสมิน อ่อง ลาย ซึ่งเป็นรัฐบาลทหารเมียนมา ก็จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ตนอาจจะให้ความเห็นอะไรไม่ได้ เนื่องจากไม่ทราบรายละเอียด แต่ในหลักการเมื่อได้คุยกันก็ต้องหนีไม่พ้นที่จะได้พูดคุยถึงการฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมา.







